Southwest ขึ้นเครื่องอย่างไร เมื่อไม่มีเลขที่นั่ง มีแต่ลำดับการเข้าคิว

สายการบินต้นทุนต่ำอย่าง Southwest มีกระบวนการจัดการเรื่องที่นั่งโดยสารที่แตกต่างออกไปจากสายการบินปกติ โดยไม่มีเลขที่นั่งประจำ (open seating) ผู้โดยสารสามารถเลือกที่นั่งได้เองตามชอบ ส่วนกระบวนการนำผู้โดยสารขึ้นเครื่องของ Southwest จะใช้ระบบแยก “กลุ่ม” (boarding group) แทน

ลำดับการขึ้นเครื่อง (Boarding Position)

คนที่เพิ่งขึ้น Southwest ครั้งแรก เมื่อเช็คอินแล้วอาจงงๆ ว่าไม่มีเลขที่นั่ง แต่มีโค้ดของกลุ่มมาให้ (เช่น A42 หรือ B37) ตรงนี้คือลำดับการขึ้นเครื่องของเรา (Boarding Position) ตอนเข้าแถวที่หน้าเกตนั่นเอง

ตัวอย่าง Boarding Pass ของ Southwest
ตัวอย่าง Boarding Pass ของ Southwest

ตามระบบของ Southwest แยกผู้โดยสารออกเป็น 3 กลุ่มคือ

  • กลุ่ม A ตามด้วยหมายเลข 1-60
  • กลุ่ม B ตามด้วยหมายเลข 1-60
  • กลุ่ม C ขึ้นต้นด้วย 1 แล้วรันไปเรื่อยๆ ตามจำนวนที่นั่งที่เหลือ

ลำดับการขึ้นเครื่องก็ตรงไปตรงมาคือ A1-A60 ขึ้นก่อน ตามด้วยกลุ่ม B และกลุ่ม C

วิดีโอแนะนำกระบวนการ Boarding ของ Southwest

ต่อแถวขึ้นเครื่องอย่างไรเมื่อไปถึงหน้าเกต

คนที่ขึ้นเครื่อง Southwest ครั้งแรกอาจงงกันบ้าง (ผู้เขียนก็งง) วิธีการขึ้นเครื่องคือเมื่อเราไปถึงหน้าเกตของ Southwest แล้ว พอใกล้เวลาเรียกขึ้นเครื่อง (boarding time) เจ้าหน้าที่จะเรียกผู้โดยสารกลุ่ม A ไปยืนต่อแถวก่อน

ทีนี้ระบบการต่อแถวขึ้นเครื่องของ Southwest จะมี “เสา” พร้อมตัวเลข 1-60 อยู่หน้าเกตด้วย เพื่อกำหนดจุดที่ให้เราไปยืนรอต่อแถวเลย เสาแต่ละต้นจะแบ่งผู้โดยสารช่วงละ 5 คน (เช่น 11-15 หรือ 25-30) โดยแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายของเสาคือหมายเลข 1-30 และฝั่งขวาของเสาคือหมายเลข 31-60

ตอนแรกเจ้าหน้าที่จะเริ่มเรียกจากแถว A ก่อน ผู้โดยสารกลุ่ม A ก็ไปยืนตามจุดที่กำหนด (ในทางปฏิบัติแล้ว การยืนต่อแถวจะไม่เรียงเลข 100% แต่อยู่ในชุดละ 5 แน่นอน เช่น เบอร์ 32 อาจยืนหน้าเบอร์ 31 ได้ แต่ต้องอยู่ในกลุ่ม 31-35)

ส่วนผู้โดยสารกลุ่ม B และ C ก็นั่งรอไปก่อน พอกลุ่ม A1-30 ขึ้นเครื่องไปเรียบร้อยแล้ว แถวฝั่งซ้ายจะว่าง เจ้าหน้าที่จะเรียก B1-30 มาต่อแถวแทน จากนั้นจะทยอยให้กลุ่ม A31-60 ที่อยู่ฝั่งขวามือขึ้นเครื่องตามไป สลับกันไปแบบนี้

southwest boarding
ฝั่งซ้ายของเสาเป็นหมายเลข 1-30
southwest boarding
ฝั่งขวาเป็นหมายเลข 31-60
southwest boarding
กรณีที่เป็นกลุ่ม C จะขึ้น 1-30 และ 31+

เมื่อขึ้นเครื่องไปแล้วเลือกที่นั่งอย่างไร

พอเราขึ้นเครื่องไปแล้วก็นั่งได้ตามใจชอบ เหมือนขึ้นรถเมล์เลยครับ ตรงนี้ความเป็นโลว์คอสต์จะเริ่มต้นแสดงพลัง

เนื่องจากเครื่องของ Southwest เป็นเครื่องบินขนาดเล็กที่บินในประเทศ การจัดแถวที่นั่งโดยสารจะเป็น 3-3 มีทางเดินตรงกลางอันเดียว ดังนั้นที่นั่งยอดนิยมจะเป็นริมหน้าต่าง (window) หรือริมทางเดิน (aisle) ปล่อยให้ที่นั่งตรงกลางที่โดนขนาบถูกเว้นว่างไว้ ดังนั้นถ้าเราได้คิวท้ายๆ เช่น กลุ่ม C เราจะเหลือแต่ที่นั่งแหว่งตรงกลางเท่านั้น การตัดสินใจเลือกจึงต้องดูเพื่อนร่วมทาง ชอบคนไหนก็เข้าไปนั่งได้เลย (บางครั้งเจอเพื่อนร่วมทางตัวอ้วนใหญ่ก็อาจจะอึดอัดหน่อย)

ถ้าเราเดินทางตัวคนเดียวคงไม่มีปัญหานัก เพราะนั่งแทรกตรงไหนก็ได้ แต่ถ้ามากันเป็นคู่แล้วอยากนั่งด้วยกัน ตรงนี้จะเริ่มยากขึ้นมาทันที นี่เป็นกลเม็ดของ Southwest ในการหารายได้เสริมจากโอกาสเลือกที่นั่งนั่นเอง

ภาพจาก Southwest Facebook
ภาพจาก Southwest Facebook

ทำอย่างไรถึงจะได้ Boarding Position เป็นอันดับแรกๆ

โดยหลักการเบื้องต้นแล้ว ลำดับ Boarding Position จะมาจากการเช็คอิน ดังนั้นถ้าเราเช็คอินล่วงหน้า (เปิดให้เช็คอิน 24 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน) ผ่านเว็บหรือแอพ เราก็จะได้เลข Boarding Position ค่อนไปทางกลุ่มหน้าหน่อย แต่ถ้าคิดจะไปเช็คอินที่สนามบินทีเดียวเลย อันนี้รับรองว่าได้คิวท้ายๆ แน่นอน

ดังนั้นถ้าคิดจะบินกับ Southwest ก็ต้องเตรียมตัวเรื่องเช็คอินดีๆ สิ่งสำคัญคือแอพ Southwest ควรมีติดเครื่องสมาร์ทโฟนเอาไว้เพื่อความสะดวก นอกจากนี้ สนามบินหลายแห่งในอเมริกายังเริ่มรับ Mobile Boarding Pass แล้ว เราสามารถเช็คอินผ่านแอพ แล้วเอาภาพหน้าจอ Boarding Pass บนมือถือไปเข้าหน้าเกตได้ โดยไม่ต้องมีกระดาษเลย (สะดวกมาก ยิ่งถ้าไม่ต้องโหลดกระเป๋ายิ่งสะดวกสุดๆ)

แต่ถ้าต้องการการันตี Boarding Position กลุ่มหน้าสุด A1-A15 ก็สามารถจ่ายเงินซื้อตำแหน่งได้เลย (ราคา 30-40 ดอลลาร์) หรือถ้าเป็นสมาชิกสะสมแต้มระดับ A-List เราก็จะได้ Boarding Position อันดับต้นๆ เช่นกัน

กรณีที่มีเด็กเล็กไปด้วย

Southwest ไม่ใจร้ายเกินไปนัก ในกรณีเดินทางกับเด็กเล็กอายุ 6 ปีหรือต่ำกว่า เราสามารถใช้สิทธิ Family Boarding ได้ โดยจะขึ้นเครื่องหลังกลุ่ม A แต่ก่อนกลุ่ม B

ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้จาก Southwest