“สุกี้เอี้ยวฮั้ว” เป็นร้านสุกี้ยากี้เจ้าแรกของไทย ขายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 ถ้านับมาถึงปัจจุบันก็เปิดมาได้ 60 ปีพอดี แต่เดิมตั้งอยู่ละแวกสามย่าน ซึ่งหนุ่มสาวรั้วจามจุรีอาจจะรู้จักกันดี แต่ปัจจุบันตึกดังกล่าวถูกทุบทิ้งไปแล้วเพราะที่ดินถูกเวนคืน ลูกค้าดั้งเดิมอาจสงสัยว่าเอี้ยวฮั้วย้ายไปอยู่ที่ไหน มีร้านใหม่หรือเปล่า
คำตอบคือตอนนี้ เอี้ยวฮั้วย้ายไปตั้งร้านสาขาใหม่ ที่ฟู้ดคอร์ท Eathai ชั้น LG ห้าง Central Embassy ใกล้สถานี BTS เพลินจิต (ติดกับ Central ชิดลม) ซึ่งทีมงาน 2Baht ตามไปสืบเสาะว่าสุกี้เอี้ยวฮั้วในปัจจุบันอยู่ตรงไหน และปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นอย่างไรกันค่ะ
ศูนย์อาหาร Eathai (อ่านว่า “อีทไทย”) เป็นฟู้ดคอร์ทของห้างหรู Central Embassy วิธีการมาไม่ยากเลย เดินเข้า Central Embassy มาจะอยู่ชั้น LG หรือชั้นใต้ดิน (ลงจากชั้นระดับปกติไป 1 ชั้น) หาง่ายเพราะชั้น LG ไม่มีอย่างอื่นเลยยกเว้น Eathai
ที่ศูนย์อาหาร Eathai จะใช้ระบบเดียวกันกับ Food Loft ในเครือ Central ซึ่งเป็นแบบทานก่อนจ่ายทีหลัง นั่นก็คือ
- ตรงทางเข้าจะมีเจ้าหน้าที่คอยแจกบัตรหน้าตาแบบรูปข้างล่าง ให้เราเอาไว้บันทึกรายการอาหารที่สั่ง
- สิ่งที่ต่างกับ Food Court ทั่วไปตรงที่เวลาเราสั่งแล้วก็ยื่น Slip ให้พนักงานรออาหารแล้วมาเสิร์ฟให้เราถึงโต๊ะ ตรงนี้ไม่ต้องเกรงใจพนักงานใดๆ เพราะทาง Eathai จะคิด Service Charge เรา 5% นอกเหนือจากราคาตามป้ายหน้าร้าน
- พอทานเสร็จก็เอาบัตรนี้มายื่นให้แคชเชียร์ตรงทางออกเพื่อสรุปยอดทีเดียว ซึ่งก็จะสามารถใช้ส่วนลดบัตรเครือ Central ได้ นั่นก็คือ Central Card และ The 1 Card ตามแต่โปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ
- บัตรนี้จะแจกให้ลูกค้าทุกคน 1 บัตร 1 คนนะคะ ต่อให้ไม่ทานก็ไม่เป็นไร ตอนออกก็คืนบัตรอย่างเดียว ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ (แต่ถ้าขาออกไม่มีบัตร ก็ไม่มีสิทธิออกจ้า)
จากร้านสุกี้แบบนั่งสังสรรค์เป็นร้านในฟู้ดคอร์ท
ข้อจำกัดของการขายใน Food Court ที่เป็นที่นั่งรวม ไม่มีแยกที่นั่งของแต่ละร้าน ทำให้สุกี้เอี้ยวฮั้วเวอร์ชัน Embassy ต้องปรับเมนูจากเดิมที่เป็นการสั่งถาดผัก-เนื้อ มานั่งต้มกันเองเหมือนสุกี้แบบ MK ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี กลายเป็นการสั่งสุกี้แบบชาม/จานเดี่ยวแทน
ตรงนี้ถือว่า เอี้ยวฮั้วแก้เกมได้ดี เพราะถึงแม้ไม่สามารถจัดเต็มเมนูได้แบบเดิม แต่ความอร่อยก็ไม่ได้ตกลงสักเท่าไร แถมยังมีเมนูแนะนำ “สุกี้หม้อหินร้อนๆ” ที่พร้อมเสิร์ฟแบบเดือดปุดๆ กันถึงโต๊ะ
2Baht ได้สั่งสุกี้หม้อร้อนเนื้อวัวหมักพิเศษ (ราคา 250 บาท) มาลองทานดู ทางร้านได้เตรียมน้ำจิ้มไว้ให้ 2 แบบ
- น้ำจิ้มงา แบบด้านซ้าย คล้ายๆ MK
- น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ผสมพริกตำ สูตรของทางร้าน (ถ้วยขวามือในภาพ) เห็นสีจืดๆ แต่มีรสมีชาติ เผ็ดอมเปรี้ยว เหมาะแก่การจิ้มเนื้อเพื่อเพิ่มรสชาติเป็นอย่างมาก
หากมาทานกันหลายคน พนักงานจะหาถ้วยแบ่งเล็กๆ มาให้ (สังเกตที่ช้อน ไอร้อนยังพุ่งอยู่เลย) ด้วยขนาดของหม้อหินแล้วแบ่งทานได้ 2 คนกำลังดี
จุดเด่นของเมนูนี้อยู่ที่เนื้อวัวสูตรเฉพาะของเอี้ยวฮั้ว ถือว่าหมักได้นุ่มมากๆ กัดเข้าปากชิ้นแรกแล้วนุ่มจนน่าตกใจ ส่วนน้ำซุปของเค้าทำได้รสชาติกลมกล่อมจริงๆ
