ภาพยนตร์ทีวีซีรีส์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมาคือ Game of Thrones ของช่อง HBO ซึ่งสร้างจากนิยายชุด A Song of Ice and Fire ของ George R. R. Martin
Game of Thrones เป็นเรื่องเกี่ยวกับสงครามชิงบัลลังค์ในโลกแฟนตาซีที่คล้ายยุโรปยุคกลาง ตัวละครเป็นเหล่าอัศวิน ทหาร นักดาบ นักฆ่า แต่ก็มีมังกร ยักษ์ และเวทย์มนต์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ทีวีซีรีส์ Game of Thrones ถ่ายทำในหลายประเทศ เช่น ไอซ์แลนด์ (ฉากที่เป็นหิมะ/น้ำแข็ง) ไอร์แลนด์ (ฉากป่าและป้อมปราการ) สเปน (พระราชวังเก่า) และโมร็อคโค (ทะเลทราย) แต่ฉากสำคัญของเรื่องที่เกิดขึ้นในนครหลวง King’s Landing นั้นทีมงานเลือก “ประเทศโครเอเชีย” เป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก โดยเมืองเก่า “ดูบรอฟนิค” (Dubrovnik) นี่เองที่เป็นฉากหลังของเมือง King’s Landing ภายในเรื่อง
ทีมงาน 2Baht มีโอกาสไปเที่ยวเมือง Dubrovnik เมื่อไม่นานมานี้ จึงไม่พลาดที่จะเก็บข้อมูลมาฝากแฟนๆ Game of Thrones ว่าจุดใดบ้างในเมืองที่ปรากฏตัวอยู่ในซีรีส์ด้วย
รู้จักเมืองดูบรอฟนิค (Dubronik) โครเอเชีย
เมืองดูบรอฟนิค (Dubrovnik) เป็นเมืองเก่าที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศโครเอเชีย ริมชายฝั่งทะเลอาเดรียติก (Adriatic) ตรงข้ามกับชายฝั่งทิศตะวันตกของอิตาลี ด้วยเหตุนี้ทำให้ภูมิประเทศเป็นแบบเมดิเตอร์เรเนียน ค่อนข้างร้อนและแห้งแบบเดียวกับอิตาลี สเปน กรีซ และฝรั่งเศสตอนใต้ เมื่อบวกกับตัวเมืองดูบรอฟนิคเป็นเมืองเก่า เป็นเมืองท่าค้าขายในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาช้านานนับพันปี สถาปัตยกรรมเก่าๆ ยังคงอยู่ ทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์และเหมาะอย่างยิ่งกับการจำลองเป็นนครหลวง King’s Landing ในภาพยนตร์
ประวัติศาสตร์ของเมืองดูบรอฟนิค เดิมทีชื่อเมืองรากูซา (Ragusa) อยู่ในเขตดัลมาเชีย (Dalmatia) ริมทะเลอาเดรียติกมาตั้งแต่สมัยโรมัน หลังยุคโรมันล่มสลาย รากูซาก็ตั้งตัวเป็นสาธารณรัฐ Republic of Ragusa และอยู่ภายใต้อาณัติของจักรวรรดิออตโตมัน (พื้นที่ตุรกีในปัจจุบัน) มาหลายร้อยปี แย่งชิงความเป็นเจ้าทะเลกับเมืองเวนิซ (สาธารณรัฐเวเนเชีย) กันมานาน หลังจากออตโตมันเสื่อมอำนาจ ก็มาอยู่ในสังกัดของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีที่ขึ้นมาเรืองอำนาจแทน
หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แว่นแคว้นแถบคาบสมุทรบอลข่านรวมตัวกันเป็น ราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย ซึ่งเมืองดูบรอฟนิคที่เป็นส่วนหนึ่งของแคว้นโครเอเชียก็เข้าร่วมด้วย ประเทศนี้กลายมาเป็น สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และแตกตัวเป็นประเทศย่อยๆ ดังเดิมหลังสงครามเย็นจบลงในปี 1992 ปัจจุบันดูบรอฟนิคถือเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญทางภาคใต้ของโครเอเชีย และมีพรมแดนใกล้กับบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา กับประเทศมอนเตเนโกร ซึ่งก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวียเหมือนกัน
การเดินทางไปยังเมืองดูบรอฟนิค
เนื่องจากดูบรอฟนิคกลายเป็นเมืองชื่อดังด้านการท่องเที่ยวแล้ว การเดินทางจึงสะดวกมากเพราะมีสนามบินนานาชาติเองเลย ถ้าไปจากเมืองไทยยังไม่มีเที่ยวบินตรง แต่ก็สามารถบินจากกรุงเทพไปลงที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย แล้วต่อเครื่องมายังดูบรอฟนิกได้เลย
ปัจจุบัน ดูบรอฟนิคมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 50,000 คน โดยเขตท่องเที่ยวที่สำคัญคือเขตเมืองเก่า (Old Town) ที่มีกำแพงเมืองล้อมรอบทั้งหมด เพื่อป้องกันข้าศึกศัตรูที่มารุกรานในอดีต (โดยเฉพาะชาวเวนิซที่เป็นคู่แค้นกันมานาน) กำแพงเมืองดูบรอฟนิคยังสมบูรณ์มาก และพื้นที่เมืองเก่านี่ล่ะที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Game of Thrones
คลิปเบื้องหลังการถ่ายทำ Game of Thrones ที่ประเทศโครเอเชียจากทีมงาน HBO
https://www.youtube.com/watch?v=bGDbf-oy8Z8
แผนที่สถานที่ถ่ายทำ Game of Thrones ในดูบรอฟนิค
ความนิยมในซีรีส์ Game of Thrones ย่อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองดูบรอฟนิคเป็นอย่างดี ถึงขนาดการท่องเที่ยวโครเอเชียและการท่องเที่ยวเมืองดูบรอฟนิค จัดทำแผนที่สำหรับนักท่องเที่ยว ชี้เป้าว่าจุดใดบ้างในดูบรอฟนิกที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยเลย
สำหรับรายละเอียดของสถานที่บางจุดที่ทีมงานเรามีโอกาสแวะไปชม มีดังนี้
Lovrijenac Fort – พระราชวัง Red Keep
ป้อม Lovrijenac Fort (หมายเลข 3 ในแผนที่) ที่อยู่นอกกำแพงเมืองเก่า Dubrovnik ถูกใช้ถ่ายทำเป็นพระราชวังของเมือง King’s Landing หรือที่เรียกกันในเรื่องว่าปราสาท Red Keep ด้วยเหตุผลว่าเป็นป้อมที่อยู่ริมทะเลเฉกเช่นเดียวกับ Red Keep ในนิยาย
แต่ตัวภาพภายนอกของปราสาท Red Keep ที่ปรากฏในภาพยนตร์ ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกสร้างขึ้นทั้งหมดแทน เพราะไม่มีสถานที่จริงในโลกหน้าตาเหมือนกับ Red Keep (กำแพงเมืองในภาพด้านล่างก็คือกำแพงเมือง Dubrovnik นี่เอง แต่ตัวปราสาทเป็น CG)
นอกจากนี้ อ่าวด้านหน้าของป้อม Lovrijenac Fort ยังถูกใช้ถ่ายทำสงครามตีเมือง King’s Landing โดยกองกำลังของ Stannis Baratheon เพื่อโค่นล้มหลานของตัวเอง กษัตริย์ Joffrey Baratheon ด้วย โดยสมรภูมินี้มีชื่อเรียกในซีรีส์ว่า Battle of Blackwater
ประตู Pile Gate – ประตูเมือง King’s Landing
ประตู Pile Gate (อ่านว่า พิเล่เกต) (หมายเลข 4 ในแผนที่) เป็นประตูหลักของเมืองเก่า Dubrovnik ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง และอยู่ระหว่าง Lovrijenac Fort กับ Bokar Fort
ท่าเรือหน้าประตู Pile Gate ถูกใช้ถ่ายทำในซีนที่ส่งเจ้าหญิง Myrcella ไปเป็นตัวประกันที่ต่างแดน
ส่วนด้านในของประตู Pile Gate เป็นฉากที่กษัตริย์ Joffrey ถูกชาวบ้านที่มาประท้วงรุมทำร้ายด้วย
Bokar Fort – กำแพงเมือง King’s Landing
ป้อม Bokar Fort (หมายเลข 5 ในแผนที่) เป็นป้อมปราการสำคัญบนกำแพงเมือง Dubrovnik โดยอยู่ริมทะเลเช่นกัน และหันหน้าชนกับป้อม Lovrijenac Fort เลย ป้อม Bokar Fort ถูกใช้เป็นฉากกำแพงเมืองของ King’s Landing ในจุดที่ตัวละครหลักอย่าง Tyrion Lannister แวะมาบัญชาการศึก
จากภาพจะเห็นว่าเขายืนบน Bokar Fort ก็จะมองเห็น Lovrijenac Fort ที่อยู่ติดกันด้วย
Minceta Tower – House of the Undying
Minceta Tower (หมายเลข 6 ในแผนที่) เป็นป้อมอีกแห่งบนกำแพงเมือง Dubrovnik ที่อยู่ด้านในแผ่นดิน อาคารหินทรงกลมของป้อมนี้ถูกใช้เป็นหอคอยของเผ่านักฆ่า House of the Undying ที่มาขโมยมังกรของนางเอก Daenerys Targaryen ไป และเธอต้องไปตามเอามันกลับคืนมา
น่าเสียดายว่าทีมงานเราไม่ได้เดินขึ้นไปป้อมนี้ เพราะได้เวลาปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นกำแพงเมืองในช่วงเย็นพอดี ได้แต่ถ่ายรูปมาจากระยะไกลแทน
St. Dominika Street – สลัมและตลาดใน King’s Landing
ถนน St. Dominika Street (หมายเลข 7 ในแผนที่) ถนน St. Dominika อยู่ทางตะวันออกของเมืองเก่า Dubrovnik โดยอยู่ใกล้กับโบสถ์ St. Dominikan ที่อยู่ติดกับกำแพงเมืองฝั่งตะวันออก (ประตู Ploce Gate “โพลเซ่เกต” ที่อยู่ตรงข้ามกับ Pile Gate)
ถนนแห่งนี้ใช้ถ่ายฉากสลัมและตลาดในเมือง King’s Landing หลายครั้ง รวมถึงฉากการสังหารลูกนอกสมรสของกษัตริย์ Robert Baratheon หลายคนด้วย
บันไดหน้าโบสถ์ Saint Ignatius
โบสถ์ Saint Ignatius Church เป็นโบสถ์ใหญ่ที่อยู่เกือบติดกำแพงเมืองฝั่งทะเล (ไม่มีพิกัดเป็นหมายเลขในแผนที่ข้างต้น ผู้สนใจลองดูพิกัดใน Google Maps) การเดินจากใจกลางเมืองมายังโบสถ์แห่งนี้ต้องขึ้นบันได Jesuit Staircase หลายขั้น ซึ่งบันไดแห่งนี้ใช้เป็นจุดตั้งต้นของการเดินไถ่บาป Walk of Shame ของพระราชินี Cersei Lannister ในตอนจบของซีซัน 5
ส่วนฉากการเดิน Walk of Shame ในเมือง ใช้ถนน Stradun ซึ่งเป็นถนนสายหลักของเมืองเก่า Dubrovnik, ถนน St. Dominika Street และถนน Ulica od Margarite ถ่ายทำ
ส่วนสถานที่ถ่ายทำที่อยู่นอกเมือง Dubrovnik มีดังนี้
โรงแรม Belvedere Atrium
โรงแรม Belvedere Atrium (หมายเลข 8 ในแผนที่) เป็นโรงแรมร้างริมทะเลที่อยู่นอกเมือง Dubrovnik ไปทางตะวันออก โรงแรมนี้ถูกสร้างขึ้นสมัยยังเป็นสาธารณรัฐยูโกสลาเวีย และถูกทิ้งร้างมาจนถึงปัจจุบัน บริเวณระเบียงหน้าโรงแรมถูกใช้ถ่ายทำฉากต่อสู้ Trial by Combat ของเจ้าชาย Oberyn Martell แห่งแคว้น Dorne กับอัศวินร่างยักษ์ Gregor Clegane
โรงแรมนี้ปิดไม่ให้คนภายนอกเข้า แต่ก็มีคนแอบเข้าไปดูอยู่เรื่อยๆ ปัจจุบันพื้นที่ดวลถูกเพนต์เป็นตราสัญลักษณ์ของสโมสรฟุตบอลท้องถิ่นแล้ว ทางทีม 2Baht ไม่ได้เข้าไปดูแต่ก็ได้นั่งเรือผ่านเช่นกัน
เกาะ Lokrum
เกาะโลครุม Lokrum (เบอร์ 9 ในภาพ) เป็นเกาะที่อยู่นอกชายฝั่ง Dubrovnik ไปไม่ไกล เกาะนี้เคยมีแขกสำคัญอย่างพระเจ้าริชาร์ดใจสิงห์ (Richard the Lionheart) ของอังกฤษ มาแวะพักระหว่างเดินทางไปทำสงครามครูเสดที่ปาเลสไตน์ ปัจจุบันเกาะนี้ไม่มีผู้อาศัยอยู่ค้างคืน แต่มีอารามและโบสถ์เก่าให้แวะไปชม
สวนบนเกาะ Lokrum ถูกใช้ถ่ายทำเป็นสวนของเมือง Qarth ในช่วงที่นางเอก Daenerys Targaryen อพยพไปขอพึ่งพาอาศัย ทางทีมงานของเราไม่ได้ขึ้นไปบนเกาะนี้ แต่ได้นั่งเรือล่องไปใกล้ๆ กับเกาะ และถ่ายรูปเกาะมาฝากกัน
Trsteno Arboretum
สวน Trsteno Arboretum (เบอร์ 1 ในภาพ) เป็นสวนรุกขชาติ (arboretum) ที่อยู่ในเมือง Trsteno ซึ่งอยู่ทางชายฝั่งตอนเหนือของเมือง Dubrovnik ประมาณ 20 กิโลเมตร ถ้าเดินทางมาจากเมือง Split ที่เป็นเมืองชายฝั่งอีกเมืองของโครเอเชีย มายัง Dubrovnik จะต้องผ่านเมือง Trsteno แห่งนี้
สวน Trsteno Arboretum เป็นสวนรุกขชาติที่เก่าแก่มาก สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 โดยตระกูลพ่อค้าในยุคนั้นได้รวบรวมพืชแปลกๆ จากทั่วโลกมารวมกันไว้ที่นี้ สวนแห่งนี้ใช้ถ่ายเป็นสวนของพระราชวัง Red Keep โดยฉากเจรจาของคุณย่าผู้แพรวพราว Olenna ผู้กุมอำนาจสูงสุดของตระกูล Tyrell ที่เกิดขึ้นในศาลาริมสวนก็ถ่ายที่นี่
ทางทีมเราไม่ได้แวะไปที่สวนแห่งนี้เพราะไม่มีเวลา แต่ถ้าใครมีโอกาสแวะไปก็อย่าลืมถ่ายภาพมาฝากกันด้วย
Gradac Park
สวนสาธารณะใหญ่ที่อยู่ข้างเมือง Dubrovnik (เบอร์ 2 ในภาพ) เป็นฉากที่ใช้ถ่ายทำงานแต่งงานของกษัตริย์ Joffrey Baratheon และเลดี้ Margaery Tyrell ซึ่งแฟนๆ ซีรีส์เรียกฉากนี้ว่า Purple Wedding อันมีชื่อเสียง จุดนี้เราก็ไม่มีโอกาสได้ไปชมเช่นกัน
ปิดท้าย
สำหรับผู้สนใจตามรอย Game of Thrones ที่เมือง Dubrovnik สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก Game of Thrones Wiki: Filming Locations, King’s Landing Dubrovnik และดูพิกัดสถานที่จริงได้จากเว็บ Movie Maps
นอกจากนี้ยังมีเว็บฝรั่งจำนวนมากตามรอยสถานที่ถ่ายทำเหล่านี้ให้เป็นแนวทางได้ เช่น Brands & Films และถ้าต้องการจริงๆ ก็สามารถซื้อทัวร์ตามรอย Game of Thrones แบบเที่ยวหลายเมืองในโครเอเชียเลยก็ย่อมได้
สุดท้ายก็ขอแนะนำว่าการเดินทางไปเที่ยว Dubrovnik สามารถเดินทางไปเที่ยวด้วยตัวเองได้ไม่ยากนัก แต่ถ้าจะไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ในโครเอเชียด้วย การเดินทางระหว่างเมืองอาจมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เพราะการคมนาคมอาจไม่สะดวกสบายเท่ากับยุโรปตะวันตก ดังนั้นการซื้อทัวร์จากเมืองไทยไปอาจเหมาะสมกว่าในแง่ความสะดวกของการเดินทาง สำหรับทัวร์โครเอเชีย เราขอแนะนำ Croatia Center ซึ่งเป็นทัวร์ที่เราใช้บริการในการไปเที่ยวรอบนี้ และน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเส้นทางโครเอเชียที่สุดในประเทศไทยตอนนี้
ส่วน GoT ซีซัน 6 เนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไป ก็เจอกันเดือนเมษายน 2016 นี้