สายการบิน Cathay Pacific ของฮ่องกง กำลังเจอปัญหารุมเร้าจากผลประกอบการที่ตกหนัก โดยรายได้ครึ่งแรกของปี 2016 ลดลงจากเดิมประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (2.2 หมื่นล้านบาท) หรือหายไป 9.3% ส่วนกำไรก็ลดฮวบลงไปถึง 82%
ในครึ่งแรกของปี 2016 ทางสายการบิน Cathay มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 2.7% จากปีก่อน และเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ (Available Seat Kilometers หรือ ASK) ขึ้นอีก 4.2% แต่รายได้จากผู้โดยสาร (passenger revenue) กลับลดลง 7.8% และอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (load factor) กลับลดลงเล็กน้อย 1.4 จุด เหลือ 84.5%
ปัญหาของ Cathay Pacific เกิดจากหลายสาเหตุรวมกัน ได้แก่
- เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง นักเดินทางแบบธุรกิจลดลง ส่งผลกระทบให้ลูกค้าชั้นพรีเมียม (พรีเมียมอีโคโนมี, ธุรกิจ, เฟิร์ส) ที่สร้างกำไรได้มากน้อยลง โดยเฉพาะในเส้นทางบินยาว (long haul)
- การแข่งขันที่รุนแรง ทั้งจากสายการบินจากจีนแผ่นดินใหญ่ในตลาดจีน และสายการบินจากตะวันออกกลางในเส้นทางบินนานาชาติ
- ในอดีต Cathay เป็นสายการบิน “ฮับ” เชื่อมต่อระหว่างคนจีนเดินทางไปต่างประเทศ ต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง แต่เมื่อสายการบิน Big Three ของจีนเริ่มเปิดเส้นทางบินจากจีนไปยังประเทศต่างๆ มากขึ้น ตลาดของ Cathay ก็เริ่มถูกกิน
- ราคาน้ำมันที่ถูกลง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายลดลง แต่ในทางกลับกัน บริษัทก็ยกเลิกค่าธรรมเนียมน้ำมัน (fuel surcharge) รายได้ก็ลดลงตามไปด้วย
- ค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงที่แข็งขึ้น ส่งผลให้รายรับเป็นดอลลาร์ฮ่องกงน้อยลงเมื่อแปลงจากสกุลเงินอื่น
ถ้าแยกรายละเอียดตามเส้นทางบินในแต่ละภูมิภาค มีเพียงภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) เท่านั้นที่มีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (load factor หรือ LF) เพิ่มขึ้น ในขณะที่ภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชียใต้ กลับได้รับผลกระทบอย่างมากทั้งอัตราบรรทุกและจำนวนที่นั่งให้บริการ
ภาพรวมของ Cathay Pacific ในปี 2016 คงเป็นปีที่ไม่ดีนัก และคงไม่สามารถพลิกฟื้นกลับมาได้มากนักในช่วงครึ่งหลังของปี เพราะปัจจัยที่กระทบส่วนใหญ่เป็นปัจจัยภายนอก จากเรื่องเศรษฐกิจและสภาพการแข่งขัน ทางออกของ Cathay จึงมีไม่มากนัก นอกจากการเพิ่มแคมเปญการตลาดและลดราคาสู้เพื่อเพิ่มจำนวนผู้โดยสาร
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของ Cathay ก็ยังห่างไกลกับคำว่าธุรกิจมีปัญหา เพราะยังทำกำไรได้ต่อเนื่อง (แม้กำไรจะลดลง) แถมยังมีตัวช่วยอย่างสายการบินโลว์คอสต์ Dragon Air
ที่มา – Cathay Pacific และ Skift