ถูกโฮสต์ Airbnb ยกเลิก ต้องทำอย่างไรถึงจะได้เงินคืน?

ประสบการณ์ถูกโฮสต์ Airbnb ยกเลิก ต้องทำอย่างไรถึงจะได้เงินคืน?

ถูกโฮสต์ Airbnb ยกเลิก ต้องทำอย่างไรถึงจะได้เงินคืน?
ภาพประกอบจาก Pixabay / SoCali

คุณ Knott Wittawat คนไทยในสหรัฐอเมริกา เขียนเล่าประสบการณ์ถูกโฮสต์ (เจ้าบ้าน) ของ Airbnb ลอยแพในวันที่เดินทางไปพัก และให้ข้อมูลว่าถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ ควรทำอย่างไรจึงจะมีที่นอนพักในคืนนั้น และยังได้รับเงินชดเชยจาก Airbnb ด้วย

ถ้าให้สรุปคือ เมื่อติดต่อโฮสต์ไม่ได้ในวันที่ไปพักตามที่นัดหมายไว้ เราควรโทรศัพท์เข้าคอลล์เซ็นเตอร์ Airbnb Support ทันที (ต้องรอสายนานพอสมควร) ซึ่งมีกระบวนการว่าต้องให้เจ้าหน้าที่ของ Airbnb ลองติดต่อโฮสต์เป็นเวลา 1 ชั่วโมงก่อน จึงจะมีสิทธิรับเงินชดเชยค่าที่พักจาก Airbnb ด้วย

2Baht.com เห็นว่ามีประโยชน์จึงนำมาเผยแพร่ต่อ โดยได้รับการอนุญาตจากคุณ Knott แล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์: หมายเลขโทรศัพท์ของ Airbnb ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ และไม่แสดงบนหน้าเว็บของ Airbnb (คาดว่าคงกลัวคนโทรเข้าไปเยอะ) แต่ก็มีบางเว็บไซต์รวมข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ของ Airbnb ในประเทศต่างๆ เอาไว้ให้ เช่น All About Airbnb หรือ Tripping ซึ่งอาจไม่ใช่เลขหมายที่อัพเดตล่าสุด การโทรศัพท์เข้าไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ระบุในอีเมลตอนจองอาจจะดีกว่า

ภาพจาก Airbnb
ภาพจาก Airbnb

รีวิวประสบการณ์ถูกโฮส AirBnB ลอยแพ

สรุปประสบการณ์: ถ้าติดต่อโฮสไม่ได้ (ขอใช้คำว่าโฮสแทนคำว่าเจ้าของบ้าน) ให้รีบโทรหา AirBnB support ทันทีเพราะต้องเผื่อเวลารอสาย และการยืนยันจากทาง AirBnB ก่อนที่เราจะได้รับเงินค่าจองที่พักคืน และได้ค่าชดเชยสำหรับโรงแรมคืนแรก $150

บทความนี้แบ่งเป็นสองตอน (1) ถูกโฮสคนแรกยกเลิก แต่เราดันกดยกเลิกเอง (2) ติดต่อโฮสคนที่สองไม่ได้ เพราะโฮสติดคุก

1. ถูกยกเลิกที่พัก แต่เราดันกดยกเลิกเอง

เริ่มจากเราวางแผนจะไปเที่ยวชิคาโกเพื่อไปงานแต่งเพื่อน เลยอยากหาที่พักราคาไม่แพง (เพราะค่าตั๋วเครื่องบินเมืองนี้แพง เดือนสิงหาคมซึ่งเป็นเดือนอันร้อนระอุของเมืองที่มีฤดูร้อนอันสั้น + มีงานดนตรี Lollapalooza โรงแรมแพง) เลยรีบจองที่พักล่วงหน้าหลายเดือน

