2Baht เคยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศจอร์แดนคือ ปราสาทเครัค ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศไปแล้ว คราวนี้จะพาไปดูปราสาทร่วมสมัยเดียวกันคือ ปราสาทอัจลุน (Ajloun Castle) ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ อยู่ในเมืองอัจลุนที่เหนือเมืองหลวงอัมมานไปอีกสักหน่อย
ปราสาทเครัคนั้นถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามครูเสด ราวปี ค.ศ. 1142 โดยฝ่ายของนักรบศาสนาคริสต์ที่เดินทางมาจากยุโรป อย่างไรก็ตาม ปราสาทเครัคถูกตีแตกโดยกองทัพของ ซาลาดิน กษัตริย์ชาวมุสลิมในปี 1189
ส่วนปราสาทอัจลุนหรือบางคนเรียกป้อมอัจลุน ถูกสร้างขึ้นไล่เลี่ยกับช่วงที่ปราสาทเครัคถูกตีแตก (ก่อนนั้นเล็กน้อย) คือ ค.ศ. 1184-1185 แต่ปราสาทนี้เป็นผลงานของชาวมุสลมที่อยู่ทางตอนเหนือ โดยผู้สร้างคือ Izz al-Din Usama หลานของซาลาดินที่ได้รับมอบหมายมาสร้างป้อมปราการทางตอนเหนือเพื่อสกัดกั้นการรุกคืบของชาวคริสต์ที่มาจากฝั่งตะวันตก
ปราสาทอัจลุนตั้งอยู่บนภูเขาทำให้เข้าโจมตีได้ยาก ปัจจุบันบริเวณตีนเขามีชุมชน “เมืองอัจลุน” ถือเป็นเมืองสำคัญทางตอนเหนือของประเทศจอร์แดนด้วย
นอกจากปราสาทอัจลุนแล้วเมืองนี้ก็ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวอื่นนัก ตัวปราสาทนั้นรถยนต์สามารถขึ้นไปได้ถึงประตูเลย เดินอีกนิดเดียวก็เข้าถึงตัวปราสาทแล้ว ช่วงที่ไปเที่ยวคือเดือน พ.ย. อากาศช่วงเช้าบนปราสาทค่อนข้างหนาว ลมแรงทีเดียว
ทางเดินเข้าปราสาทเป็นสะพานไม้เล็กๆ ข้ามคูน้ำโบราณที่ช่วยป้องกันปราสาทจากศัตรู
ภาพแสดงกำแพงชั้นนอกปราสาท คูน้ำล้อมรอบ และตัวปราสาท ปกป้องหลายชั้น มั่นใจยิ่งขึ้น
ปราสาทอัจลุนถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นฐานที่มั่นทางตอนเหนือของฝ่ายมุสลิม แต่เอาเข้าจริงแทบไม่ได้ใช้ทำสงครามครูเสดเลย เพราะกษัตริย์ซาลาดินสามารถตีปราสาทเครัคแตกได้ก่อน และบุกยึดเยรูซาเล็มได้ในเวลาต่อมา ดังนั้นปราสาทอัจลุนจึงอยู่ว่างๆ ไม่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูไปอีกพักใหญ่ๆ
หลังหมดยุคอาณาจักร Ayyubid แล้ว อาณาจักรมัมลุก (Mamluk) ที่ปกครองดินแดนแถบนี้สืบมาก็ครอบครองป้อมแห่งนี้ต่อ ขยายตัวปราสาทเพิ่มเติม ก่อนจะมาโดนเผ่ามองโกลตีแตกในปี ค.ศ. 1260 ต้องเรียกว่ามองโกลป่วนไปครึ่งโลกจริงๆ ไปที่ไหนป้อมค่ายพังหมด
ภายในปราสาทค่อนข้างสมบูรณ์มาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินดูได้ตามใจชอบ จะจำลองตัวเองเป็นนักรบยุคกลางหรือ Game of Thrones ก็ได้ทั้งนั้น
ภายในปราสาทมีหลายห้องจัดแสดงอาวุธและสิ่งของโบราณในสมัยสงคราม ต้องมีเวลายืนอ่านพอสมควร บางห้องเป็นห้องนักโทษ ห้องพัก ห้องเก็บสรรพาวุธ ก็มีแสดงให้ดูครบถ้วน เสียดายว่าเรามีเวลาไม่เยอะนักเลยไม่มีเวลายืนอ่านสักเท่าไร
จุดที่ควรไปดูคือดาดฟ้าด้านบนของปราสาท มีวิวสวยงามเห็นทิวทัศน์ได้รอบทิศ จินตนาการได้ถึงการเป็นนักรบสมัยก่อนยืนดูการศึกจากระยะไกล
โดยสรุปแล้วปราสาทอัจลุนถือเป็นปราสาทในสมัยสงครามครูเสดที่สภาพยังดีเยี่ยม (ดีกว่าปราสาทเครัคมาก) แถมอยู่บนภูเขาทำเลดีงาม โดดเด่น ควรแวะมาเดินสำรวจปราสาท (ไม่กว้างนักแต่ก็ไม่เล็ก) และชมวิวทิวทัศน์บนปราสาทให้เต็มอิ่มก่อนเดินทางไปเที่ยวยังจุดหมายต่อไป (เมืองอัจลุนจะอยู่ไม่ไกลจากเมืองเจอราซ Jerash ซึ่งเป็นเมืองเก่าของชาวโรมัน การไปเที่ยวจึงมักไปวันเดียวกันเพราะอยู่ทางเดียวกัน)
ปราสาทอัจลุนมีอีกชื่อหนึ่งว่า Qala’at ar-Rabad รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้จาก Wikipedia แผนที่ดูได้จาก Google Maps
[put_wpgm id=2]