สายการบิน SWISS อัพเกรดไฟลท์กรุงเทพ-ซูริก มาใช้ Boeing 777-300ER

สายการบินสวิส SWISS สายการบินประจำชาติของสวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม Star Alliance อัพเกรดมาใช้เครื่องบินรุ่นใหม่ Boeing 777-300ER ให้บริการในเส้นทางบินกรุงเทพ-ซูริกแล้ว โดยให้บริการเป็นประจำทุกวัน เริ่มตั้งแต่ 16 กรกฎาคม 2016

SWISS มีบริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพ-ซูริก เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว เดิมทีใช้เครื่องรุ่น Airbus A340 ที่เก่าพอสมควร ล่าสุด SWISS เปลี่ยนมาใช้ Boeing 777-300ER ที่ใหม่กว่า กว้างกว่า จุผู้โดยสารได้มากกว่า และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นมาก

SWISS Boeing 777-300ER ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
SWISS Boeing 777-300ER ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

เครื่อง Boeing 777-300ER กับเส้นทางบินกรุงเทพ-ซูริก

SWISS นำเครื่อง Boeing 777-300ER มาให้บริการใน 3 เส้นทางบินจากซูริกมายังเอเชีย ได้แก่ ฮ่องกง กรุงเทพ สิงคโปร์

เส้นทางบินซูริก-กรุงเทพ เปลี่ยนมาใช้ Boeing 777-300ER แทนทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ 16 กรกฎาคม 2016 ที่ผ่านมา

ตารางการบิน

  • LX180 ออกจากซูริก 17:50 ถึงกรุงเทพ 09:15 ของวันถัดไป
  • LX181 กรุงเทพ 13:05 ถึงซูริก 19:35

swiss-destination

การจัดที่นั่งของ SWISS Boeing 777-300ER

ปัจจุบันมีสายการบินเพียง 2 รายที่ให้บริการไฟลท์บินตรงระหว่างกรุงเทพ-ซูริก คือ สายการบิน SWISS และการบินไทย

จุดที่แตกต่างคือ สายการบิน SWISS ยังให้บริการแบบ 3 ระดับที่นั่งคือ First, Business, Economy ในขณะที่การบินไทยมีเฉพาะ Business และ Economy เท่านั้น

การจัดเรียงที่นั่งของสายการบิน SWISS Boeing 777-300ER จะเป็น

  • First Class 8 ที่นั่ง จัดเรียงแบบ 1-2-1
  • Business Class 62 ที่นั่ง จัดเรียงแบบ 1-2-2 และ 2-2-1 สลับกัน
  • Economy Class 270 ที่นั่ง จัดเรียงแบบ 3-4-3

ทุกที่นั่งมีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายบนเครื่อง และมีบริการโทรศัพท์ทางไกลบนเครื่องบินด้วย ราคาแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตของ SWISS แบ่งออกเป็น 3 แบบคือ

  • แพ็กเกจเล็ก 20MB ราคา 9 ฟรังก์สวิส
  • แพ็กเกจกลาง 50MB ราคา 19 ฟรังก์สวิส
  • แพ็กเกจใหญ่ 120MB ราคา 39 ฟรังก์สวิส

First Class

สายการบิน SWISS ยังวางตัวเองเป็นสายการบินแบบพรีเมียมเต็มที่ และยังรักษาที่นั่งชั้นหนึ่งเอาไว้ แม้สายการบินอื่นๆ จะเริ่มหยุดให้บริการชั้นหนึ่งแล้วก็ตาม

First Class ของ SWISS มีคอนเซปต์เป็น Personal Wardrobe ที่นั่งสามารถนอนราบได้ มีผนังกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว และทำหน้าที่เป็นตู้เสื้อผ้าสำหรับแขวนสูทหรือเสื้อนอกได้ด้วย

บริการอื่นๆ ยังมีหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ 32 นิ้ว (ใหญ่ที่สุดในหมู่สายการบินทั้งหลาย) มีหน้าจอที่สองเอาไว้ดูข้อมูลอื่นๆ ด้วย ผู้โดยสารชั้นหนึ่งยังจะได้บริการอินเทอร์เน็ตฟรี 50MB โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

swiss first

Business Class

ที่นั่งชั้นธุรกิจหรือ Business Class ใช้หน้าจอขนาด 16 นิ้ว (ใหญ่กว่าปกติที่เป็น 12 นิ้ว) มีโต๊ะทำงานแบบใหม่ มีพื้นที่ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

swiss business

Economy Class

สุดท้ายคือที่นั่งชั้นประหยัด ก็ปรับปรุงให้มีพื้นที่วางขา (leg room) กว้างขึ้น ทีวีจอใหญ่ขึ้นเป็น 11 นิ้ว และเปลี่ยนมาใช้ทีวีแบบทัชสกรีนทั้งหมดแล้ว เบาะก็ปรับปรุงให้นั่งสบายขึ้น หลังเก้าอี้มีที่วางแก้วแยกเฉพาะ และที่วางสมาร์ทโฟน พร้อมพอร์ต USB ทุกที่นั่ง

swiss economy

มีอะไรใหม่ใน Boeing 777-300ER ของสายการบิน SWISS

การเปลี่ยนมาใช้ Boeing 777-300ER มีข้อดีคือ รองรับจำนวนผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจากเครื่องที่ใหญ่ขึ้น เก้าอี้แบบใหม่ที่เพิ่มพื้นที่และความเป็นส่วนตัว ทำให้โดยสารจากเส้นทางระยะไกลได้สบายกว่าเดิม แม้กระทั่งที่นั่งชั้นประหยัดก็ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของเบาะที่นั่ง เรียกว่า Supracore (ซูพราคอร์)

SWISS Technology seat-cushion : Supracore

ภายในเครื่อง Boeing 777-300ER ดีไซน์ห้องโดยสารเปลี่ยนไปจากเดิม ตามปกติแล้ว เวลาเราเดินขึ้นเครื่องบินก็มักเจอ “ครัว” เป็นอย่างแรก ซึ่ง SWISS ปรับปรุงประสบการณ์ใหม่ ให้เหมือนเดินเข้ามาเจอรีเซปชั่นของโรงแรมแทน

swiss onboard experience

ห้อง Galley หรือพื้นที่บริการอาหาร ยังปรับปรุงให้มี Self Service Kiosk ให้ผู้โดยสารมาหยิบอาหารว่างและเครื่องดื่มได้ตามต้องการ ตลอดระยะเวลาที่เดินทาง

swiss kiosk

จุดเด่นอีกอย่างของสายการบิน SWISS ตอนนี้คือเป็นสายการบินแรกในโลก ที่ผ่านการรับรองเรื่องปลอดภัยต่อคนเป็นภูมิแพ้ (allergy-friendly) โดยมีมาตรฐานเรื่องสภาพอากาศ ไม่มีสารให้ระคายเคืองในสเปรย์ปรับอากาศ, ห้องน้ำมีสบู่ที่ปลอดภัยต่อผิวแพ้ง่าย และมีอาหารพิเศษสำหรับคนที่แพ้อาหารบางอย่าง เช่น lactose-free, gluten-free

ครั้งแรกของ SWISS กับ Boeing และใบหน้าแอร์คนไทยบนเครื่อง

การเปลี่ยนมาใช้ Boeing 777-300ER ของสายการบิน SWISS ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์บริษัท เพราะเป็นครั้งแรกที่ SWISS ย้ายจากค่าย Airbus มาเป็น Boeing

เดิมที SWISS มีเครื่องบินระยะไกลคือ Airbus A340-300 จำนวน 15 ลำ ซึ่งจะทยอยเปลี่ยนเป็น Boeing 777-300ER แทนทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2015 จนถึงปี 2025 โดยเบื้องต้นจะซื้อมา 9 ลำ

swiss fleet

ในโอกาสที่ SWISS ซื้อ Boeing 777 เป็นลำแรก ก็เลยเพนท์ลายของเครื่องเป็นใบหน้าของพนักงานของบริษัทจำนวน 2,500 คน เพื่อเป็นการขอบคุณพนักงานที่ทำงานหนักมาโดยตลอดด้วย โครงการนี้ใช้ชื่อว่า Face of SWISS

จุดที่น่าสนใจคือมีใบหน้าของพนักงาน 12 คนเท่านั้นที่ใหญ่เป็นพิเศษ และหนึ่งในนั้นมีแอร์โฮสเตสคนไทย นางสาวจันทิพร บุญเกียรติ ได้รับคัดเลือกด้วย

Swiss Face Paint

นางสาวจันทิพร บุญเกียรติ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชาวไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนของลูกเรือของสายการบินสวิสที่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 12 ภาพที่ใหญ่ที่สุดในโครงการ “Faces of SWISS”

SWISS

ด้วยความใส่ใจของสายการบิน SWISS กับผู้โดยสารชาวไทย ทุกเที่ยวบินของเส้นทางบินตรงกรุงเทพ-ซูริก จะมีลูกเรือคนไทยคอยต้อนรับ และหากถูกปฏิเสธการขอวีซ่าเชงเก้นจากสถานทูตสามารถขอ refund ค่าโดยสารคืนได้