ปรากฏว่าโฮสมาขอยกเลิกเพราะต้องพาแม่ที่ป่วยมาดูแลที่บ้าน โฮสบอกว่าให้เรากดยกเลิกได้เลย เราก็เลยถามกลับว่าบ้านโฮสเป็น Strict policy ไม่ใช่เหรอ ถ้ายกเลิกเราจะได้เงินคืนไม่ครบ เค้าบอกว่าถ้าเรายกเลิก เค้าจะเป็นคน approve เงินเต็มจำนวนให้เอง ก็เลยเอาตามที่นางสะดวก กดยกเลิกไปครับ

ปรากฏว่าได้เงินไม่ครบ! โฮสก็งงว่าทำไมจ่ายให้ครบไม่ได้วะ โชคดีที่โฮสไม่ได้ตั้งใจจะขี้โกง เค้าเลยโทรติดต่อ AirBnB support ให้ สุดท้ายก็ได้เงินคืนครบทั้งเงินสดและ discount credit ที่มีอยู่

บทเรียนที่ได้รับ: ถ้าโฮสขอยกเลิก โฮสต้องเป็นคนยกเลิกเอง ข้อเสียของวิธีนี้สำหรับโฮสคือ AirBnB จะโพสรีวิวในชื่อของเราว่า “โฮสคนนี้ได้ยกเลิกที่พักเป็นเวลา X วันก่อนถึงวันเข้าพัก — This is an automated post” การที่เรากดยกเลิกเองถือว่าโฮสได้ประโยชน์ที่จะไม่โดนรีวิวนี้

2. ติดต่อโฮสไม่ได้ เพราะโฮสติดคุก

ตอนที่โฮสคนแรกขอยกเลิก เค้าก็ช่วยเราติดต่อโฮสคนอื่นให้ สุดท้ายก็จองที่พักที่ใหม่เรียบร้อย ที่พักนี้มีจำนวนรีวิวน้อยไปหน่อยแต่ดีงาม

พอถึงเช้าวันเดินทาง เราก็ส่งข้อความไปบอกว่าจะไปถึงกี่โมง และอาจจะขอเช็คอินดึกหน่อย เค้าก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วว่าพอถึงแล้วให้โทรหา

แต่พอเราไปถึงสนามบินตอนบ่ายสามโทรไปก็ไม่รับสาย เลยฝากข้อความทิ้งไว้ แล้วไปงานแต่ง กะว่าตอนอยู่ในงานก็จะพยายามติดต่อโฮสเรื่อยๆ

กลางคืนพองานจบ ก็พยายามติดต่อโฮสอีกทีเพราะกำลังจะนั่งรถไปที่บ้านเค้าแล้ว (ห้าทุ่ม) ก็ติดต่อไม่ได้

พอไปถึงบ้านปรากฏว่าเจอชายหนุ่มคู่หนึ่งนั่งหน้าบ้านพร้อมกระเป๋าเดินทาง พร้อมรถตำรวจจอดหน้าบ้านและตำรวจอีกสองคน!

ชายหนุ่มคู่นั้นบอกว่าเค้ามารอที่หน้าบ้านโฮสตั้งแต่ห้าโมงเย็นแล้ว! และติดต่อไม่ได้ สุดท้ายก็เลยโทรหาตำรวจ และแนะนำให้เราโทรหา AirBnB support เพราะต้องรอสาย 30 นาที! โดยต้องรอทาง AirBnB ยืนยันอีกว่าเค้าติดต่อโฮสไม่ได้จริงๆ อีก 1 ชั่วโมง! ซึ่งชายหนุ่มคู่นั้นก็ทำตามนั้นเรียบร้อย และกำลังจะนั่งรถไปโรงแรมใกล้ๆ

สุดท้ายหลังจากตำรวจเดินส่องไฟฉายรอบๆ บ้าน และสอบถามเพื่อนบ้าน ตำรวจก็มาบอกว่า “Your host is not coming back today, because he is in jail.” มา!!! ทรรศนะ! มิน่าล่ะ แต่เค้าไม่ได้บอกว่าสาเหตุอะไร (หวังว่าสาเหตุจะไม่ใช่เพราะไปฆ่าแขก AirBnB)

