เวลาจะไปออกทริปเที่ยวทีไร เรามักเขียน list รายการสิ่งของสัมภาระที่จะนำไปด้วยลงกระดาษ ถึงแม้เคยคิดอยู่เรื่อยๆ ว่าหลังจาก “เที่ยวทริปนี้” จะกลับมาทำไฟล์ Checklist ส่วนตัวไว้ใช้ในอนาคต แต่พอเอาเข้าจริงกลับมาก็ยุ่งๆ ไม่ว่างทำกับเค้าสักที (ตัวอย่าง Packing list จาก pantip)
จนกระทั่งทริปล่าสุดจึงได้ลองหาแอพสร้าง Checklist สำหรับการเดินทางบนสมาร์ทโฟนมาใช้งานดูบ้าง แล้วพบว่าแอพชื่อ PackPoint ใช้งานง่ายและดีประมาณนึง เลยขอรีวิวการใช้งานสั้นๆ ให้ดูกันค่ะ (แอพตัวนี้มีทั้งบน Android และ iOS ดาวน์โหลดได้ตามลิงก์ด้านล่าง)
วิธีการใช้งาน
PackPoint ถือเป็นแอปที่ใช้งานง่ายอยู่แล้ว แต่ถ้าให้อธิบาย ขั้นตอนการใช้งานแบ่งได้ตามนี้
1) อย่างแรกเลย PackPoint จะให้เราเลือกสถานที่-วันเดินทาง-จำนวนวันเดินทาง-วัตถุประสงค์การเดินทาง (เช่น ไปเที่ยวพักผ่อน Leisure หรือไปทำงาน Business) แล้ว PackPoint จะเช็คสภาพอากาศของที่หมายปลายทางให้เราโดยอัตโนมัติ รวมถึงเตรียมประเภทเสื้อผ้าลงใน List ให้คร่าวๆ เสร็จสรพพ
ข้อดีของวิธีนี้คือมันสะดวก เรารู้อุณหภูมิจุดหมายปลายทางที่เราจะไปเลยทันที มีลิสต์รายการเสื้อผ้าให้พร้อม แต่ข้อเสียคือแอพมันเรียบง่ายไปหน่อย มีข้อมูลสภาพอากาศได้แค่เมืองเดียว ไม่สามารถช่วยได้ถ้าทริปนั้นเราเดินทางไปหลายเมืองหรือหลายประเทศ
เมื่อเลือกเสร็จแล้วให้กดปุ่มสีส้มด้านล่าง “Select Activities”
2) หน้าจอต่อไป จะให้เราระบุกิจกรรมที่จะไปทำเพิ่มเติม อย่างเช่น ไปว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือ แม้แต่เล่นสกี เพื่อ PackPoint จะได้จัดรายการอุปกรณ์พิเศษของกิจกรรมนั้นๆ เพิ่มให้ เช่น ถ้าเลือกไปว่ายน้ำ ก็จะมีเพิ่มรายการชุดว่ายน้ำ แว่นตาว่ายน้ำ เป็นต้น
หน้าจอนี้ยังมีตัวเลือกอีกเล็กน้อย คือ Laundry หรือใช้บริการซักผ้าที่ปลายทาง, Repeat Basics ใช้เสื้อผ้าบางชุดซ้ำ ซึ่งจะทำให้ PackPoint จัดจำนวนเสื้อผ้าให้น้อยลง
เสร็จแล้วกดปุ่ม “Begin Packing” เพื่อเริ่มการจัดของ
3) เมื่อเลือกวันที่และกิจกรรมทั้งหมดเสร็จแล้ว PackPoint ก็จะแสดงรายการ Checklist มาตรฐานทั่วไป พร้อมสภาพอากาศปลายทางมาให้
4) แอพนี้สามารถแก้ไขหน่วยอุณหภูมิ (เซลเซียส หรือ ฟาเรนไฮต์) หรือ เพศ ด้วยการกดตรงมุมบนขวาแล้วกด “Customize”
5) หน้าจอการปรับแต่งค่าต่างๆ เมื่อปรับแต่งเสร็จแล้วก็กด “<” ที่มุมบนซ้ายเพื่อกลับไปหน้าเดิม
6) นอกจากนั้นยังสามารถปรับแต่งรายการสัมภาระต่างๆ ได้เอง เช่น
- ตัดรายการที่ไม่ได้ใช้ออก โดยการปัดซ้ายปัดขวา อย่างในรูป “Shaving Gel” ก็จะถูกตัดออกจาก Checklist
- เพิ่มรายการก็ทำได้เช่นกัน แค่เลื่อนลงไปข้างล่าง พิมพ์แทนที่ตรงคำว่า “Type to add new item” ในส่วนนี้สามารถพิมพ์รายการภาษาไทยได้ หรือ หากต้องการเพิ่มจำนวนก็ทำได้โดยการกด + ที่ด้านหลังเพื่อปรับจำนวน
7) เมื่อเราเริ่มจัดของลงกระเป๋า ก็มาดูรายการใน PackPoint อันไหนลงกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็เช็ครายการนั้นด้วยการกดที่วงกลมด้านหน้า รายการนั้นก็จะแสดงเป็นสีเทาๆ พร้อมเครื่องหมายติ๊กถูก
Feature อื่นๆ ของ PackPoint
- Sync ไปยัง Evernote แอพจดโน้ตยอดฮิต ในกรณีที่เราจดข้อมูลต่างๆ ลง Evernote ก็สามารถดึงข้อมูลจาก PackPoint ไปใช้ได้เลย
- Share ไปยัง Social Network อื่นๆ อย่าง facebook, drive หรือ e-mail ก็ได้
วิดีโอรีวิว
วิดีโอสาธิตการใช้งานแอพ PackPoint
สรุปผลการรีวิว
- ออกแบบมาเรียบง่าย ใช้งานได้ไม่ซับซ้อน แถมมีเช็คอุณภูมิเมืองปลายทางให้อัตโนมัติทำให้จัดเสื้อผ้าง่ายขึ้น แต่ก็ยังมีข้อด้อยตรงที่เลือกได้ 1 เมือง ต่อ 1 ทริปเท่านั้น หากไปหลายเมืองอาจจะต้องเลือกเมืองตรงกลางๆ
- รายการ Checklist มาตรฐานอาจจะไม่ถูกใจเรา บางรายการเกิน บางรายการขาด แต่ละคนย่อมมี Checklist มาตรฐานที่แตกต่างกัน ดังนั้นแอพไม่สามารถตอบโจทย์แต่ละคนได้ทั้งหมด อย่างเช่น บางท่านอาจจะมียาประจำตัวเพิ่มเติมเข้าไป อันนี้ต้องมี Checklist ในใจเผื่อไว้ด้วย
- เนื่องจากเป็นแอพในสมาร์ทโฟน เลยสะดวกในการปรับแต่งรายการ Checklist ในช่วงเวลาว่างระหว่างวัน อย่างเช่น นั่งดูละครไปก็ทำ Checklist ไปพลางๆ พอละครจบก็ค่อยไปจัดกระเป๋า 😀
การดาวน์โหลดแอพ PackPoint
แอพ PackPoint สามารถใช้งานได้ฟรีทั้ง Android และ iOS โดยกดปุ่ม download กันได้เลยตาม link ข้างล่างจ้า
หมายเหตุ PackPoint ยังมี Version Premium ราคาราว 99 บาท ซึ่งจะมีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น สร้างเซ็ต Checklist มาตรฐานให้กับตัวเองเพื่อนำไปใช้ซ้ำในอนาคต หรือ เชื่อมต่อกับ TripIt ซึ่งเป็นแอพทำ Itinerary หรือแผนการเดินทาง (ส่วนตัวยังไม่เห็นเหตุจำเป็นต้องซื้อ เลยขอใช้เวอร์ชันฟรีต่อไป)