สำหรับคนที่มีโอกาสไปเยือนประเทศอิตาลี โดยเฉพาะนครหลวง “กรุงโรม” และอยากสัมผัส “พิซซ่า” แบบดั้งเดิม ร้านที่มีชื่อเสียงที่สุดย่อมหนีไม่พ้นร้าน Pizza Baffetto ที่ทัวริสต์ต่อคิวกันแน่นทุกวัน (บางคนว่ากันว่าร้านนี้อร่อยที่สุด จริงแค่ไหนขึ้นกับรสนิยม แต่เรื่องคนเยอะที่สุด อันนี้น่าจะใกล้เคียง)
ร้าน Pizza Baffetto เป็นร้านพิซซ่า “เตาหิน” ที่เปิดมานานและมีชื่อเสียงเลื่องลือ ร้านจะอยู่ใกล้กับจัตุรัส Piazza Navona ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของกรุงโรม ถ้ามาถึงจัตุรัสแล้วจะมีถนนเล็กๆ ตรงมุม เดินเข้ามาสักหน่อยก็จะเจอร้าน (พิกัด Google Maps) ร้านจะเป็นอาคารเล็กๆ ตรงหัวมุม กำแพงทาสีส้ม หาไม่ยาก เพราะทัวริสต์จะเยอะมาก คิวยาววววว
ทีมงาน 2Baht เคยไปชิมร้านนี้เมื่อหลายปีมาแล้ว (ปี 2008) พบว่าควรรีบไปต่อคิวตั้งแต่ก่อนร้านเปิด (รอบเที่ยงเปิด 12:00, รอบเย็นเปิด 18:30 ก็ควรไปก่อนสักเกือบชั่วโมง) เพื่อจะได้ไม่ต้องรอคิวนานตอนร้านเปิดแล้ว
เราไปกินรอบเย็น ไปถึงร้านก่อน 18:00 ก็พบว่ามีคิวรออยู่แล้ว
ระหว่างรอคิว ก็ดูป้ายข้างร้านไปพลางๆ กันก่อน โชคดีว่าไปค่อนข้างเร็วเลยรอคิวไม่นานนัก
ร้านนี้เป็นร้านดังที่คนแน่นมาก ดังนั้นถ้ามากัน 1-2 คน จะถูกบังคับให้นั่งแชร์โต๊ะกับแขกคนอื่นๆ (ซึ่งจะเร็วกว่าการรอโต๊ะ 4 คนอยู่บ้าง) ในร้านก็มีรูปของลุง Baffetto เจ้าของร้าน ถ่ายกับคนดังทั้งหลายทั้งปวงแปะเต็มผนัง
ร้านมีให้นั่งทั้งด้านในและด้านนอก จะได้นั่งตรงไหนคงขึ้นกับโชคชะตาเรื่องที่ว่าง มากกว่าทำเลนะ
หมายเหตุ: เนื่องจากร้านนี้เป็นร้านดัง คนมากินหัวกระไดไม่แห้ง พนักงานร้านนี้อาจไม่โอ๋ลูกค้ามากนัก (แต่ก็ไม่ได้หยาบคายอะไร) คนที่ไปกินต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้สักหน่อยว่าบริการอาจไม่เลิศเลอนัก
มาดูเมนูกันสักหน่อย จริงๆ ร้านมีอาหารให้เลือกหลายอย่าง แต่คนที่มากินก็มากินพิซซ่าอยู่แล้ว ดังนั้นเราดูแต่เมนูพิซซ่าก็พอ
อาหารเด่นของทางร้านก็คือ Pizza Baffetto อันแรกสุด เครื่องเยอะ ราคาแพงหน่อยคือ 8 ยูโรสำหรับถาดกลาง และ 10 ยูโรสำหรับถาดใหญ่ (ไปมานานแล้ว ราคาอาจขึ้นมาแพงกว่านี้) ส่วนประกอบได้แก่ มะเขือเทศ ม็อซซาเรลลา เห็ด ไข่ ไส้กรอก พริกหยวก หัวหอม และผักอาร์ติโชก (artichoke)
สั่งอาหารเสร็จแล้วก็นั่งรอ โชคดีว่าได้นั่งอยู่ใกล้ๆ เตาเลยได้เห็นการทำพิซซ่าอย่างละเอียด
ทางร้านจะจดใบออเดอร์ลงกระดาษแผ่นใหญ่ๆ บนเคาเตอร์หิน แล้วเอาไม้ยาวพาดทับไว้ ส่วนการนวดแป้งก็นวดให้ดูกันสดๆ ตรงนั้นเลย
นวดเสร็จแล้ว เขาจะเอาแป้งมาคลี่เป็นแผ่น จากนั้นเอามะเขือเทศทารองพื้น โรยเครื่อง โรยชีส ตอกไข่ใส่ลงไป เรียงกันแบบที่เห็น
จากนั้น เขาจะเอาไม้พายตักพิซซ่าเข้าไปใส่เตาหินด้านหลัง ค่อยๆ ใส่เข้าไปจนเต็มพื้นที่ แล้วก็รอจนพิซซ่าสุกได้ที่ ค่อยนำออกมาเสิร์ฟ จากนั้นก็วนรอบทำใหม่ต่อไป ดังนั้นหนึ่งรอบจะได้พิซซ่าประมาณ 8-10 อันเท่านั้น ใครหิวก็อดทนรอกันหน่อยเพราะทำกันนานอยู่ (จะสั่งอย่างอื่นมากินรอก่อนก็ได้)
คลิปวีดีโอจาก youtube บรรยากาศภายในร้านดูคึกคักมาก พ่อครัวทำพิซซ่ากันไม่หยุดเลยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=qED4hLeME18
หลังจากรออาหารมานานเกือบครึ่งชั่วโมง ก็ได้เห็นผลงานพิซซ่าของโต๊ะเราสักที
พิซซ่าแบบอิตาลีลักษณะนี้จะแป้งบางมาก (ลืมพวก Pizza Hut หรือ Pizza Company ไปได้เลย) และแป้งจะนุ่มกว่า ไม่แข็งและฟูเท่ากับพิซซ่าร้านเชน ส่วนเครื่องก็จะอบมาพอสุก ไม่ถึงกับแห้งเกรียม ออกแฉะๆ หน่อยด้วยซ้ำ
รสชาติชมแล้วก็ต้องบอกว่าอร่อยมากๆ ครับ คือกินต้นฉบับบแบบนี้แล้วแทบจะกลับไปกิน Pizza แนวอเมริกันอีกไม่ได้เลย แป้งบางแต่นุ่ม เครื่องก็ออกรสออกชาติกลมกล่อม จากการกินพบว่าคีย์หลักสำคัญของพิซซ่าเตาหินคือการผสมผสานของซอสมะเขือเทศที่ทารองพื้นไว้ กับเครื่องที่อยู่ด้านบน ที่โดนความร้อนจากเตาแล้วหลอมละลายเข้าหากันจนได้รสชาติพอดี
เนื่องจากเป็นพิซซ่าที่อบด้วยเตาหิน เขาก็จะเอาผงแป้งรองนิดหน่อย เพื่อไม่ให้แป้งติดพื้นเตา ถ้าลองพลิกดูจะเห็นรอยไหม้ๆ บ้างเล็กน้อย
พิซซ่าอีกถาดหนึ่งที่สั่ง เป็น Pizza with Zucchini Flowers ใส่ดอก Zucchini สีเขียวๆ กินแล้วพบว่าไม่ต่างกันมาก เพราะความอร่อยอยู่ที่แป้ง มะเขือเทศ ชีส ส่วนเครื่องอื่นๆ เป็นตัวเปลี่ยนรสชาติให้ไม่จำเจเท่านั้น
อย่างอื่นที่แนะนำคือไวน์ของร้านนี้เป็น house wine เสิร์ฟมาในเหยือกแทนที่จะเป็นขวดแบบที่เราคุ้นเคยกัน
โดยสรุปแล้ว มากินร้าน Baffetto ถือว่าไม่ผิดหวัง สมคำคุย (ส่วนจะอร่อยที่สุดในโรมไหม คงพูดยาก และน่าจะมีร้านอื่นๆ ที่อร่อยระดับเดียวกันอีกมาก) แต่จะคุ้มการต่อคิวแค่ไหนก็ขึ้นกับจังหวะและโชคในการต่อคิว ขอให้ทุกท่านโชคดี