เมื่อพูดถึง “เลาจ์สนามบิน” ในสนามบินสุวรรณภูมิของประเทศไทยเราแล้ว ก็ต้องบอกว่าสุวรรณภูมิถือเป็นสนามบินที่มีเลาจ์เยอะมาก (เกือบทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 3 ต้องเดินลงไป 1 ชั้นจากชั้น 4 ที่เป็นทางเดินสำหรับผู้โดยสารขาออก)
ถ้าไม่นับเลาจ์ของสายการบินแล้ว เลาจ์ที่มีบริการเยอะมากในสุวรณภูมิคือ เลาจ์ยี่ห้อ Louis’ Tavern ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Miracle Group เจ้าของเดียวกับโรงแรม Miracle Grand Hotel หลักสี่ และโรงแรม Louis’ Tavern ย่าน ถ.วิภาวดีรังสิตนั่นเอง
สนามบินสุวรรณภูมิมีเลาจ์แบรนด์ Louis’ Tavern (บ้างก็ใช้ชื่อว่า CIP Lounges แต่ก็เป็นยี่ห้อเดียวกัน) มากถึง 6 แห่ง โดยแบ่งเป็นเลาจ์ฝั่งตะวันออก (เกต A/C) 2 แห่ง และเลาจ์ฝั่งตะวันตก (เกต G/F) อีก 4 แห่ง ตามแผนที่ด้านล่าง (รายละเอียดจากเว็บไซต์)
เลาจน์ CIP Lounges เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง และรับบัตร Priority Pass บัตรเบ่งที่ใช้เข้าเลาจ์สนามบินได้ทั่วโลกด้วย ตอนนี้บัตรเครดิตหลายค่ายในไทยหันมาแถมบัตร Priority Pass ให้กับลูกค้า ทำให้โอกาสที่เดินทางด้วยเครื่องบินแล้วได้ใช้เลาจ์ Louis’ Tavern มีมากขึ้นตามมา
ในกรณีที่ไม่มีบัตร Priority Pass และอยากใช้บริการ ค่าบริการบนหน้าเว็บระบุว่าครั้งละ 1,000 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีลดราคาเหลือ 500 บาท
รีวิวบรรยากาศ CIP First Class Lounge ของจริง
เมื่อเร็วๆ นี้ทีมงาน 2Baht มีโอกาสได้เข้าไปใช้บริการเลาจ์ CIP ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จึงขอเก็บบรรยากาศบางส่วนมารีวิวให้ผู้อ่าน เผื่อว่าจะมีโอกาสตามไปใช้บริการบ้าง
เลาจ์สาขาที่เราไปใช้บริการคือ CIP First Class Lounge บริเวณ Concourse G ชั้น 3 หาได้ไม่ยากเพราะอยู่ติดกับ 4 แยกเลย หน้าเลาจ์มีป้ายรับบัตร Priority Pass แปะอยู่ชัดเจน
ถ้าหาไม่เจอหรือไม่รู้ว่าเลาจ์อยู่ตรงไหน จุดสังเกตฝั่งตรงข้ามกับเลาจ์เป็นร้านขายหนังสือชื่อ The News หาไม่ยากเลย
บริการภายในมีหนังสือพิมพ์และนิตยสารให้บริการ อย่างอื่นคืออินเทอร์เน็ต Wi-Fi ต้องขอรหัสผ่านจากรีเซปชั่นด้านหน้า
คนที่ไม่ได้เอาคอมพิวเตอร์ติดตัวมา ก็มีคอมพิวเตอร์กลางให้ยืมให้ได้เช่นกัน
บรรยากาศการตกแต่งภายใน มีขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วางเป็นเครื่องประดับอยู่ด้วย (อันนี้ไม่แน่ใจว่ามีบริการหรือไม่)