ลองดูภาพซูมแบบใกล้ๆ เนื้อชิ้นใหญ่มาก น่ากิน > < (ใครที่ไม่ทานเนื้อก็ยังมี หมูหมัก ไก่หมัก หรือรวมมิตรทะเลให้ชิมกันนะ)
สุกี้น้ำผ่านบททดสอบไปได้สวยๆ เราเลยขอลองสุกี้รวมมิตรทะเลผัดแห้ง (จานละ 150 บาท) มาลองกันบ้าง ผัดกันเดี๋ยวนั้น ยกมาเสิร์ฟจานใหญ่ทีเดียวเลย
ขอลองแยกส่วนผสมให้ดูคร่าวๆ ถือว่าให้มาสมกับราคา มีเครื่องครบถ้วนทั้งปลา กุ้ง ปลาหมึก และแมงกระพรุน รสชาติถือว่าอร่อยกลางๆ คือผัดมาแห้งดี แต่รสชาติอาจจะจืดไปนิดนึง คงเป็นเพราะไม่ได้คลุกซอสสุกี้ระหว่างผัด (เน้นให้ลูกค้าปรุงเองมากกว่า) เมื่อวัดกันหมัดต่อหมัด จานต่อจานแล้ว ถือว่ายังตกเป็นรอง “สุกี้น้ำ” ที่มีซุปอร่อยๆ ช่วยชูโรงความอร่อยในภาพรวม
จานสุดท้ายก็ยังวนเวียนอยู่ที่เนื้อ นั่นก็คือ ข้าวราดเนื้อวัวผัดน้ำมันหอย (จานละ 130 บาท) เนื้อชิ้นใหญ่ๆ นุ่มๆ ผัดใส่พริกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหอม แต่ไม่ได้รู้สึกเผ็ดอะไร สรุปว่าอร่อยมีรสมีชาติ แนะนำสำหรับการทานเป็นอาหารจานเดียว ใครแวะเวียนมาทานข้าวเที่ยงที่ Eathai แล้วอยากกินข้าวอร่อยๆ ในราคาพรีเมียมที่พอรับได้ ก็มีจานนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
โดยสรุปแล้วในแง่รสชาติของเอี้ยวฮั้วสาขา Embassy ต้องบอกว่า “มีดีที่เนื้อ” ใครเป็นสาวกเนื้อวัวไม่ควรพลาด ของเขาดีจริงๆ
สำหรับคนที่คิดถึง “เอี้ยวฮั้ว” แบบดั้งเดิมที่กินเป็นหม้อ คีบเนื้อมาจุ่มกันเอง ทางเราสอบถามแม่ครัวอาวุโสของทางร้านแล้วได้ความว่า มีแผนอยากจะเปิดร้านแบบเดิมอีกครั้ง แต่ยังหาสถานที่ไม่ได้ ดังนั้นตอนนี้ก็มีแค่สาขาเดียวคือ Central Embassy ไปก่อน (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2558)
โปรโมชั่นส่วนลดศูนย์อาหาร Eathai
การจ่ายเงินค่าอาหารต้องจ่ายผ่านบัตรของ Eatthai ซึ่งก็มีโปรโมชั่นส่วนลดแตกต่างกันไป โปรโมชั่นของปี 2558 มีดังนี้ ใครเข้าข่ายก็ใช้เป็นส่วนลดได้ มีแล้วดีกว่าไม่มี
- บัตรเครดิต Central Card ลด 5% ถึง 31 ธ.ค. 58
- บัตร The 1 Card แลกแต้ม 50 คะแนนเพื่อรับส่วนลด 10% ถึง 30 มิ.ย. 58
แผนที่และการเดินทาง
สำหรับใครที่อยากมาลิ้มลองสุกี้โบราณ เอี้ยวฮั้ว หรือ ร้านอาหารอื่นๆ ในศูนย์อาหาร Eathai ชั้น LG (ชั้นใต้ดิน) ของศูนย์การค้า Central Embassy แล้วละก็แนะนำให้มาด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเพลินจิตหรือชิดลมก็ได้ทั้งคู่ตามแผนที่ เน้นเดินสะดวกลงเพลินจิต แต่เน้นช้อปปิ้งก็มาทางชิดลม
ส่วนด้านล่างเป็นแผนที่ร้านอาหารใน Eathai แนะนำว่าจากชั้น 1 ให้ลงบันไดเลื่อนเวิ้งตรงกลางแถวร้าน Hermes แล้วลงมายังชั้น LG จะเห็นทางเข้า Eathai ตั้งอยู่ตรงหน้าบันไดเลื่อนเลย จากนั้นรับบัตรที่ศูนย์อาหาร
จากทางเข้า Eathai ให้เลี้ยวขวาแล้วเดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ จนเห็นแผนที่ประเทศไทยและ รถตุ๊กๆ จากจุดนี้มองไปทางขวา
จะเห็นร้านสุกี้โบราณ เอี้ยว-ฮั้ว ตั้งอยู่ก่อนครัวภาคใต้พอดีจ้า
รายละเอียดเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ ศูนย์อาหาร Eathai : www.centralembassy.com/eathai
- เปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.
- พิกัด GPS : 13.7433866,100.5460675
- ที่จอดรถ : Central Embassy จอดฟรี 2 ชั่วโมงแรก