เมื่อพูดถึงสิ่งมหัศจรรย์ของโลก (Wonders of the World) ที่สร้างโดยมนุษย์ คนส่วนใหญ่คงคุ้นเคยกับอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างดังๆ อย่างพีระมิดแห่งอียิปต์ กำแพงเมืองจีน หอเอนเมืองปิซา โคลอสเซียมแห่งกรุงโรม ทัชมาฮาลของอินเดีย
แต่จริงๆ แล้วโลกยังมีสิ่งก่อสร้างยิ่งใหญ่ที่เทียบชั้นได้กับสิ่งมหัศจรรย์ข้างต้น แต่ดีกรีความดังกลับแตกต่างกันมาก
เว็บไซต์ BBC Travel ได้รวบรวมรายชื่อของสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้จักกันนักมา 7 อย่าง ซึ่ง 2Baht.com ก็นำมาสรุปข้อมูลให้ เผื่อจะมีใครสนใจและเดินทางตามไปเที่ยวชมกันบ้าง
1. อาคารรัฐสภาแห่งโรมาเนีย (Palace of the Parliament)
อาคารรัฐสภาแห่งประเทศโรมาเนียที่กรุงบูคาเรสต์ หรือที่เรียกว่า Palace of the Parliament ถือเป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากอาคารเพนตากอนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ตัวอาคารมีขนาดใหญ่ 270×240 เมตร ความสูง 12 ชั้นบนดิน 8 ชั้นใต้ดิน พื้นที่ใช้สอยภายใน 340,000 ตารางเมตร (ถ้าเทียบขนาดให้เห็นภาพ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมดใน Impact เมืองทอง มี 140,000 ตารางเมตร ประมาณครึ่งเดียวของอาคารรัฐสภาแห่งนี้) ตัวอาคารใช้สถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ตกแต่งสวยงามทั้งภายนอกและภายใน ค่าก่อสร้างหมดไป 3.3 พันล้านยูโร
อาคาร Palace of the Parliament เริ่มก่อสร้างใน ค.ศ. 1984 ภายใต้คำสั่งของนิโคไล เซาเซสคู Nicolae Ceaușescu ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์แห่งชาติโรมาเนียในขณะนั้น เพื่อเป็นที่ทำการรัฐบาลและรัฐสภา โครงการนี้ใช้เวลาสร้างถึง 13 ปี เสร็จสิ้นในปี 1997 ส่วนตัวผู้นำเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1989 ยังไม่ได้เห็นผลงานของตัวเอง
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Anca Petrescu หัวหน้าสถาปนิกของโครงการนี้ มีอายุ 28 ปีเท่านั้นตอนเริ่มโครงการ และเธอต้องเป็นผู้นำของสถาปนิกอีก 700 คนดูแลโครงการทั้งหมด
ปัจจุบันอาคารแห่งนี้ใช้เป็นทั้งที่ประชุมสภา และเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ กับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์
ข้อมูลเพิ่มเติม Wikipedia
2. Great Mosque of Djenne ประเทศมาลี
มัสยิดแห่งเจนเน (Great Mosque of Djenne) หรือบางที่เรียก Grand Mosque ถือเป็นอาคารที่สร้างด้วยดินโคลน (mud) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กระบวนการสร้างคือใช้อิฐที่อบแห้งด้วยแดด และหล่อหลอมเข้ากันด้วยทรายและโคลน
มัสยิดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองเจนเน (Djenne หรือ Jenne) ประเทศมาลี ทวีปแอฟริกาฝั่งตะวันตก ตัวมัสยิดดั้งเดิมถูกสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1200-1330 ใช้การออกแบบสถาปัตยกรรม Sudano-Sahelian ของชาวเผ่าซูดานที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น สถาปัตยกรรมนี้จะมีจุดเด่นคือต้องมีไม้คานเป็นจุดเกาะยึด เราจึงเห็นแท่งไม้ยื่นออกมาจากกำแพงดังภาพ
มัสยิดแห่งนี้ถือเป็นสิ่งปลูกสร้างด้วยดินโคลนที่ใหญ่ที่สุด มีพื้นที่ขนาด 75×75 ตารางเมตร ตัวอาคารหลังปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในปี 1906-1907 ช่วงที่มาลีเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส
ข้อมูลเพิ่มเติม Wikipedia
3. ป้อมเดราวาร์ (Derawar Fort) ประเทศปากีสถาน
ป้อมเดราวาร์ (Derawar Fort) เป็นป้อมขนาดใหญ่ที่อยู่ในรัฐปัญจาบ ประเทศปากีสถาน ก่อสร้างโดยตระกูล Bahti แห่งเผ่าราชปุต (Rajput) ก่อสร้างในปี 1733
การเดินทางไปชมป้อมเดราวาร์จะค่อนข้างลำบาก เพราะป้อมอยู่กลางทะเลทราย Cholistan ต้องนั่งรถโฟร์วีลไดรฟ์ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ต้องมีไกด์ท้องถิ่นพาเข้าชม และต้องได้รับอนุญาตจากตระกูล Abbasi ที่เป็นเจ้าของที่ดินในปัจจบุันด้วย
ตัวป้อมมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ความกว้างด้านละ 672 ฟุตหรือประมาณ 205 เมตร ตัวป้อมปราการ (bastion) โดยรอบทำเป็นหอคอยโค้ง สร้างจากก้อนอิฐ มีจำนวนทั้งหมด 40 ป้อม ส่วนภายในเป็นที่พักของทหารที่อยู่ภายในที่ยังไม่ค่อยมีอะไรมากนัก ด้านนอกของป้อมยังมีมัสยิดที่สร้างจากหินอ่อน และลอกแบบมาจากมัสยิดใน Red Fort ของกรุงนิวเดลี
ข้อมูลเพิ่มเติม Wikipedia
4. บ่อน้ำ Chand Baori ประเทศอินเดีย
Chand Baori เป็นบ่อน้ำขั้นบันได (stepwell) ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากแห่งหนึ่ง ตัวบ่อมีความลึก 13 ชั้น ประกอบด้วยบันได 3,500 ขั้น ผนังสามด้านเป็นขั้นบันไดทั้งหมด ส่วนผนังอีกด้านเป็นอาคารที่อยู่อาศัยที่ไว้รับรองเวลาพระราชาแห่งแคว้นเสด็จมาเยี่ยมชม
บ่อ Chand Baori ถือเป็นบ่อที่เก่าแก่มาก มีอายุเกินกว่าหนึ่งพันปี สร้างมาตั้งแต่ ค.ศ. 800-900 และยังมีสภาพดีเยี่ยม ตัวบ่อตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Abhaneri ไม่ไกลจากเมืองชัยปุระ (Jaipur) ในรัฐราชสถาน (Rajasthan) ทางตะวันตกของอินเดีย
พื้นที่ในรัฐราชสถานค่อนข้างแห้งแล้ง คาดว่าบ่อน้ำแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนแถวนั้นมีน้ำใช้ ปัจจุบันตัวบ่อชั้นล่างสุดเป็นน้ำสีเขียว ลึกประมาณ 20 เมตร อุณหภูมิชั้นล่างสุดเย็นกว่าชั้นผิวดินถึง 5-6 องศาเซลเซียส
บ่อ Chand Baori เคยใช้เป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง The Fall และ Batman: The Dark Knight Rises ด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม: Wikipedia, Amusing Planet
5. สะพาน Stari Most ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
สะพาน Stari Most หรือที่เคยเรียกว่า “The Old Bridge” เป็นสะพานหินในเมือง Mostar ของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาในปัจจุบัน
สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยฝีมือของ Mimar Hayruddin สถาปนิกชาวเติร์กแห่งจักรวรรดิออตโตมันตั้งแต่ ค.ศ. 1566 ด้วยหินจำนวน 456 ก้อน เพื่อข้ามแม่น้ำ Neretva สะพานมีความยาว 30 เมตร กว้าง 4 เมตร สูง 24 เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าเชิงวิศวกรรม-สถาปัตยกรรมอิสลามในแถบคาบสมุทรบอลข่าน และเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม สะพานนี้อยู่มานาน 427 ปี แล้วก็ถูกทำลายลงระหว่างสงครามบอสเนียใน ค.ศ. 1993 หลังจากนั้นสะพานถูกสร้างขึ้นใหม่และเปิดใช้ในปี 2004
ชาวเมืองท้องถิ่นมีธรรมเนียมการกระโดดจากสะพานลงน้ำในฤดูหนาว เพื่อพิสูจน์ความกล้าของตัวเอง
ข้อมูลเพิ่มเติม: Wikipedia
6. กำแพงใหญ่แห่งอินเดีย (Great Wall of India) ณ ป้อม Kumbhalgarh
คนทั่วโลกรู้จัก “กำแพงเมืองจีน” หรือ Great Wall of China แต่เอาเข้าจริงแล้ว อินเดียก็มีกำแพงขนาดใหญ่เหมือนกัน
กำแพงแห่งนี้หรือที่เรียกว่า Great Wall of India เป็นกำแพงของป้อม Kumbhalgarh ในรัฐราชสถาน (Rajasthan) เช่นกัน กำแพงนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1443 เพื่อเป็นมาตรการคุ้มกันป้อมของผู้นำท้องถิ่น กำแพงมีความยาวทั้งสิ้น 36 กิโลเมตร บางช่วงมีความหนา 4.5 เมตร และมีป้อมปราการ 7 แห่งกระจายอยู่ทั่วความยาวกำแพง
ป้อม Kumbhalgarh แห่งนี้เป็นเมืองของเผ่าเมวาร์ (Mewar) กษัตริย์ฮินดูที่ริเริ่มสร้างคือ Rana Kumbha และพระราชโอรส เจ้าชาย Udai ก็เกิดที่นี้ เจ้าชาย Udai ผู้นี้เป็นผู้สร้างเมืองอุทัยปุระ (Udaipur) ในอนาคต ป้อมแห่งนี้เคยผ่านการสู้รบกับกษัตริย์อิสลาม พระเจ้าอัคบาร์มหาราชแห่งราชวงศ์โมกูลมาแล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติม Wikipedia
7. มัสยิด Sheikh Lotfollah Mosque ประเทศอิหร่าน
มัสยิดชีคลุฟาเลาะห์ (Sheikh Lotfollah Mosque) เป็นหนึ่งในสุดยอดมัสยิดแห่งเมืองอิสฟาฮาน (Isfahan) เมืองอารยธรรมแห่งประเทศอิหร่าน ก่อสร้างในปี ค.ศ. 1603 ด้วยฝีมือของสถาปนิก Shaykh Bahai และสร้างเสร็จใน ค.ศ. 1619 ใช้เวลาทั้งหมด 16 ปี ตัวโดมหลักสูง 13 เมตร
มัสยิดแห่งนี้ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่อยู่บริเวณจัตุรัสหลวง Naqsh-e Jahan Square ของอิสฟาฮาน และเป็นสิ่งก่อสร้างหลังแรกที่ถูกสร้างขึ้นรอบจัตุรัสแห่งนี้ เป้าหมายของการก่อสร้างคือเป็นมัสยิดของพระราชวงศ์ (บริเวณจัตุรัสนี้ยังมี มัสยิดชาห์ ที่สร้างขึ้นทีหลัง ใหญ่กว่า และมีเป้าหมายเพื่อเปิดให้ประชาชนเข้าใช้งาน)
จุดเด่นของมัสยิดแห่งนี้คือการตกแต่งภายในที่สวยงามมาก ด้านในมีกระเบื้องโมเสคติดทั่วทุกผนัง และตัวกระเบื้องของโดมภายนอกก็ออกแบบให้เปลี่ยนสีได้ตามแสงอาทิตย์ด้วย
หวังว่าข้อมูล 7 สิ่งปลูกสร้างมหัศจรรย์ที่กล่าวมานี้ น่าจะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อ่าน 2Baht ทุกท่าน หันมาสนใจท่องเที่ยวสถานที่ใหม่ๆ เหล่านี้กันบ้าง
หมายเหตุ: ข้อมูลรายชื่อสถานที่จาก BBC Travel, รวบรวมข้อมูลและภาพถ่ายเพิ่มเติมโดยทีมงาน 2Baht.com (ถ้าชอบบทความและเว็บไซต์ของเรา แนะนำให้กดไลค์เพจ 2Baht เพื่อติดตามข่าวสารและบทความการท่องเที่ยวอื่นๆ)
คุณสามารถติดตามข้อมูลการท่องเที่ยวจากเรา ที่ facebook “2baht.com” ได้อีกหนึ่งช่องทางครับ