แนะนำข้อมูลที่พักและร้านอาหารในอุทยานแกรนด์แคนยอน

จากบทความตอนที่แล้ว รู้จักสภาพภูมิศาสตร์ แผนที่ และการเดินทางของแกรนด์แคนยอน ตอนที่สองนี้ เรามาโฟกัสเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ในแกรนด์แคนยอนกันก่อน เพราะข้อจำกัดด้านการเดินทางที่ระยะค่อนข้างไกล ทำให้นักท่องเที่ยวต้องค้างที่นี่อย่างน้อยหนึ่งคืน

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังแกรนด์แคนยอนฝั่ง South Rim คำแนะนำที่ดีที่สุดคือนอนในอุทยานนั่นเอง ถ้าชีวิตไม่โลดโผนจนเกินไปถึงขนาดนอนเต๊นต์หรือรถบ้าน ก็ควรนอนที่พักของทางอุทยาน ซึ่งอยู่บริเวณที่เรียกว่า Grand Canyon Village ซึ่งอยู่บริเวณเส้นทางสีฟ้าตามภาพข้างล่าง

แผนที่ Grand Canyon ชั้นใน (คลิกเพื่อดูแผนที่ขนาดเต็ม)
แผนที่ Grand Canyon ชั้นใน (คลิกเพื่อดูแผนที่ขนาดเต็ม)

ถ้าซูมเข้ามาอีก จะพบว่าโซนสีฟ้าในภาพ มีจุดสำคัญสองโซน คือ Grand Canyon Village ที่อยู่ฝั่งซ้าย และ Market Plaza ที่อยู่ฝั่งขวา ตามภาพ (แผนที่ขนาดเต็ม ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ Grand Canyon)

แผนที่ Grand Canyon Village และ Market Plaza (คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม)
แผนที่ Grand Canyon Village และ Market Plaza (คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม)

บทความตอนนี้จะวนเวียนอยู่เฉพาะสองส่วนนี้ เพราะเป็นโซนที่นักท่องเที่ยวต้องใช้ชีวิตอยู่ในช่วงที่ไม่ได้ไปดูหน้าผาของแกรนด์แคนยอนนั่นเอง

นอนที่ไหนดี? ที่พักในแกรนด์แคนยอน

ที่พักในอุทยานแกรนด์แคนยอนฝั่ง South Rim เป็นที่พักที่ทางอุทยานให้สิทธิภาคเอกชนเข้ามาบริหาร การบริการจึงสะดวกสบายระดับน้องๆ โรงแรม ส่วนจะถูกจะแพงก็ขึ้นกับอาคารที่เราเลือกพัก บางตึกอาจเก่าไปสักหน่อยเพราะสร้างมาเกือบร้อยปี แต่พวกความสะอาดนี่ไม่มีปัญหาแน่นอน

บรรยากาศภายในล็อบบี้ของ Bright Angel Lodge
บรรยากาศภายในล็อบบี้ของ Bright Angel Lodge

ตัวที่พักหลักในหมู่บ้าน Grand Canyon Village ที่คนส่วนใหญ่ไปเที่ยวกัน มีทั้งหมด 3 โซน ได้แก่

  • โซนติดหน้าผา โซนนี้วิวดีที่สุด เบื่อๆ ก็ออกมาเดินเล่นดูวิวได้ (โดยเฉพาะตอนกลางคืน) ตึกในโซนนี้มีด้วยกัน 4 ตึก อยู่ติดๆ กันหมด คือ Bright Angel Lodge อันนี้ดังที่สุด, El Tovar Hotel แพงที่สุด, Kachina Lodge และ Thunderbird Lodge ทั้งหมดบริหารงานโดยบริษัท Xanterra จองห้องพักและอ่านรายละเอียดได้จากเว็บ GrandCanyonLodges.com
  • โซนสถานีรถไฟ มีอาคารพักหนึ่งแห่งคือ Maswik Lodge อยู่ในเครือ Xanterra เช่นกัน จองที่พักได้จากเว็บไซต์ข้างต้น โซนนี้จะวิวไม่ดีเท่ากับโซนแรก
  • โซน Market Plaza โซนนี้จะค่อนข้างคึกคักหน่อย เพราะมีซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายของที่ระลึก ธนาคาร ที่พักในโซนนี้ชื่อ Yavapai Lodge บริหารงานโดยอีกบริษัทคือ Delaware North รายละเอียดดูได้จากเว็บไซต์ Yavapai Lodge

ถ้าเลือกได้ นอนโซนติดหน้าผาจะวิวดีที่สุด แต่คนก็แย่งกันจองเยอะที่สุดเช่นกัน ในทริปของเรา ทีม 2Baht ไม่สามารถจองโซนติดหน้าผาได้ทัน จึงต้องไปนอนที่โซน Yavapai Lodge แทน (ซึ่งห้องก็สภาพดีเยี่ยม แค่วิวไม่ดีเท่านั้นเอง)

วิว Grand Canyon สุดอลังการ สำหรับคนที่จองที่พักริมหน้าผาได้
วิว Grand Canyon สุดอลังการ สำหรับคนที่จองที่พักริมหน้าผาได้

รีวิว Yavapai Lodge

เนื่องจากเราได้นอนที่ Yavapai Lodge ก็ขอเขียนถึงให้ละเอียดสักหน่อย เผื่อเป็นข้อมูลกับคนที่จะตามมาเที่ยวและได้นอนที่นี่

อย่างแรกคือเราต้องจองห้องผ่านเน็ตและจ่ายเงินมาให้เรียบร้อย แล้วพิมพ์ใบจองจากอีเมลมาด้วย เมื่อมาถึง Grand Canyon Village ให้ขับรถมาจอดที่ลานจอดของ Market Plaza แล้วเช็คอินบริเวณอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุด ในแผนที่คือจุด A

แผนที่ Yavapai Lodge Grand Canyon (คลิกเพื่อดูขนาดเต็ม)
แผนที่ Yavapai Lodge Grand Canyon (คลิกเพื่อดูขนาดเต็ม)

หน้าตาของอาคารเช็คอิน และภัตตาคาร-ร้านอาหาร

Yavapai Lodge Checkin

เวลาเช็คอินคือหลัง 15.00 น. ส่วนเวลาเช็คเอาต์คือก่อน 11.00 น. การเช็คอินก็ไม่มีอะไรมาก ต่อคิวแล้วยื่นใบจอง ก็จะได้คีย์การ์ดเข้าห้องมา พร้อมกับแผนที่แสดงอาคารพักของเรา

ส่วนตอนเช็คเอาท์ พนักงานบอกว่าไม่ต้องทำอะไรมาก เอากุญแจวางไว้ในห้องได้เลย

Yavapai Lodge Checkin

ตัวอาคารพักของ Yavapai Lodge จะอยู่คนละฝั่งถนนกับ Market Plaza (ป้ายรถชัทเทิลบัสก็จะอยู่ตรงถนนนี้) ถ้าเอารถมาก็ขับไปจอดหน้าอาคารพักได้เลย (จอดได้ฟรีไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษ เลี้ยวรถเข้ามาจอดได้เลย)

ลานจอดรถ Yavapai East

อาคารที่พักจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งคือ East กับ West

ฝั่ง East มีทั้งหมด 6 ตึก เป็นตึก 2 ชั้น ทุกห้องมีแอร์ให้ครบครัน ส่วนฝั่ง West เป็นอาคารชั้นเดียวจำนวน 10 ตึก อาคารจะเก่ากว่าหน่อย แต่ไม่มีแอร์

เราพักที่ฝั่ง East ซึ่งจะมีป้ายบอกว่าเป็นตึกเบอร์อะไร ถ้ามาตอนค่ำๆ จะหาป้ายยากหน่อยเพราะขนาดเล็กและไม่มีแสงไฟช่วย (แถวหน้าตึกจะมืดและไม่ค่อยมีไฟถนน เตรียมแอพไฟฉายมากันให้ดีๆ)

Yavapai East

ห้องพักของเราอยู่ชั้นล่าง ในส่วนกลางของอาคารแทบไม่มีอะไรเลย คือมีทางเดิน มีห้อง จบ

Yavapai East

แต่ภายในห้องนั้นกว้างขวางและสบายมากทีเดียว ใหญ่พอในระดับที่เอาโซฟาไปตั้งข้างหน้าต่างได้

Yavapai East

Yavapai East

สิ่งอำนวยความสะดวกในห้อง มีทีวี โทรศัพท์ภายใน เครื่องชงกาแฟ ตู้เย็นให้ เน็ตมี Wi-Fi แต่สัญญาณอาจไม่ค่อยดีเท่าไรนัก

Yavapai East

ที่นี่ไม่มีตู้เสื้อผ้าให้ แต่หน้าห้องน้ำจะทำเป็นซอกเล็กๆ มีชั้นวางของ แขวนเสื้อ ตู้เซฟ เตารีด

Yavapai East

อ่างล่างหน้าจะอยู่ด้านนอกห้องน้ำ สะดวกดีเป็นสัดเป็นส่วนชัดเจน มีที่เป่าผมให้ด้วย

Yavapai East

ห้องน้ำ มีผ้าเช็ดตัว และสบู่แชมพูให้ครบ มีฮีตเตอร์ในห้องน้ำด้วย

Yavapai East

อ่างอาบน้ำจะเป็นแบบเตี้ยๆ มีน้ำร้อนให้ครบครัน ก๊อกน้ำจะเปิดยากนิดนึง

Yavapai East

จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของ Yavapai Lodge คือวิวไม่เห็นแคนยอน จะเห็นแต่ป่าแบบนี้ ตอนกลางคืนถ้าหลอนๆ ก็จงปิดม่านซะ ไม่มีอะไรอันตรายจ้า

Yavapai East

ที่พักอื่นๆ ในแกรนด์แคนยอน

นอกจากอาคารพักทั้งสามโซนที่กล่าวไปแล้ว ยังมีตัวเลือกอื่นในการนอนค้างคืนที่แกรนด์แคนยอน ดังนี้

แคมป์-รถบ้าน

คนที่ชอบกางเต๊นต์นอน สามารถกางเต๊นต์ได้ที่ Mather Campground ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับ Market Plaza มีสาธารณูปโภคพวกห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้ มีรถชัทเทิลบัสวิ่งผ่าน

ส่วนคนที่เช่ารถบ้านมา ก็จอดได้ที่ Trailer Village ที่อยู่ใกล้ๆ กัน มีรถชัทเทิลวิ่งผ่านเช่นกัน

ในหุบเหว

สำหรับคนที่ชอบความตื่นเต้น ที่พื้นเหวแกรนด์แคนยอน มีหอพักแห่งเดียวชื่อว่า Phantom Ranch (แค่ชื่อก็เท่แล้ว) ต้องจองล่วงหน้า และต้องเดินหรือขี่ลาลงไปเท่านั้น อันนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบการผจญภัยเท่านั้น

พักนอกอุทยาน

ถ้าที่พักภายในอุทยานเต็ม ทางเลือกที่เหมาะสมคือออกไปนอนด้านนอกอุทยาน เช่น ที่เมือง Tusayan ที่อยู่นอกประตูอุทยานไปไม่ไกล มีโรงแรมให้เลือกหลายแห่ง รวมถึงแบรนด์ดังๆ อย่าง Holiday Inn และ Best Western ด้วย

North Rim

บทความนี้ครอบคลุมเฉพาะการเที่ยว Grand Canyon ฝั่ง South Rim เท่านั้น สำหรับคนที่ไปฝั่ง North Rim ก็มีที่พักของทางอุทยานให้เลือกเช่นกัน รายละเอียดดูได้จากเว็บ Grand Canyon Lodge North

กินอะไรดี? ร้านอาหารในแกรนด์แคนยอน

ที่พักเกือบทุกโซนหลักมีห้องอาหารบริการ โดยโซนติดหน้าผา มีร้านอาหาร 2 ร้านอยู่ในตัวอาคารเลย ส่วนโซนที่ไกลออกไปอย่าง Maswik Lodge ก็มีห้องอาหารของตัวเองเช่นกัน

สำหรับโซน Yavapai Lodge ที่เราเข้าพัก ตัวอาคารที่พักไม่มีอาหารบริการ แต่ไม่ไกลนักคือโซน Market Plaza (ตรงที่เราเช็คอินเข้าพัก) มีห้องอาหารบริการ (จุด B ในแผนที่ข้างบน) และใกล้ๆ กันมีซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่พอสมควร (จุด D ในแผนที่) มีอาหารสำเร็จรูป ซื้อไปกินที่ห้องหรือจะให้ทางซูเปอร์อุ่นให้ก็ได้ (เพราะที่ห้องพักไม่มีไมโครเวฟ)

ในอาคาร B ของ Yavapai Lodge (อาคารเดียวกับที่เช็คอิน) มีร้านอาหารให้บริการ 3 ร้าน อยู่ติดกันทั้งหมด ได้แก่

  • Yavapai Lodge Restaurant ร้านอาหารหลัก เปิดตั้งแต่เช้า เที่ยง เย็น (เวลาเปิดปิดแล้วแต่ฤดูกาล ดูรายละเอียดในเว็บ)
  • Yavapai Tavern เป็นบาร์สำหรับคนอยากรีแลกซ์ กินเหล้า แฮงค์เอาท์ ดูทีวีเชียร์กีฬา
  • Yavapai Coffee Shop ร้านกาแฟพร้อมขายอาหารง่ายๆ พวกแซนด์วิช

เรามีโอกาสทานอาหารเย็นที่ Yavapai Lodge Restaurant เลยมาเล่าประสบการณ์กันสักนิด อาหารเย็นจะใช้ระบบสั่งผ่านหน้าจอทัชสกรีน จ่ายเงิน แล้วรอเรียกคิวจากในครัว (อาหารบางอย่าง เช่น ซุปและสลัด ตักเองได้) จากนั้นยกไปกินบริเวณเก้าอี้นั่ง

เมนูอาหารเย็นดูได้ตามภาพ (คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม) อาหารมีหลากหลาย ได้แก่ พิซซ่า สลัด ซุป ไก่อบ บาร์บีคิว สเต๊ก เบอร์เกอร์ ของหวาน รวมถึงเมนูสำหรับเด็กๆ ราคาก็ดูกันเองตาภมาพ (ข้อมูลปี 2015)

เมนูอาหาร Yavapai Lodge Restaurant

เครื่องดื่มมีเยอะ ทั้งเบียร์ ไวน์ ซอฟต์ดริงค์ โค้ก ชา กาแฟ น้ำผลไม้

เมนูอาหาร Yavapai Lodge Restaurant

วิธีการสั่งอาหารต้องใช้หน้าจอ ไม่มีอะไรยาก เลือกประเภทอาหารก่อน แล้วหน้าจอจะให้เรากด Next ไปเรื่อยๆ เอง

Yavapai Lodge Restaurant

การจ่ายเงินเลือกได้ทั้งการจ่ายการ์ดที่ตัวเครื่องเลย หรือจะจ่ายสดที่แคชเชียร์ที่อยู่ใกล้ๆ กันก็ได้ อย่างกรณีของเราเลือกจ่ายสด ก็เอาใบเสร็จไปจ่ายที่แคชเชียร์

Yavapai Lodge Restaurant

ใบเสร็จมีเลขออเดอร์ของเราอยู่ หยิบไปแล้วก็ยืนรอ ดูคิวเรียกบนหน้าจอ

Yavapai Lodge Restaurant

Yavapai Lodge Restaurant

หน้าตาอาหารที่นี่ดูดีทีเดียว ระหว่างรอ เราเห็นคนสั่งพิซซ่ากันเยอะพอสมควร เห็นแล้วอยากกินบ้างเลยแหละ

