เว็บไซต์ Sleeping in Airports จัดอันดับ “สนามบินที่ดีที่สุดในโลก” ประจำปี 2015 โดยการสำรวจจากผู้ชมเว็บไซต์เอง ผลออกมาว่าสนามบินชางงีของสิงคโปร์ยังครองอันดับหนึ่งตามคาด ตามด้วยสนามบินฝั่งเอเชียที่ติดอันดับ Top 10 กันถ้วนหน้า (อย่างไรก็ตาม สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินทุกแห่งในไทย ไม่ติดอันดับ Top 30 ของการจัดอันดับครั้งนี้)
1) Singapore Changi International Airport (SIN)
อันดับหนึ่งประจำปี 2015 ยังตกเป็นของสนามบินชางงี (Changi Airport) ประเทศสิงคโปร์ ที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งสปา ฟิตเนส ซาวน่า สวนผีเสื้อ โรงหนัง ไปจนถึงสระว่ายน้ำ!
การที่สนามบินชางงีได้อันดับหนึ่งไม่ใช่เรื่องน่าตกใจนัก เพราะกวาดอันดับหนึ่งมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ในการจัดอันดับสนามบินของ Skytrax ก็ครองอันดับหนึ่งเช่นกัน
2) Seoul Incheon International Airport (ICN)
สนามบินอินชอนของเกาหลีใต้ ไล่ตามหลังสนามบินชางงีมาติดๆ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้องอาบน้ำฟรี, Wi-Fi แบบไฮสปีด, ที่นั่ง (และนอน) จำนวนมาก ร้านอาหารเปิด 24 ชั่วโมง (แถมราคาไม่แพง) และทัวร์สำหรับผู้ที่มีเวลาว่างระหว่างการต่อเที่ยวบิน
3) Tokyo Haneda International Airport (HND)
สนามบินฮาเนดะ มีจุดเด่นตรงที่เดินทางเข้ากรุงโตเกียวได้สะดวกกว่าสนามบินนาริตะมากโดยใช้เวลาเพียง 45 นาที ต่างจากสนามบินนาริตะที่เดินทางค่อนข้างนานกว่า 2 ชั่วโมง แม้สิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบินอาจมีไม่เยอะมากนัก แต่ความสะอาดและทันสมัยก็ไม่เป็นรองใคร
4) Taipei Taoyuan International Airport (TPE)
สนามบินฝั่งเอเชียตะวันออกยังติดท็อปชาร์ตกันถ้วนหน้า ฝั่งของไต้หวันมีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้องสมุด ห้องอาบน้ำฟรีเมื่อ transit พร้อมกับชุด shower kit จาก Kiehls ห้องเนิร์สเซอรี่ พิพิธภัณฑ์และห้องจัดแสดงศิลปะ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม เช่น ดนตรีหรือภาพยนตร์จัดขึ้นเป็นระยะด้วย จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่คือมี Hello Kitty Theme Lounge ที่เกต C3 ซึ่งเหล่าสาวกคิตตี้ไม่ควรพลาด! (ดูรูปประกอบเพิ่มเติมที่ sparklette.net)
5) Hong Kong International Airport (HKG)
สนามบินฮ่องกงมีชื่อเสียงเรื่องความสะอาด ความใหญ่โตโอ่โถง มี Wi-Fi บริการฟรี ร้านอาหารเปิดบริการ 24 ชั่วโมง เก้าอี้สามารถนอนได้ ปลั๊กไฟ น้ำดื่มร้อน-เย็นบริการฟรี
6) Munich International Airport (MUC)
สนามบินมิวนิก เป็นสนามบินจากโลกตะวันตกที่ทำอันดับได้สูงสุด ด้วยมาตรฐานเยอรมันที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นระเบียบและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม สิ่งอำนวยความสะดวกมีตั้งแต่ Wi-Fi ฟรี, ร้านอาหาร 24 ชั่วโมง, โรงหนัง, สนามกอล์ฟขนาดเล็ก, รวมถึงโรงเบียร์! จุดเด่นอีกประการหนึ่งที่นักท่องเที่ยวกล่าวขวัญถึงกันเยอะคือ กาแฟฟรีใกล้เกต 38
7) Helsinki Airport (HEL)
สนามบินเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ มีจุดนอนพัก (sleeping pod) ให้บริการฟรี มีอาหารบริการ 24 ชั่วโมง ปลั๊กไฟ จุดอ่านหนังสือฟรี นอกจากนี้สนามบินยังสะอาดและดูใหม่อยู่เสมอ
8) Vancouver International Airport (YVR)
สนามบินแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ถือเป็นสนามบินที่อันดับสูงสุดในทวีปอเมริกาเหนือติดต่อกันมาหลายปี จุดเด่นในสนามบินคืออควาเรียม! ร้านหมอฟัน! นอกจากนี้ก็ยังมีจุดฝากกระเป๋า ห้องอาบน้ำ (แม้จะไม่ฟรี) อาหารบริการ 24 ชั่วโมง และ Wi-Fi ฟรี
9) Kuala Lumpur International Airport (KUL)
สนามบินกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แยกเป็นเทอร์มินัลหลัก (main terminal) และเทอร์มินัลสอง (KLIA2) ส่วนของเทอร์มินัลหลักนั้นได้คะแนนสูง เพราะสะอาด กว้างขวาง เป็นระเบียบ มีห้องนอนพัก จุดฝากกระเป๋า ห้องอาบน้ำ (ทั้งหมดนี้ไม่ฟรี แต่มีให้ใช้งาน) ใช้การตกแต่งแบบป่าเขตร้อน และมี Wi-Fi ฟรีบริการ 3 ชั่วโมง
10) Zurich Kloten International Airport (ZRH)
สนามบินซูริค สวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาดและสงบเงียบ เหมาะแก่การพักผ่อน เก้าอี้ไม่มีที่วางแขนทำให้นอนเหยียดขาได้ มีปลั๊กไฟให้เยอะ มี Wi-Fi ให้บริการ 60 นาที แต่ข้อเสียคือค่าครองชีพอาจแพงไปสักหน่อยในสนามบินแห่งนี้
ข้อมูลจาก เว็บไซต์ Sleeping in Airports