รีวิว Bawarchi ร้านอาหารอินเดียสไตล์ภาคเหนือ ที่เต็มไปด้วยสีสันเครื่องเทศ

เมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ทีมงานของ 2baht.com ได้รับเชิญให้ไปชิมอาหารอินเดียที่ร้าน Bawarchi อาคาร President Tower ย่านชิดลม โดยเมนูในงวดนี้จะเป็นอาหารอินเดียดื่มกับคอกเทลสไตล์อินเดียครับ

ทีมงานได้รับเชิญจากร้านอาหารให้รีวิว โดยให้อิสระในการเขียนอย่างเต็มที่ และความเห็นทั้งหมดเป็นของทีมงานโดยตรง ต้องกราบขอบพระคุณทางร้านมา ณ ที่นี้ด้วย

แนะนำร้าน Bawarchi

ในความเข้าใจของคนทั่วไป (รวมถึงผู้เขียน) สิ่งที่เรามักจะคุ้นเคยกับอาหารอินเดียคือภาพลักษณ์ของอาหารที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศจัดจ้าน และเป็นอาหารที่หลายคนลังเลใจที่จะลอง แต่อันที่จริงแล้วคำว่า “อาหารอินเดีย” มีความหลากหลายมาก และมีความแตกต่างกันไปตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศอินเดีย ซึ่งอาหารของแต่ละภาคย่อมไม่เหมือนกันไปหมดเลยเสียทีเดียว

ร้าน Bawarchi เป็นร้านสไตล์อาหารอินเดียภาคเหนือ ร้านเปิดครั้งแรกในกรุงเทพตั้งแต่ปี 2541 และค่อยๆ ขยายสาขาไปเรื่อยๆ จนตอนนี้มีสาขาในหลายประเทศ ทั้งในอินเดีย พม่า และไทย โดยสาขาหลักอยู่ที่ชิดลม ตามที่ไปรีวิวในครั้งนี้

ทางเข้าร้าน

บรรยากาศของสาขาชิดลมมีการตกแต่งที่ค่อนข้างหรูหรา เท่าที่สอบถามมาคือเพิ่งปรับปรุงการตกแต่งร้านใหม่ไปไม่นาน บรรยากาศภายในเป็นร้านเล็กๆ จุคนไม่มาก และค่อนข้างเงียบ มีความเป็นส่วนตัวสูง ทุกคืนจะมีดนตรีอินเดียมาเล่นสดด้วย ถือว่าให้บรรยากาศที่หรูหรา ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคในย่านกลางเมืองได้เป็นอย่างดี

บรรยากาศในร้าน

นอกจากบรรยากาศในร้านที่ดำเนินไปอย่างหรูหราแล้ว ผู้ที่เข้ามาทานสามารถชมการทำอาหารของเชฟได้ ด้วยบรรยากาศ ‘ครัวเปิด’ ที่ทำให้มองเห็นทุกกิจกรรมในห้องครัวได้ครับ เสมือนหนึ่งชมการแสดงไปโดยปริยาย

บรรยากาศในครัว

รีวิวอาหารจากในครัว

สำหรับเมนูอาหารที่ไปรีวิวครั้งนี้ เป็นการจับคู่กันระหว่างอาหารและเครื่องดื่มค็อกเทลสไตล์อินเดียที่ทางร้านทำขึ้น นับว่าเป็นความแปลกใหม่อยู่ไม่น้อย สำหรับทีมงานที่ต้องรีวิวทั้งเครื่องดื่มและอาหารที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนไปพร้อมกันครับ

เริ่มต้นจานแรกที่ Tandori Chaap หรือ เนื้อแกะอบสมุนไพร (650++ บาท) ที่เกิดจากการเอาเนื้อแกะส่วนซี่โครงไปหมักเครื่องเทศสมุนไพร ก่อนจะนำไปพรมด้วยน้ำมันมัสตาร์ดผสมโยเกิร์ต แล้วค่อยนำเอาไปย่างเบาเตาถ่านอีกที