แต่เนื่องจากวันนั้นกินเที่ยงมากันเต็มที่แล้ว (ที่ Williams) มื้อเย็นเลยกินอาหารเบาๆ เป็นสลัดกุ้งทอดแทน ตัวสลัดกับกุ้งในครัวจะทำมาให้ แต่เราสามารถใส่เดรสซิ่ง และผักบางอย่าง (เช่น เห็ด) รวมถึงชีส ได้เองที่สลัดบาร์ รวมแล้วถือว่าเยอะและอร่อยเลย แค่สลัดยังกินแทบไม่หมด

Yavapai Lodge Restaurant Salad

อาหารอีกอย่างที่สั่งคือซุป ซึ่งซุปของอเมริกาฝั่งเซาธ์เวสต์จะไม่เหมือนครีมซุปที่คนไทยคุ้นเคย แต่จะเป็นซุปใส่เนื้อสัตว์และถั่ว หน้าตาถ้วยนี้จะคล้ายๆ แกงเขียวหวาน (แต่รสชาติไม่เหมือนนะครับ) อันนี้ไม่ค่อยอร่อยเท่าไร ไม่แนะนำ

Yavapai Lodge Restaurant Soup

ลองของหวานกันสักนิด เป็นพายแอปเปิลกับครีม ถือว่ากลางๆ ค่อนไปทางไม่อร่อยนัก

Yavapai Lodge Restaurant

สำหรับคนที่มาพัก Yavapai Lodge แล้วต้องการทานอาหารเช้าด้วย ก็สามารถซื้อแพ็กเกจอาหารเช้าเพิ่มได้ (ไม่รวมมาในค่าห้องปกติ) ซึ่งก็มาทานอาหารเช้าที่ร้านเดียวกันนี้ หรือถ้าไม่อยากเปลืองเงิน จะซื้อของกินจากซูเปอร์ไปตุนไว้ในตู้เย็นของห้องพักก็ได้เช่นกัน

ซื้อของกันเถอะ ในแกรนด์แคนยอนก็มีซูเปอร์มาร์เก็ต

กินมื้อเย็นเสร็จแล้วก็ได้เวลาย่อยอาหารกัน ในพื้นที่ Market Plaza เดินข้ามลานจอดรถไป จะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่มาก จนไม่น่าเชื่อว่าแกรนด์แคนยอนมีอะไรแบบนี้อยู่ (นักท่องเที่ยวมาปีนึงหลายล้าน ต้องมีอะไรรองรับ)

ของที่ขายก็เหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป เน้นไปทางของกินและอุปกรณ์ตั้งแคมป์ รวมถึงของที่ระลึกอีกสารพัดชนิดด้วย

Grand Canyon Supermarket

Grand Canyon Supermarket

ของกินพวกอาหารสด นม โยเกิร์ต มีให้เลือกจุใจ ไม่ต้องห่วงว่าจะอดตาย ซื้อไปกินเป็นอาหารเช้าก็ได้

Grand Canyon Supermarket

อาหารที่น่าสนใจในแถบนี้คือ Beef Jerky หรือเนื้อเค็ม แต่จะอัดเป็นแท่งๆ ให้กินง่าย เนื้อจะเหนียวกว่าบ้านเรา เหมาะกับการกินเป็นสแนคมากกว่าอาหารหลัก

Grand Canyon Supermarket

พวกขนมถุง มันฝรั่งทอดนี่มีเยอะมาก ไม่ต้องกลัวไม่มีกิน

Grand Canyon Supermarket

บทความตอนที่สอง คงช่วยให้ท่านที่สนใจไปเที่ยวแกรนด์แคนยอน มีข้อมูลเรื่องที่พัก ที่กิน และที่ซื้อของภายใน Grand Canyon National Park กันแล้ว ตอนหน้าเมื่อมีที่นอนเรียบร้อย เราจะพาไปเที่ยวหน้าผาแต่ละจุดของแกรนด์แคนยอนกัน