รัฐบาลมาเลเซีย ประกาศไม่ต่อสัญญาการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง Formula One Grand Prix ที่สนาม Sepang ใกล้กัวลาลัมเปอร์ หลังจากหมดสัญญากับทาง F1 ในปี 2018 (สัญญาฉบับปัจจุบันอายุ 3 ปีคือ 2016-2018)
Nazri Abdul รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของมาเลเซีย ยืนยันข่าวนี้ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2016 โดยให้เหตุผลว่าการจัดแข่ง F1 ต้องใช้งบประมาณสูงมาก และตอนนี้ก็ไม่ดึงดูดผู้ชมเหมือนอย่างเคย
Nazri บอกว่ารัฐบาลมาเลเซียต้องใช้งบประมาณจัดแข่ง F1 ปีละ 300 ล้านริงกิต (2.4 พันล้านบาท) และนี่คืองบเฉพาะส่วนของการแข่งรถเท่านั้น แถมช่วงหลังยอดขายตั๋วก็ลดน้อยลง และมาเลเซียเองก็ไม่มีนักแข่งรถที่มีฝีมือพอจะเข้าร่วมด้วย
สนามแข่งรถ Sepang International Circuit สามารถจุผู้ชมได้มากถึง 1.2 แสนคน แต่ในการแข่งขันปี 2016 มีผู้ชมเพียง 45,000 คน ส่วนเรตติ้งของการถ่ายทอดสดทางทีวีก็ตกลง
สถานการณ์เรื่องการจัดแข่ง F1 ในเอเชียดูไม่ค่อยดีนัก เพราะฝั่งสิงคโปร์ก็มีข่าวว่าจะไม่ต่อสัญญาเช่นกัน โดยสัญญาของสิงคโปร์จะหมดอายุในปี 2017 ส่วนเหตุผลก็เหมือนกันคือต้องใช้เงินเยอะจนไม่คุ้มค่าจัด และยอดขายตั๋วตกลงจากเดิม 15%
ปัจจุบัน ประเทศในเอเชียที่จัดแข่ง F1 ได้แก่ บาห์เรน, จีน, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น และ UAE (อาบูดาบี) ถ้าทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์ถอนตัว ก็ถือเป็นความท้าทายของ Formula One Group ในการหาประเทศอื่นมาจัดแข่งแทน ยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจโลกซบเซาเช่นนี้
ที่มา – Channel News Asia, New Straits Times