Vinexpo Hong Kong 2018

พาชมงาน Vinexpo Hong Kong 2018 งานจัดแสดงไวน์ระดับโลกที่ฮ่องกง

ทีมงาน 2baht.com มีโอกาสเดินทางมาฮ่องกงเพื่อเข้าร่วมงาน Vinexpo Hong Kong 2018 งานแสดงสินค้าและนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮออล์ เลยขอพาชมงานดังกล่าวครับ

รู้จักกับงาน Vinexpo Hong Kong

Vinexpo Hong Kong 2018
Vinexpo Hong Kong 2018

งาน Vinexpo เป็นงานแสดงสินค้าและนิทรรศการด้านแอลกอฮออล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกงานหนึ่ง (เน้นหนักไปที่ไวน์) จัดขึ้นครั้งแรกที่เมือง Bordeaux ในปี 1981 และกลายมาเป็นงานที่จัดมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

งาน Vinexpo ในเอเชีย จัดครั้งแรกที่ฮ่องกงในชื่อว่า Vinexpo Asia-Pacific ในปี 1998 ก่อนที่ภายหลังจะเปลี่ยนชื่อเป็น Vinexpo Hong Kong เนื่องจากมีการจัดอีกงานที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในปี 2014

ปี 2018 ถือเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของงาน Vinexpo Hong Kong (จากนี้จะย่อเป็น VinexpoHK) ปกติแล้วงานจัดสองปีต่อครั้ง กลุ่มเป้าหมายเน้นหนักไปที่การเจรจาธุรกิจเป็นหลัก แต่ก็เปิดให้คนรักไวน์สามารถลงทะเบียนมาได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ตราสัญลักษณ์ของงาน
ตราสัญลักษณ์ของงาน

งาน VinexpoHK ทุกครั้งจะจัดที่ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าฮ่องกง (HKCEC: Hong Kong Convention and Exhibition Centre) ปีนี้มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงกว่า 1,300 ราย จาก 30 ประเทศ และมีประเทศออสเตรเลียเป็นผู้สนับสนุนใหญ่ครับ

งานนี้มีการเก็บค่าเข้า (ยกเว้นสื่อมวลชน แขกรับเชิญ และตัวแทนจากสถาบันการศึกษา ที่ได้รับการยกเว้น) โดยเก็บเป็นอัตราขั้นบันได (แพงสุดคือลงทะเบียนหน้างาน) และไม่อนุญาตให้บุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้างานโดยเด็ดขาดครับ)

ลักษณะงานมีการแบ่งออกเป็นสองส่วน คือส่วนนิทรรศการและแสดงสินค้า กับส่วนที่เป็นการให้ความรู้ (Vinexpo Academy) มีทั้งที่เข้าไปได้เลยไม่ต้องลงทะเบียน กับส่วนที่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าเอาไว้ก่อนครับ

ส่วนนิทรรศการและแสดงสินค้า

ส่วนนิทรรศการ เป็นการจัดแสดงสินค้าจากหลากหลายประเทศ แบ่งเป็น 2 ชั้น มีทั้งตัวแทนจากไร่ไวน์และมีหน่วยงานรัฐระดับประเทศ (เช่น Wine Australia) มาออกบูธขนาดใหญ่ด้วย

ในฐานะที่เป็นผู้ดื่มไวน์ ยังทึ่งในความหลากหลายของไวน์มาออกงานนี้ เพราะไม่ได้มีแค่ไวน์จากประเทศสำคัญๆ อย่างฝรั่งเศส สเปน อิตาลี ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังมีประเทศอื่นๆ อย่างประเทศจีน มอลโดวา สโลวีเนีย โครเอเชีย ประเทศญี่ปุ่น โปรตุเกส สวีเดน สหราชอาณาจักร รัสเซีย มาร่วมแสดงไวน์ด้วย (ไม่มีประเทศไทย)

ส่วนนี้มีทั้งทั้งการเจรจาธุรกิจ และมีไวน์เปิดให้ชิม ถ้าสนใจก็สามารถพูดคุยกับตัวแทนของไร่เพื่อเจรจานำเข้าไวน์หรือเครื่องดื่มที่ต้องการได้ จากประสบการณ์ของทีมงานพบว่าประเทศเกิดใหม่ มักจะมีสไตล์ที่เป็นกันเองมากกว่าประเทศจากยุโรปที่จำหน่ายไวน์มานานอย่างฝรั่งเศส (ยกเว้นอิตาลี)

ส่วนการประชุมและเพิ่มพูนความรู้

ส่วนนี้เรียกว่า Vinexpo Academy มีทั้งการชิมไวน์เพื่อการเรียนรู้ และมีการบรรยาย บางหัวข้อเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าฟัง แต่หลายหัวข้อต้องเป็นคนที่ได้รับเชิญจากบริษัทหรือเจ้าภาพเท่านั้น สามารถดูรายละเอียดได้จากป้ายประกาศของทางผู้จัดงาน

ส่วนที่เป็นความรู้นี้ บางทีจะเป็นงานชิมไวน์ขนาดใหญ่ในบางเขตพื้นที่ซึ่งเป็นเจ้าภาพ และเรามักจะได้เจอเจ้าของไร่ด้วย ทีมงานได้มีโอกาสเจอเจ้าของไร่จำนวนมากในงานนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง ที่จะเจอเจ้าของไร่ไวน์จำนวนมากในงานเดียว

Eduardo Chadwick เจ้าของไร่ไวน์ Sena ชื่อดังจากชิลี
Eduardo Chadwick เจ้าของไร่ไวน์ Sena ชื่อดังจากชิลี

ในส่วนของการให้ความรู้ บางครั้งจัดในห้องเฉพาะ บางครั้งจัดตามบูธต่างๆ จำเป็นต้องติดตามข้อมูลให้ดีๆ ไม่งั้นจะพลาดโอกาสได้ ทีมงานเองเพิ่งรู้ว่ามีการชิมไวน์และบรรยายสำคัญใน 3 นาทีสุดท้ายก่อนงานเริ่ม ซึ่งก็ไปถึงทันท่วงที ดังนั้นแล้วต้องดูดีๆ ครับ

การบรรยายแต่ละรอบมักจะเป็นบุคคลสำคัญ หรือคนที่เราไม่ได้พบกันง่ายๆ ถ้ามีโอกาสเข้าได้ก็ควรเข้าครับ ผู้เขียนมีโอกาสเจอผู้บรรรยายระดับโลกมาหลายคน ซึ่งหากไปเข้าที่ไทย ค่าบรรยายอาจทะลุหลักครึ่งหมื่นได้ไม่ยาก

สรุป

งาน Vinexpo Hong Kong 2018 ที่ได้พาชมและถ่ายรูปให้ท่านผู้ชมเห็น เป็นเพียงบางส่วนของงานทั้งหมดที่จัดขึ้นตลอด 3 วันนี้เท่านั้น งานจะกลับมาจัดอีกครั้งใน 2 ปีข้างหน้า รูปแบบงานอาจเปลี่ยนไปบ้าง แต่คงไม่เปลี่ยนไปมากกว่านี้

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงตลอดเวลาคือ งานนี้ถูกออกแบบมาสำหรับเน้นที่การค้าขายและเจรจาธุรกิจเป็นหลัก ไม่ได้เน้นสำหรับบุคคลทั่วไปนัก สำหรับคนที่ชอบดื่มไวน์และแอลกอฮอล์ งานนี้อาจจะไม่เหมาะนัก แต่ถ้าเน้นสายวิชาการมาหาความรู้เพิ่มเติม หรือเน้นที่การเจรจาติดต่อธุรกิจ งานนี้ถือเป็นงานที่เหมาะสมที่จะมาครับ

เน้นย้ำอีกรอบว่า งานนี้มีค่าเข้างาน โดยถ้ารีบลงทะเบียนแต่เนิ่นๆ จะมีค่าเข้างานที่ถูกมาก (ประมาณ 800 บาทไทย) แต่ถ้ามาลงทะเบียนหน้างาน ค่าเข้างานอาจสูงได้ถึง 1,500 บาทไทยครับ ดังนั้นใครที่จะมาอาจจะต้องวางแผนกันแต่เนิ่นๆ ครับ 🙂