จานนี้เครื่องเทศค่อนข้างจัดมาก ตัวเนื้อแกะไม่มีกลิ่นเหม็น นุ่ม แต่ซอสที่มาคู่กันในจานหวานมาก ให้รสชาติช่วงจบที่ค่อนข้างแปลก คำแนะนำของทีมงานคือให้กินแต่เนื้อแกะพองาม ใช้ความหวานของซอสไปจัดสมดุลให้กับความจัดจ้านของเครื่องเทศได้ แต่อย่าผสมลงไปหมด

Tandori Chaap

จานนี้ถูกแนะนำให้จับคู่กับ Curry Scotch Smash วิสกี้ผสมกับน้ำเชื่อมเครื่องเทศอินเดีย มะนาวฝรั่ง (lemon) และใบมิ้นต์ โดยส่วนตัวพบว่าเป็นรสหวานอมขม ไม่ค่อยเข้ากันได้ดีนัก ควรกินอาหารก่อนแล้วดื่มปิดท้ายจะดีกว่า

ขึ้นจานที่สองกับ Tandoori Malai Broccoli หรือ บล็อคโคลี่สดอบชีส (465++ บาท) นำชีสผสมกับกระวานแล้วก็เกลือดำ เสิร์ฟพร้อมกับชัทนีย์แอปเปิ้ลและทับทิม

จานนี้บล็อคโคลี่สุกไปนิด ส่วนซอสก็มีความเป็นผลไม้ มีความเป็นเครื่องเทศชัด ถ้าไม่มีชีสร้อยเรียงกันอยู่จะทำให้จานนี้รวมกันไม่ได้ ดังนั้นถ้าจะกินต้องรวมเป็นก้อนเดียว ทั้งชีส ผัก และซอส

Tandoori Malai Broccoli

ส่วนค็อกเทลที่ถูกแนะนำคือ Nri Ice Tea ที่เป็นส่วนผสมของมาร์ตินี่ วอดก้า และน้ำมะนาวฝรั่งสด รสชาติชับเน้นความหวานติดขม แต่สามารถล้างปากได้ดี เข้ากับตัวบล็อคโคลี่อยู่มากทีเดียว

จานต่อไปเป็น Tawa Jhinga Masala หรือ กุ้งตัวใหญ่ผัดกับมาซาลามะเขือเทศผสมมะนาว (875++ บาท) ตัวกุ้งทำได้ดี แต่โดยรวมจานนี้ค่อนข้างติดมัน และกลิ่นเครื่องเทศไม่จัดจ้านอย่างที่คิดไว้ ต้องกินกับแป้งนานที่มีทั้งแบบกรอบและแบบนุ่ม มาในถาดครับ

Tawa Jhinga Masala
แป้งนาน

จานนี้แต่เดิมถูกแนะนำให้จับคู่กับ Nri Ice Tea แต่ด้วยการสื่อสารหรือการจัดระบบทางร้านที่ไม่เข้าใจกัน ทำให้ตัวนี้ถูกแนะนำจับคู่กับ Tamarind Magarita เป็นค็อกเทลมะขาม รสชาติเหมือนน้ำมะเขือเทศ มีความเผ็ดร้อนนิดๆ เข้าคู่ป้อล้อกันไปได้ด้วยดี

Tamarind Magarita

ต่อไปเป็น Bawarchi Dal Makhani หรือแกงถั่วดำ (275++ บาท) เป็นแกงกะหรี่ถั่วดำเล็กๆ แบบที่คนไทยอาจจะคุ้นเคยบ้าง เอาไปเคี่ยวกับมะเขือเทศข้ามคืน เสิร์ฟพร้อมกับเนย

เรื่องรสชาติเครื่องเทศไม่จัดมาก ให้สัมผัสร้อนเมื่อกลืนลงไปในคอ กินกับแป้งนานแบบนุ่มให้รสชาติที่ดีครับ