โซฟาที่นั่งภายในเลาจ์ รองรับผู้ใช้บริการได้เป็นจำนวนมาก
ระหว่างที่ทีมงาน 2Baht ถ่ายรูปเก็บข้อมูล ก็ได้รับแจ้งจากพนักงานว่าภายในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป เลยไม่มีรูปอาหารมาฝาก แต่โดยรวมแล้วต้องบอกว่าคุณภาพของอาหารและของว่างน่าผิดหวังมาก
ในวันที่ไปใช้บริการ อาหารที่มีคือแซนด์วิซ ซุป และเบเกอรี่จำนวนหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างเย็นชืดและไร้รสชาติ (แม้แต่ซุปก็ไม่ค่อยร้อน) ผักสลัดและผลไม้มีบริการค่อนข้างน้อย อาหารจานร้อนที่มีให้คือมาม่า เครื่องดื่มมีน้ำเปล่า ตูกดกาแฟจากเนสเล่ เครื่องดื่มกระป๋องอีกเล็กน้อย และมีไอศครีมเนสเล่ถ้วยเล็กๆ ให้หยิบจากในตู้แช่
จุดที่เลาจ์ทำได้ไม่ดีนักคือที่วางจานที่อยู่ใต้เคาเตอร์เกือบติดพื้น ทำให้คนที่เพิ่งเคยมาครั้งแรกอาจหาจานหรือถ้วยกันไม่เจอ ส่วนพนักงานที่ให้บริการก็ยังไม่น่าประทับใจเท่าไร และเราก็เห็นพนักงานดุผู้โดยสารฝรั่งที่หาถ้วยกาแฟไม่เจอด้วย ซึ่งไม่ควรเป็นสิ่งที่พบเจอจากเลาจ์ที่เน้นด้านบริการแบบนี้ (จริงๆ เราก็เจอตั้งแต่ตอนลงทะเบียนให้ลูกค้าคนก่อนหน้าที่มีคำถามเรื่องบัตร Priority Pass ที่ถืออยู่ว่าเข้าได้กี่ท่าน ซึ่งก็ตอบด้วยหางเสียงออกไปทางดุๆ กระชากๆ อย่างไรไม่รู้)
สำหรับห้องน้ำและห้องอาบน้ำนั้นจะมีบริการเพียงบางแห่งเท่านั้น Louis’ Tavern Lounge บริเวณ Concourse G ชั้น 3 ตรงที่ใกล้กับสี่แยกนี้จะไม่มีให้บริการ อยากเข้าห้องน้ำต้องวิ่งไปเข้าฝั่งตรงข้ามแล้วกลับมานั่งต่อในเลาจ์ได้ หากใครต้องการใช้บริการห้องอาบน้ำแนะนำให้ไปอีกแห่งในบริเวณ Concourse G เหมือนกัน แต่จะเดินไกลจากสี่แยกมากกว่า มีบริการทั้งชั้น 3 และ 4 ครับ
ถ้าให้เปรียบเทียบกับ Platinum Card & Crown Member Lounge ของ King Power แล้ว ต้องถือว่า CIP Lounge ด้อยกว่ามากในแง่อาหารและบริการ ถึงแม้ว่าเลาจ์ King Power จะมีขนาดเล็กกว่า และมีอาหารไม่เยอะนัก แต่คุณภาพก็ดีกว่า CIP Lounge ทั้งในแง่ความอร่อยและวัตถุดิบ มีอาหารร้อนให้เปลี่ยนไปตามวัน (เช่น โจ๊ก หรือเกี๊ยวน้ำ) มีผักสลัดให้ บางครั้งมีไส้กรอก และอาหารเติมตลอด พนักงานก็ตั้งใจบริการมากกว่า แถมยังมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้บริการด้วยเช่นกัน
โดยสรุปคือถ้ามีบัตร Priority Pass และมีสิทธิเข้าใช้บริการฟรีอยู่แล้ว ก็รักษาสิทธิ เอาไปนั่งเล่นๆ กินอะไรนิดหน่อยดีกว่าเสียสิทธิไปเปล่าๆ แต่ถ้าคิดว่าจะต้องจ่ายเงินเพื่อใช้บริการ อันนี้ไม่แนะนำเท่าไหร่