แนวคิดของญี่ปุ่นคือพัฒนาสถานที่ธรรมดาที่พบได้ทั่วไป เช่น สถานีรถไฟ โรงเรียน ศาลเจ้า แล้วเพิ่มคาแรกเตอร์จากการ์ตูนอนิเมะหรือมังงะเข้าไป เพื่อให้เป็น “สถานที่ศักดิ์สิทธิ์” ที่แฟนการ์ตูนเรื่องนั้นๆ ต้องเดินทางไปคารวะเยี่ยมชม เพื่อกระตุ้นให้คนกระจายไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ นอกเหนือจากสถานที่ยอดฮิตกันมากขึ้น
ส่วนสถานที่ทั้ง 88 แห่งจะเป็นที่ไหน สำนักพิมพ์ Kadokawa ที่เป็นพันธมิตรร่วมเปิดตัวโครงการ มีเว็บไซต์ Anime Tourism 88 ให้แฟนการ์ตูนจากทั่วโลกมาช่วยกันโหวต
กระบวนการคัดเลือกสถานที่จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนธันวาคม 2016 นี้ โดยจะกำหนดว่ามีที่ไหนบ้าง และจะนำงานอนิเมะเรื่องไหนไปแสดงบ้าง
ตัวอย่างสถานที่ที่ถูกนำเสนอมาแล้วคือศาลเจ้า Washinomiya Jinja ในเมืองไซตามะ ชานกรุงโตเกียว ซึ่งปรากฎอยู่ในอนิเมเรื่อง Lucky Star ของ Kagami Yoshimizu หรือบันไดทางเดินขึ้นศาลเจ้าในภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง Your Name ที่เพิ่งออกฉายเมื่อเร็วๆ นี้
สถานที่อีกแห่งคือเมืองคามาคุระ (Kamakura) ในจังหวัดคานางาว่า ซึ่งมีทางข้ามรางรถไฟใกล้ชายทะเล เป็นฉากที่อยู่ในการ์ตูนบาสเก็ตบอลเรื่อง Slam Dunk (วินาทีที่ 54 ในเพลงเปิดตัว)
สถานที่จริงในเมืองคามาคุระ
สถานที่อื่นที่ถูกพูดถึงคือ หุ่นยนต์ยักษ์ Gundam ที่ย่านโอไดบะ ซึ่งคนไทยรู้จักกันดี รวมถึงสตูดิโอ Ghibli ของผู้กำกับ Hayao Miyazaki ด้วย
โครงการนี้มาจากแนวทางของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (Japan Tourism Agency) ที่ศึกษาพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ (ตามข่าวบอกว่าเป็นฝรั่งเศสและไทย) และพบว่านักท่องเที่ยวเหล่านี้สนใจมาเที่ยวญี่ปุ่นจากภาพยนตร์และสื่อบันเทิงต่างๆ ซึ่งทางการท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็พยายามจะใช้ประโยชน์จากปัจจัยนี้ให้มากขึ้นด้วย
Tsuguhiko Kadokawa ประธานของสำนักพิมพ์ Kadokawa บอกว่าญี่ปุ่นต้องใช้ประโยชน์จากงานศิลปะที่ทั่วโลกรู้จักกันดีเหล่านี้ ให้เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ วัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่นสามารถเทียบชั้นได้กับฮอลลีวู้ดแล้ว
กลุ่มพันธมิตรที่ประกอบด้วยสำนักพิมพ์ Kadokawa, บริษัทท่องเที่ยว JTB Corp, สายการบิน Japan Airlines และสนามบินนาริตะ ร่วมกันตั้ง “สมาคมการท่องเที่ยวเชิงอนิเมะ” (Anime Tourism Association) ขึ้นมาเพื่อการนี้ โดยมีประธานคือ Yoshiyuki Tomino ผู้สร้างซีรีส์กันดั้ม
ข้อมูลจาก Voice of America และ Japan Times