10 อันดับเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่คุณควรไปเยือนสักครั้ง (ข้อมูลปี 2015)

เว็บไซต์ TripAdvisor เผยอันดับเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากไปเยือน ประจำปี 2015 โดยเว็บไซต์ 2Baht.com ขอคัดเลือกเฉพาะ 10 อันดับแรกมานำเสนอ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับนักเดินทางชาวไทย ดังนี้

10) เคปทาวน์ แอฟริกาใต้

เคปทาวน์ (Cape Town) เมืองใหญ่ที่อยู่ใต้สุดของทวีปแอฟริกา และเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศแอฟริกาใต้

เคปทาวน์เคยเป็นเมืองตากอากาศสมัยอาณานิคมอังกฤษ มีสภาพอากาศเย็นสบายเหมือนยุโรป ตัวเมืองติดทะเล มีชายหาดและอ่าวสวยงาม และมีภูเขาหินหัวตัด Table Mountain ตั้งเด่นเป็นสัญลักษณ์ของเมือง

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เคปทาวน์ยังมีประวัติศาสตร์การต่อสู้ของชาวแอฟริกาใต้ในช่วงแบ่งแยกสีผิว ฝั่งของตัวเมืองสมัยใหม่ก็เต็มไปด้วยร้านค้า ห้างสรรพสินค้า สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และเคยร่วมจัดฟุตบอลโลก 2010 มาแล้ว

Table Mountain ภูเขาหัวตัด เคปทาวน์ แอฟริกาใต้ - 2Baht
Table Mountain ภูเขาหัวตัด เคปทาวน์ แอฟริกาใต้ – 2Baht

9) ปารีส ฝรั่งเศส

เมื่อไรก็ตามที่มีการจัดอันดับเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก ย่อมมีกรุงปารีส (Paris) นครหลวงของฝรั่งเศสเสมอ

สัญลักษณ์ของกรุงปารีสย่อมเป็นหอไอเฟลที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปด้วย แต่สถานที่ท่องเที่ยวของปารีสมีอะไรเยอะกว่านั้นมาก ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ (Louvre), ประตูชัย Arc de Triomphe, ถนนฌองเซลิเซ่ (Champs Elysee), พระราชวังแวร์ซาย (Versailles), มหาวิหารน็อตเธรอดาม (Notre Dame), ย่านมองมาร์ต (Montmartre)

ปารีสถือเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก มีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละกว่า 30 ล้านคน มีกิจกรรมทางศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ มากมาย

Paris skyline, France
ทองฟ้ายามค่ำคืนที่ปารีส / Luke Ma / Flickr

8) บัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา

บัวโนสไอเรส (Buenos Aires) เมืองหลวงของประเทศอาร์เจนตินา มีความหมายแต่เดิมว่า “ลมดี” (Good Winds) ในภาษาสเปน

บัวโนสไอเรสเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอาร์เจนตินา และเป็นจุดศูนย์กลางของวัฒนธรรมแบบละตินในทวีปอเมริกาใต้ ตัวเมืองยังมีสถาปัตยกรรมสมัยโคโนเนียลมากมาย อีกทั้งเต็มไปด้วยนิทรรศการและการแสดงด้านดนตรี การเต้นรำ เมืองนี้ยังเป็นจุดกำเนิดของการเต้นแบบแทงโก้ (Tango) ด้วย

Buenos Aires, la ciudad contada. / The city to be told.
Hernán Piñera / Flickr

7) โรม อิตาลี

โรม (Rome) เมืองหลวงของประเทศอิตาลี ถือเป็นอีกเมืองสำคัญของแวดวงการท่องเที่ยวโลก โรมเป็นเมืองโบราณที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคโรมัน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงโรมจึงเป็นการผสมผสานระหว่างโบราณสถานดั้งเดิมยุคโรมัน (เช่น สนามกีฬาโคลอสเซียม หรือย่านโรมันฟอรัม) กับอาคารสถานที่ในยุคกลาง เช่น กรุงวาติกัน ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์

บรรยากาศในเมืองเก่าของกรุงโรมยังรักษาบรรยากาศแบบเดิมๆ ไว้ครบถ้วน นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมจัตุรัสเก่า โบสถ์เก่า ถนนหินเล็กๆ ที่ลัดเลาะไปตามย่านต่างๆ ของเมือง รวมถึงชิมอาหารอิตาเลียนแท้ๆ ที่เป็นอาหารจานเด่นของยุโรปได้โดยตรง (อ่าน Pizza Baffetto ว่ากันว่าพิซซ่าร้านนี้อร่อยที่สุดในกรุงโรม)

Rome Skyline
บรรยากาศภายในกรุงโรม / Bert Kaufmann / Flickr

6) ลอนดอน สหราชอาณาจักร

ลอนดอน (London) เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ ยังเป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลกตลอดกาล ลอนดอนเป็นเมืองเก่าที่มีอาคารสถานที่ทางวัฒนธรรมมากมาย เช่น หอนาฬิกาบิ๊กเบน ทาวเวอร์ออฟลอนดอน สะพานทาวเวอร์บริดจ์ พิพิธภัณฑ์บริติชมิวเซียม, พระราชวังบั๊กกิงแฮม, วิหารเซนต์ปอล แต่ก็ยังมีวัฒนธรรมสมัยใหม่ให้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นละครเพลงย่าน West End, ชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของทีมดังอย่างอาร์เซนอล-เชลซี, เที่ยวผับแบบอังกฤษแท้ๆ

ย่านที่คนไทยนิยมไปเที่ยวในลอนดอนคือการช็อปปิ้งที่ถนน Oxford Street และการไปเดินไชน่าทาวน์ Soho แต่ลอนดอนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากให้ค้นหา เช่น สวนพฤกษชาติ Kew Garden, ย่านธุรกิจใหม่ริมแม่น้ำเทมส์

'Amongst The Crowd' - Millennium Bridge, London
สะพาน Millennium Bridge / Kris Williams / Flickr

5) ปราก สาธารณรัฐเช็ก

ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ถูกยกย่องว่าเป็นเมืองโรแมนติกแห่งทวีปยุโรป

วัฒนธรรมแบบโบฮีเมียนกลายเป็นสเน่ห์ที่โดดเด่นของปราก แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอยู่ริมแม่น้ำ Vitava ไม่ว่าจะเป็นปราสาทปราก (Prague Castle หรือ Prazsky Hrad) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในโลก, จัตุรัสเก่า (Old Town Square), นาฬิกา Atomic Clock และสะพานที่มีชื่อเสียงระดับโลก สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) สะพานหินเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่ปี 1357 และมีรูปปั้นนักบุญ 30 องค์เป็นสัญลักษณ์

The blue sunset in Prague
สะพานชาร์ลส์และปราสาทปราก / Miroslav Petrasko / Flickr

4) ฮานอย เวียดนาม

ฮานอย (Hanoi) เมืองหลวงของเวียดนาม และเป็นเมืองสำคัญที่สุดของเวียดนามตอนเหนือ เมืองฮานอยมีอายุมากกว่า 1,000 ปีแล้ว (เพิ่งฉลองครบ 1,000 ปีไปเมื่อปี 2010)

ฮานอยตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำแดง (Red River) แม่น้ำสำคัญของประเทศเวียดนาม แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือ “หอคอยเต่า” กลางทะเลสาบกลางเมือง และเขต Old Quarter เมืองเก่าที่ประกอบด้วยถนน 36 เส้น ยังคงบรรยากาศการค้า ตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าแบบดั้งเดิมอยู่ครบถ้วน จุดเด่นของเวียดนามคือค่าใช้จ่ายที่ถูกมากเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่อื่นๆ ของโลก

ความน่าสนใจอีกประการของฮานอยคือยังมีอาคารสถานที่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศสอยู่มาก รวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง นักท่องเที่ยวที่มาเยือนฮานอยยังมักเดินทางไปเที่ยวอ่าวฮาลอง (Halong Bay) แหล่งท่องเที่ยวระดับโลกอีกแห่งที่อยู่ไม่ไกลด้วย

Streets of Hanoi
บรรยายกาศที่ฮานอย / Brian Huang / Flickr

3) อิสตันบูล ตุรกี

อิสตันบูล (Istanbul) เมืองหลวงของประเทศตุรกี ตั้งอยู่สุดขอบของทวีปยุโรป ก่อนข้ามทะเลดำมายังทวีปเอเชีย

อิสตันบูลมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยโรมัน เพราะเป็นเมืองหลวงของโรมันตะวันออก (ไบเซนไทน์) โดยใช้ชื่อว่าคอนสแตนติโนเปิล จากนั้นภายหลังก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางอำนาจของจักรวรรดิออตโตมัน (Ottoman Empire) ที่มีอายุยาวนานถึง 600 กว่าปี

แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอิสตันบูลคือสุเหร่า Blue Mosque และวิหาร Hagia Sophia ที่ใหญ่โตอลังการ, ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัสที่แบ่งยุโรปกับเอเชีย รวมถึงเดินตลาด bazaar ท้องถิ่นที่ยังคงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบอิสลามไว้อย่างครบถ้วน

Istanbul at night
วิหาร Hagia Sofia และ Blue Mosque ที่อิสตันบูล / Juraj Patekar / Flickr

2) เสียมเรียบ กัมพูชา

“See Angkor Wat and Die” ประโยคอมตะที่ถือเป็นคำยกย่องความมหัศจรรย์ของ “นครวัด” อภิมหาปราสาทหินของประเทศกัมพูชา

แน่นอนว่าเป้าหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาเยือนเสียมเรียบ (Siem Reap) ย่อมเป็นการเข้าชมนครวัด แต่จริงๆ แล้วเสียมเรียบยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมาก โดยเฉพาะปราสาทหินต่างๆ อย่างนครธม (Angkor Thom) ปราสาทตาพรม (Ta Prohm) นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์สงคราม (War Museum) รวมประวัติศาสตร์สมัยเขมรแดง, ตลาดเก่า (Old Market), หมู่บ้านวัฒนธรรมกัมพูชา (Cambodian Cultural Village) รวมไปถึงการล่องเรือในโตนเลสาบ (Tonle Sap) ทะเลสาบขนาดใหญ่ใจกลางประเทศกัมพูชาด้วย

Angkor Wat
เงาสะท้อนนครวัด / Kerb 汪 / Flickr

1) มาร์ราเคช โมร็อกโก

มาร์ราเคช (Marrakesh) เมืองมหัศจรรย์แห่งโมร็อกโก กลายมาเป็นเมืองเป้าหมายอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั่วโลกประจำปีนี้ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่พันปี (เมืองเริ่มก่อตั้งอย่างเป็นทางการในปี 1062 แต่มีคนอยู่อาศัยมาก่อนหน้านั้น) มาร์ราเคชยังเต็มไปด้วยสเน่ห์ของชาวเผ่าทะเลทรายแถบแอฟริกาเหนือ ป้อมปราการและปราสาทโบราณ ที่มีแผงขายสินค้า ตลาด (souk) บาซาร์ แทรกตัวอยู่ทั่วไป

มาร์ราเคชถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของโมร็อกโก แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองคือจัตุรัส Jemaa el-Fnaa ที่เป็นจัตุรัสที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของแอฟริกา  นอกจากนี้มีโบราณสถาน พระราชวัง มัสยิด กำแพงเมืองโบราณ ให้เยี่ยมชมอีกมาก

นอกจากนี้ ในฐานะของเมืองท่องเที่ยวยอดฮิต มาร์ราเคชยังมีโรงแรมหรูหรามากมายให้พักอาศัยได้ตามชอบ โดยโรงแรมที่มีชื่อเสียงคือ Mamounia Hotel หรือ La Mamouniaโรงแรม 5 ดาวที่ตกแต่งแบบโมร็อคคาน สร้างในปี 1925 ตั้งอยู่กลางเมืองเก่าของมาร์ราเคช และเคยเป็นสถานที่แต่งงานของลูกสาวประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียมาแล้ว

Palais el-Badi
พระราชวังเก่าในมาร์ราเคซ / David Stanley / Flickr

อันดับเมืองที่เหลือได้แก่

  • 11) นิวยอร์ก (New York City) สหรัฐอเมริกา
  • 12) เซอร์แมท (Zermatt) สวิตเซอร์แลนด์
  • 13) บาร์เซโลนา (Barcelon) สเปน
  • 14) โกเรเม่ (Goreme) ตุรกี
  • 15) อูบุด (Ubud) อินโดนีเซีย – อ่านบทความ อูบุด (Ubud) ศูนย์กลางศิลปะวัฒนธรรมแห่งเกาะบาหลี แหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักเดินทางผู้แสวงหา
  • 16) คัสโค (Cusco) เปรู
  • 17) เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersburg) รัสเซีย
  • 18) กรุงเทพ (Bangkok) ไทย
  • 19) กาฐมาณฑุ (Kathmandu) เนปาล
  • 20) เอเธนส์ (Athens) กรีซ
  • 21) บูดาเปสต์ (Budapest) ฮังการี
  • 22) ควีนส์ทาวน์ (Queenstown) นิวซีแลนด์
  • 23) ฮ่องกง (Hong Kong) จีน
  • 24) ดูไบ (Dubai) สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์
  • 25) ซิดนีย์ (Sydney) ออสเตรเลีย

ข้อมูลการจัดอันดับจาก TripAdvisor, เนื้อหาโดย 2Baht.com ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาโดยไม่ได้รับอนุญาต