Bawarchi Dal Makhani

ปิดท้ายของคาวกันที่ Bawarchi Hyderabadi หรือ ข้าวหมกแกะ (595++ บาท) จานนี้ใช้ข้าวบริยานี (ผอมๆ ยาวๆ) กับเนื้อแกะที่อบมานุ่ม รสชาติใกล้เคียงกับพะแนง ข้าวหุงมาพอดี จานนี้ถือว่าโดดเด่นที่สุดในรรดาทุกจานที่ชิมมาทั้งหมด แนะนำเป็นอย่างยิ่ง

Bawarchi Hyderabadi

จานนี้ถูกแนะนำให้จับคู่กับ Masala Chai Martini เป็นค็อกเทลที่มีลักษณะติดหวาน ครีม คาราเมล และเป็นนมส่วนมาก ช่วงจบมีแอลกอฮอล์ที่แรงอยู่ ถือว่าทำมาได้ดีและเข้าคู่กับจานนี้ได้อย่างลงตัว

Masala Chai Martini

ปิดท้ายกันที่ของหวานที่เป็น Kulfi หรือไอศครีมมะม่วงสไตล์อินเดีย ที่เป็นของหวานแช่แข็ง ทำจากเมื้อมะม่วงเคี่ยวเข้ากับนมผสมด้วยแป้งถั่วพิสตาชิโอและกระวาน รสชาติครีมจัด แน่นกว่าไอศครีมปกติ มะม่วงชัดเจนมาก จานนี้ถือว่าแปลกใหม่ แนะนำอย่างยิ่งครับ

Mango Kulfi

บทสรุปของการรีวิวและเรื่องการบริการ

ในแง่ของการบริการ คนไทยที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษอาจลำบากหน่อย เพราะพนักงานทุกคนเป็นชาวอินเดีย จึงต้องพูดภาษาอังกฤษทั้งหมด ส่วนเรื่องอาหารออกช้าเล็กน้อย แต่ถ้าออกมาแล้วก็มาไล่เลี่ยกันหมด ถือว่าจัดเตรียมได้ดีอยู่ระดับหนึ่ง

น้ำดื่มที่ใช้ของ Bawarchi ระบุข้างขวดว่าเป็นน้ำแร่มาจากภูเขามัทรี ตรงนี้ไม่รู้ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร เพราะทีมงานพยายามหาข้อมูลแต่ไม่พบครับ

น้ำดื่มจากภูเขามัทรี

อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตประการหนึ่งคือร้านอาหารระดับนี้ (ราคาสูง) ในแง่ของการบริการ พนักงานยังเหมือนกับไม่ค่อยนิ่งนัก ตอนได้รับน้ำดื่มก็วางขวดไว้ให้ผู้มาทานรินเอง หรือการเสิร์ฟค็อกเทลที่ทุกจานที่กำหนดไว้ต้องมาคู่กัน แต่เสิร์ฟลำดับสลับและไม่ชัดเจนด้วย พอมาถึงการเก็บจานใช้เวลาได้เร็วและทำได้ดี อ่านสัญญาณการวางช้อนส้อมออก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม

โดยสรุปแล้ว ร้าน Bawarchi ในเรื่องของการตกแต่งสถานที่ถือว่าหรูหรา อาหารเป็นอินเดียที่ค่อนไปทางเหนือถือว่าอร่อย ทำได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่อื่น อย่างไรก็ตามในเรื่องของการบริการถือเป็นข้อสังเกตสำคัญที่อาจต้องหยิบมาพิจารณาเล็กน้อยครับ

ข้อมูลเกี่ยวกับร้าน

  • เวลาเปิดให้บริการ: 11.00 น. – 23.00 น.
  • หมายเลขโทรศัพท์: 02-656-0102-3
  • เว็บไซต์: http://bawarchiindian.com/bawarchi-chidlom/
  • การเดินทางและที่ตั้ง: อยู่ชั้นใต้ดินของ President Tower Arcade (อาคารโรงแรม Intercontinental กรุงเทพ) ลงที่สถานีรถไฟฟ้าชิดลม แล้วเดินย้อนมาทาง Central World เมื่อเจอโรงแรม InterContinental อยู่ทางขวามือให้ลงบันไดชั้นใต้ดิน จะเจออยู่ทางขวามือครับ