เราก็เลยเพิ่งได้ติดต่อ AirBnB support + รอสาย + คุย ต่อรอง = นั่งหน้าบ้านโฮสในความมืดเป็นเวลาชั่วโมงนึง (ยังดีที่ตำรวจบอกว่าแถวนี้ปลอดภัย แล้วก็ The police have left the game. เลยครับ)

พอคุยเสร็จถึงได้นั่งรถไปโรงแรม (ที่ก็เพิ่งกดจองไป และสุดท้ายได้โรงแรมเดียวกันกับชายหนุ่มคู่นั้น) แต่กว่าจะได้รถไปโรงแรมก็ยากลำบาก เพราะโดน Uber กับ Lyft cancel ไปอย่างละ 2 รอบ สงสัยเพราะเป็นช่วง Prime time นี่มันประสบการณ์โดนทิ้งพร้อมกันทั้ง 3 โลกเลยนะครับเนี่ย

สรุปประสบการณ์การคุยกับ AirBnB support:

  1. รอสายนาน 30 นาที
  2. ต้องให้ทาง AirBnB พยายามติดต่อกับโฮส ถ้าโฮสไม่ติดต่อกลับภายใน 1 ชั่วโมง AirBnB จะถึอว่าติดต่อโฮสไม่ได้ ถึงจะคืนเงินให้เรา
  3. AirBnB จะชดเชยค่าที่พักคืนแรกให้ไม่เกิน $150 (แปลว่าคืนต่อไปจ่ายเองนะจ๊ะ)
  4. เรามีทางเลือกว่าจะรับเงินคืนเป็นเงินสด (ระบบการรับเงินเหมือนกับเราเป็นโฮสแล้วได้เงินค่าที่พักจาก AirBnB) หรือรับเป็นเครดิตที่เอาไว้ใช้ใน AirBnB (จะเอาทำไมล่ะ ก็ต้องเอาเป็นเงินสดสิวะ!)
  5. เราต้องส่งใบเสร็จค่าโรงแรมไปเพื่อได้เงิน

สรุปก็จองโรงแรมไปทุกคืนเลย (ไม่อยากลุ้นกับ AirBnB ละ) ต่อคืนเฉลี่ยก็ $100 แต่อยากรู้เหมือนกันว่าเค้าจะคืนเงินมาแค่นั้นรึเปล่า ปรากฏว่ายังไม่ทันจะส่งใบเสร็จให้ ทาง AirBnB ก็จ่ายเงินมาให้เราเลย $150 ภายใน 3 วัน! เย้!

พอเงินเข้าก็เลยรีบโอนเข้าธนาคารทันที กลัวมันยึดเงินคืน 555 แล้วเราถึงค่อยส่งใบเสร็จให้ (แต่จนถึงตอนนี้เค้าก็ไม่ได้ยึดเงินคืนนะ) ไม่รู้ว่าโวยวายกับพนักงานมากไปรึเปล่าเค้าเลยเห็นใจ

จนถึงตอนนี้โฮสคนนั้นก็ยังไม่ติดต่อกลับมาเลยครับ ไม่รู้ว่าเพราะยังไม่ออกจากคุกรึเปล่า แต่ตอนนั่งหน้าบ้านโฮสก็เห็นแขกอีกกลุ่มเดินเข้าบ้านนะ แต่ไม่ได้ทัก แขกกลุ่มนั้นอาจจะงงว่าทำไมโฮสไม่กลับบ้านก็ได้..

บทเรียนที่ได้รับ: ถ้าติดต่อโฮสไม่ได้ อย่าชิว ให้รีบติดต่อ AirBnB support เพราะถ้ายังมีเวลา เค้าจะได้ช่วยหาโฮสคนใหม่ให้เรา และเราจะได้รีบหาโรงแรม แล้วก็ไม่ต้องมานั่งมืดๆ หน้าบ้านโฮสแบบนี้


Posted

in

,

by

Tags: