นิวออร์ลีนส์ (New Orleans) เป็นเมืองท่าสำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา โดยเป็นเมืองใหญ่เมืองสุดท้ายที่แม่น้ำมิสซิสซิปปี้ (Mississippi River) แม่น้ำที่ยาวที่สุดในอเมริกาเหนือไหลผ่าน ก่อนไหลออกทะเลที่อ่าวเม็กซิโก
ในเมื่อมีโอกาสได้มาเยือนแม่น้ำมิซซิสซิปปี้ทั้งที ก็เลยลองมานั่งเรือชมแม่น้ำกันบ้าง โดยเรือนำเที่ยวชื่อดังของ New Orleans คือเรือ Steamboat Natchez (นัตเช่) ซึ่งเป็นเรือกลไฟ (steamboat) แบบดั้งเดิมเพียงลำเดียวที่ยังเหลืออยู่ด้วย
ข้อมูลอย่างละเอียดของเรือ Natchez สามารดูได้จากเว็บไซต์ของเรือ
แพ็กเกจตั๋ว รอบเรือ และเวลาเดินเรือ
เรือ Natchez ให้บริการวันละ 4 รอบคือ
- เรือรอบกลางวัน (Harbor Jazz Cruise หรือถ้าเป็นวันอาทิตย์จะเรียก Sunday Jazz)
- รอบเที่ยง: เริ่ม 11.30 เสร็จ 13.30
- รอบบ่าย: เริ่ม 14:30 เสร็จ 16:30
- เรือรอบเย็น (Dinner Jazz Cruise)
- รอบเย็น: เริ่ม 18:00 เสร็จ 19:15
- รอบค่ำ: เริ่ม 19:45 เสร็จ 21:00
เรือรอบกลางวันจะราคาถูกกว่าคือ 31 ดอลลาร์ (ไม่รวมอาหาร) ส่วนเรือรอบเย็นเริ่มที่ 48 ดอลลาร์ ตั๋วมีทั้งแบบนั่งเรืออย่างเดียว และแบบนั่งเรือบวกอาหารด้วยหนึ่งมื้อ
เรือทุกเที่ยวมีดนตรีแจ๊ซเล่นสดๆ ให้ฟังกัน ถ้าเป็นรอบเย็นก็จะเป็นวงใหญ่อลังการกว่า (แน่นอนว่าราคาก็แพงกว่า)
เรือที่เรานั่งเป็นรอบกลางวัน 11:30 น. โดยรวมอาหารเที่ยงด้วย (ไหนๆ ก็มาแล้ว) ราคา 42 ดอลลาร์
วิธีการซื้อตั๋วและจุดขึ้นเรือ
การซื้อตั๋วจะซื้อผ่านเว็บก็ได้ หรือจะซื้อที่ท่าเรือก็ได้เช่นกัน แต่แนะนำว่าควรซื้อล่วงหน้าสักหน่อย เพราะ Natchez เป็นเรือยอดนิยม นักท่องเที่ยวเยอะมาก ถ้ามาวันที่คนเยอะๆ อาจตั๋วเต็มได้ อย่างผู้เขียนก็มาซื้อก่อนเวลาขึ้นเรือ 1 ชั่วโมง (เรือออก 11.30, ให้เริ่มขึ้นเรือ 11.00, มาซื้อตั๋วตอน 10.00)
จุดขึ้นเรือจะอยู่ใกล้ๆ กับจัตุรัส Jackson Square ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเยือน ถ้ามาถึง Jackson Square ให้ข้ามถนน 1 ทีจะเจอทางรถไฟ ข้ามทางรถไฟอีก 1 ทีก็เจอแม่น้ำแล้ว ท่าเรือของ Natchez อยู่ห่างไปอีกนิดเดียว
การซื้อตั๋วจะมีซุ้มขายตั๋วตั้งอยู่ด้านหน้า สามารถจ่ายเงินได้ทั้งเงินสดและเครดิตการ์ด ซุ้มขายตั๋วเรือ Natchez จะใช้ร่วมกับแพ็กเกจทัวร์นอกเมืองด้วยรถบัสของบริษัท Greyline ซึ่งถ้าใครอยากซื้อเป็นแพ็กเกจครบชุดไปเลย ก็จะได้ส่วนลดเพิ่มอีก
ต่อคิวขึ้นเรือ
ป้ายบอกเวลาขึ้นเรือ เจ้าหน้าที่จะให้ผู้โดยสารขึ้นเรือก่อนออกเรือ 30 นาที เท่าที่ลองสังเกตดู มาใกล้ๆ ออกเรือก็ยังให้ขึ้นได้ แต่รีบมาก็จะดีกว่า
เพราะว่าคนจะรอคิวเยอะมาก นี่ขนาดมาวันธรรมดา ไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์
หน้าตาของเรือ Natchez เรือกลไฟย้อนยุคลำสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่มาถึงปัจจุบัน ถ้าเอากันตามประวัติศาสตร์เป๊ะๆ เรือ Natchez ลำนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า Natchez IX หรือ Natchez ลำที่ 9 แล้ว เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเรือชื่อ Natchez มาแล้ว 8 ลำ
เรือ Natchez บางลำในอดีตก็เคยผ่านสงครามกลางเมืองสหรัฐมาก่อน เรือลำปัจจุบันใช้เครื่องยนต์ไอน้ำจากเรืออีกลำชื่อ CLAIRTON โดยยกเครื่องยนต์มาประกอบเข้ากับเรือลำใหม่เลย (เรือลำนี้เพิ่งสร้างในปี 1975 เป็นการสร้างเลียนแบบเรือในอดีต)
กระบวนการขึ้นเรือจะมีถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามธรรมเนียมแหล่งหาเงินจากทัวริสต์ที่ดี (ไม่บังคับซื้อและไม่น่ารำคาญ) มีค้นกระเป๋าตรวจความปลอดภัยด้วย
หน้าตาตั๋วของเรือ Natchez ถ้าเราซื้อตั๋วแบบมีอาหารด้วย จะมีหางตั๋วสำหรับใช้กินข้าว ซึ่งต้องเก็บไว้ดีๆ ตอนขึ้นเรือแล้ว
ตอนขึ้น-ลงเรือจะนานหน่อยเพราะคนเยอะ เท่าที่ดูด้วยสายตาก็น่าจะ 200 คนขึ้นไป แต่เรือลำใหญ่มาก ถือว่าใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่นั่งเรือแบบนี้มา มีถึง 3 ชั้น ดูมั่นคง แข็งแรงดีมาก
หัวเรือ
ท้ายเรือ เป็นใบพัดที่หมุนด้วยพลังไอน้ำ
สิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือ Natchez
เนื่องจากเป็นเรือนำเที่ยว ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเลือกที่นั่งได้อย่างเต็มที่ จะนั่งริมรั้วกราบเรือ นั่งในร่ม ในห้องอาหาร ได้ทั้งหมด มีโต๊ะ เก้าอี้พร้อมสรรพมาก แถมมีของขายมากมากทั้งอาหารว่าง เครื่องดื่ม เหล้าเบียร์ ไอติม และมีร้านขายของที่ระลึกบนเรือเลย
จากการลองนั่งในเดือนตุลาคมช่วงกลางวัน ในวันที่อากาศค่อนข้างเย็นสักหน่อย (ประมาณ 20 องศา) พบว่าจะเหมือนการนั่งเรือในต่างประเทศทั่วๆ ไป ที่เวลานั่งตากแดดไปนานๆ แล้วจะร้อน แต่ถ้านั่งในร่มแล้วจะหนาว
สำหรับคนไทยอย่างเราๆ พบว่าใส่เสื้อกันหนาว แล้วนั่งในร่มจะกำลังดีที่สุด (แถมที่นั่งเหลือเยอะด้วยเพราะฝรั่งไปนั่งฝั่งมีแดดกันหมด) ตำแหน่งที่นั่งที่เหมาะสมคือบริเวณใกล้ๆ หัวเรือ ค่อนมาทางฝั่งซ้ายเพราะจะเห็นสถานที่ที่กัปตันบรรยายเยอะกว่า
วิวทิวทัศน์ในแถบแม่น้ำ Mississippi
สำหรับคนที่คิดว่าการนั่งเรือล่องแม่น้ำ Mississippi จะมีวิวทิวทัศน์สวยงามเหมือนในยุโรป อาจจะผิดหวังอยู่บ้าง เพราะ Mississippi ช่วงนี้ไม่มีอะไรให้ดูมากนัก แถมบริเวณใกล้ๆ เมือง New Orleans ยังกลายเป็นเขตโรงงานอุตสาหกรรมซะเยอะ สิ่งที่เห็นมากที่สุดจึงเป็นเรือสินค้าขนาดใหญ่นั่นเอง
โรงงานน้ำตาล Domino Sugar ซึ่งถือเป็นโรงงานน้ำตาลขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกา และใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (อันดับหนึ่งอยู่ในอินเดีย) ก็อยู่ในเมือง New Orleans แห่งนี้ นั่งเรือผ่านได้กลิ่นกากอ้อยโชยขึ้นมาเลยทีเดียว
ที่ฮาสุดคืออันนี้ มีบ้านหลังหนึ่งเป็นผู้สนับสนุน Donald Trump เลยแปะป้ายชื่อซะตัวโต เรียกเสียงฮือฮาจากคนบนเรือมาก แถมเจ้าของบ้านก็ตั้งใจมาก ออกมาโบกมือให้คนบนเรือตลอดเวลาที่เรือผ่าน
เรือจะล่องไปทางปากแม่น้ำก่อน แล้วกลับเรือมา วนเข้าไปดูในเมือง New Orleans นิดนึง (ถึงสะพานข้ามแม่น้ำ) แล้ววนกลับมาที่ท่าเรือ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง กำลังดีไม่นานเกินไป
โบสถ์ St. Louis Cathedral สัญลักษณ์สำคัญของเมือง New Orleans ที่หน้า Jackson Square
การรับประทานอาหารบนเรือ
เนื่องจากเรือคาบเกี่ยวช่วงเที่ยงด้วย เลยตัดสินใจซื้อตั๋วแบบรวมอาหาร จะได้กินอาหารบนเรือไปเลย (ราคาเพิ่มมาอีก 11 ดอลลาร์) ซึ่งพบว่าคุ้มค่าอยู่ เพราะอาหารก็ทำได้ดีพอสมควรกับราคาที่เพิ่มมาเท่านี้
การกินอาหารเที่ยงบนเรือเป็นระบบบุฟเฟต์ โดยห้องอาหารอยู่ที่ชั้น 2 ของเรือ เนื่องจากเรือมีผู้โดยสารเยอะ เลยต้องแบ่งครึ่ง ผลัดกันมากินทีละรอบ ซึ่งเราจะได้รอบไหนก็ขึ้นกับในตั๋วเลย
ผู้เขียนได้รอบแรก 11:00 เลย เรียกได้ว่าขึ้นเรือมาปั๊บก็สามารถเดินเข้าห้องอาหารได้เลย (กินไปจนเกือบอิ่มแล้วเรือยังไม่ออกด้วยซ้ำ) ห้องอาหารก็โอ่โถง สวยงาม
เมนูอาหารของเรือ Natchez รอบเที่ยง บอกว่าเป็นอาหารแบบท้องถิ่นของ New Orleans ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเฉพาะ (จะออกแนวๆ ฝรั่งเศสผสมเม็กซิกัน) ตอนกินต้องเอาคูปองหางตั๋วให้พนักงาน แล้วจะได้ถาดมาสำหรับตักอาหาร (เข้าใจว่าตักได้มากกว่า 1 รอบ แต่แค่รอบเดียวก็จุกแล้ว)
อาหารหลักจะมีไก่ย่าง และปลาทอดราดซอสทาทาร์ เครื่องเคียงเป็นผัก ข้าว พาสต้า สลัด มีของหวานให้ 2 อย่าง และมีน้ำเปล่ากับชามะนาวเย็นให้ด้วย (ชามีทั้งแบบหวานและไม่หวาน)
อาหารเที่ยงบนเรือ หน้าตาดูดีทีเดียว ไก่ชิ้นใหญ่มากกินไม่หมด ปลาอร่อยมาก ของหวานก็ใช้ได้ ถือว่าคุ้มค่ากับราคา 11 ดอลลาร์ที่จ่ายเพิ่มจากค่าตั๋วเรือปกติ
การนั่งเรือขาไป จะเป็นการบรรยายทิวทัศน์สองข้างทาง ส่วนการนั่งเรือขาวนกลับ จะเป็นการเล่นดนตรีแจ๊ซวงเล็ก (ถ้าอยากได้วงใหญ่ต้องมาตอนเย็น) ซึ่งเราจะมาฟังในห้องอาหารก็ได้ หรือจะนั่งฟังที่บริเวณกราบเรือก็ได้ เพราะเขาเปิดลำโพงให้ได้ยินกันหมด
อัดคลิปมาด้วยเล็กน้อย พอให้เห็นภาพ
ดูเครื่องยนต์เรือกลไฟ ทำงานอย่างไร
ของแถมปิดท้ายสำหรับเรือ Natchez คือชั้นล่างสุดของเรือที่เป็นห้องเครื่องยนต์ เปิดให้ผู้โดยสารเข้ามาชมได้ด้วย จะได้เห็นภาพว่าเครื่องยนต์ของเรือกลไฟ หน้าตาเป็นอย่างไร
Boiler Room หรือหม้อน้ำสำหรับต้มเพื่อให้เกิดไอน้ำไปขับเคลื่อนเครื่องยนต์
ห้องเครื่องยนต์ เปิดให้เดินเข้าไปดูเลยว่าทำงานอย่างไร (วิศวกรคุมเครื่องยนต์นั่งเล่นมือถืออย่างใจเย็น)
แผ่นป้ายอธิบายกลไกการทำงานของเครื่องยนต์ไอน้ำ
ถ่ายคลิปการทำงานของเครื่องยนต์ไอน้ำมาให้ดูด้วย จะเห็นว่าบางจุดมีไอน้ำรั่วออกมาให้เห็นๆ กันเลย
สรุป
ต้องถือว่าการนั่งเรือ Steamboat Natchez น่าประทับใจ เรื่องวิวอาจไม่สวยงามมากนัก แต่ก็ได้บรรยากาศว่าการล่องเรือในแม่น้ำ Mississippi เป็นอย่างไร การจัดการบนเรือดีเยี่ยมและเป็นมืออาชีพมาก อาหารอร่อย บรรยายสนุกและละเอียด เพลงแจ๊ซก็ฟังได้เพลินๆ คุ้มค่า 42 ดอลลาร์ที่จ่ายไป
ใครที่มา New Orleans แล้วมีเวลาว่าง การนั่งเรือ Natchez ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีอันหนึ่ง (ควรจัดเวลาให้มาพร้อมกับการดูย่าน French Quarter ที่อยู่ใกล้ๆ กัน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง)