แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโคโลญน์ (Cologne) และเมืองใกล้เคียงในเยอรมนี

หลังจาก สายการบิน Eurowings เปิดเส้นทางบินราคาถูกจากประเทศไทย (กรุงเทพ/ภูเก็ต) ไปยังประเทศเยอรมนี โดยมีที่หมายปลายทางคือสนามบินโคโลญน์-บอนน์ (Cologne Bonn Airport) เราเชื่อว่าคนไทยน่าจะนิยมไปเที่ยวยุโรปกันมากขึ้น และแน่นอนว่าจุดศูนย์กลางของการเดินทาง ย่อมเป็นสนามบินเมืองโคโลญจน์-บอนน์ ซึ่งอยู่ระหว่างกลางเมืองโคโลญจน์และเมืองบอนน์นั่นเอง

ในโอกาสนี้ 2Baht.com จึงขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในย่านเมืองโคโลญจน์ เมืองบอนน์ และเมืองใกล้เคียงในเยอรมนีฝั่งตะวันตก เพื่อเป็นจุดตั้งต้นสำหรับคนที่กำลังวางแผนการเดินทางไปเยือนเยอรมนี ทีมงานของเราเคยไปเยือนสถานที่บางแห่งมาแล้ว จึงพอจะแนะนำได้จากประสบการณ์จริง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับนักเดินทางทุกท่าน

I Love Koln

Cologne

โคโลญน์ (Cologne หรือ Köln ตามภาษาเยอรมัน) เป็นเมืองใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศเยอรมนี เป็นรองแค่เบอร์ลิน (เมืองหลวง) ฮัมบูร์ก (เหนือ) มิวนิก (ใต้) และถือเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกของเยอรมนี

โคโลญน์เป็นเมืองเก่าตั้งแต่สมัยโรมัน ผ่านประวัติศาสตร์มายาวนาน รวมถึงเป็นเมืองของเยอรมนีที่ถูกทิ้งระเบิดหนักที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สองด้วย ปัจจุบันโคโลญน์ฟื้นฟูกลับมาเป็นเมืองใหญ่ ที่รุ่มรวยทั้งประวัติศาสตร์ในอดีต และอาคารธุรกิจการค้าทันสมัย อีกทั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำไรน์ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่สุดของเยอรมนีภาคตะวันตก ตอบโจทย์ด้านการคมนาคมและการขนส่งสินค้าทางน้ำอีกด้วย

หลายคนอาจสงสัยว่า เมืองโคโลญน์ เกี่ยวข้องอะไรกับ น้ำหอมโคโลญน์ (ชื่ออย่างเป็นทางการคือ Eau de Cologne โอดีโคโลญน์) กันแน่ คำตอบก็ตรงไปตรงมาคือ Eau de Cologne เป็นน้ำหอมที่ถูกคิดค้นขึ้นที่เมืองโคโลญน์ในปี 1709 และแพร่หลายไปทั่วโลก โดยน้ำหอมที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Cologne 4711 ตั้งตามเลขที่บ้านของผู้ผลิตน้ำหอมกลิ่นนี้ ใครที่แวะมาถึงเมืองโคโลญน์แล้วก็อาจพิจารณาลองซื้อน้ำหอมต้นฉบับกลับไปสักขวดสองขวดได้

หน้าตาของน้ำหอม Cologne 4711 ที่ยังคงเอกลักษณ์ไว้
หน้าตาของน้ำหอม Cologne 4711 ที่ยังคงเอกลักษณ์ไว้

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของโคโลญน์ ขอคัดระดับท็อปมา 5 อย่าง ดังนี้

1) Cologne Cathedral

อันดับแรกพลาดไม่ได้ มหาวิหารเมืองโคโลญจน์ (Cologne Cathedral) เป็นโบสถ์คริสต์สถาปัตยกรรมโกธิค ที่มีประวัติการก่อสร้างยาวนานหลายร้อยปี โบสถ์เริ่มสร้างในปี 1248 ก่อนจะหยุดสร้างปี 1473 หลังจากนั้นก็เว้นช่วงไปอีกนาน กลับมาเริ่มก่อสร้างอีกครั้งในปี 1842 และสร้างเสร็จสมบูรณ์ตามแผนในปี 1880 ใช้เวลาทั้งหมดถึง 632 ปี

โบสถ์โคโลญน์ถือเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปตอนเหนือ มีความสูง 157 เมตร เป็นอันดับสองของเยอรมนี (ความสูงเป็นรองแค่โบสถ์ที่เมือง  Ulm ซึ่งไม่ได้มีศักดิ์ฐานะเป็นวิหาร) โบสถ์แห่งนี้ได้รับการอนุรักษ์เป็นมรดกโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมาเยือนมากที่สุดในเยอรมนี

มหาวิหาร Cologne มีความสูงมาก และตั้งอยู่กลางเมือง จึงถ่ายรูปค่อนข้างยาก
มหาวิหาร Cologne มีความสูงมาก และตั้งอยู่กลางเมือง จึงถ่ายรูปค่อนข้างยาก

2) Old Town ย่านเมืองเก่าโคโลญน์

บริเวณรอบๆ วิหาร Cologne ยังเป็นย่านเมืองเก่าที่มีสถานที่น่าสนใจหลายอย่าง ทั้งโบสถ์เก่าอีกหลายหลัง (เช่น Great St.Martin) อาคารศาลากลางเมืองเก่าแก่ (City Hall) พิพิธภัณฑ์จำนวนมาก ไปจนถึงแหล่งท่องเที่ยวสมัยใหม่ทั้งภัตตาคาร โรงเบียร์ ผับ จำนวนนับไม่ถ้วนให้เลือกลิ้มลอง โคโลญน์ยังมีชื่อเสียงเรื่องเบียร์ Kölsch ของท้องถิ่นด้วย

อาคารศาลางกลาง (City Hall) ที่ใช้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เก่าที่สุดในเยอรมนี (ภาพโดย Politikaner / Wikipedia)
อาคารศาลางกลาง (City Hall) ที่ใช้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เก่าที่สุดในเยอรมนี (ภาพโดย Politikaner / Wikipedia)

3) Koelner Zoo สวนสัตว์โคโลญน์

Cologne มีสวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Koelner Zoo หรือ Cologne Zoological Garden ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1860 และมีสัตว์มากกว่า 7,000 ตัว สัตว์หลายชนิดเป็นสัตว์หายากที่รวบรวมมาจากทั่วโลก รายละเอียดสามารถดูได้จาก Koelner Zoo (ภาษาเยอรมัน)

koelner-zoo

4) Hohenzollern Bridge สะพานข้ามแม่น้ำไรน์

โคโลญน์ตั้งอยู่บนสองฝั่งของแม่น้ำไรน์ และมีสะพานข้ามแม่น้ำหลายจุด แต่สะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดคือสะพาน Hohenzollern Bridge ซึ่งเป็นสะพานข้ามทางรถไฟที่มีรางรถไฟถึง 3 รางอยู่บนสะพาน

จุดเด่นของสะพาน Hohenzollern Bridge คือมีรูปปั้นของกษัตริย์เยอรมันในอดีต 4 พระองค์อยู่ที่เชิงสะพานทั้ง 4 มุม และชาวเยอรมันรวมถึงนักท่องเที่ยวก็นิยมเอาแม่กุญแจไปล็อคไว้ที่ราวสะพาน จุดที่กั้นระหว่างทางเดินคนข้ามและทางรถไฟ ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญอีกประการของสะพานแห่งนี้

วิวสะพาน Hohenzollern Bridge เห็นวิหาร Cologne (ภาพโดย Thomas Wolf / Wikipedia)
วิวสะพาน Hohenzollern Bridge เห็นวิหาร Cologne (ภาพโดย Thomas Wolf / Wikipedia)

5) ล่องเรือแม่น้ำไรน์

ไหนๆ มาถึงโคโลญน์ที่เป็นเมืองติดแม่น้ำไรน์ แม่น้ำสายสำคัญของเยอรมนีแล้ว อีกกิจกรรมที่น่าสนใจหากมีเวลาคือการนั่งเรือล่องไปตามแม่น้ำไรน์ ชมวิวทิวทัศน์บ้านเมืองสองข้างทาง

เส้นทางที่เราแนะนำคือนั่งเรือระยะสั้นๆ ไปยังเมืองบอนน์ที่อยู่ติดกัน ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (ถ้ามีเวลามากกว่านั้นสามารถแวะชมปราสาทหรือสถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำได้ เพราะตั๋วคิดเป็นรายวัน ไม่จำกัดเที่ยว)

ตัวอย่างบริการเรือนำเที่ยวแม่น้ำไรน์คือ KD Rhine รายละเอียดและตารางการเดินเรือสามารถชมได้จากเว็บไซต์ เรือมีให้บริการเฉพาะช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม

Kranhaus อาคารรูปตัว L กลับหัวทรงแปลกตา หนึ่งในสิ่งปลูกสร้างริมแม่น้ำไรน์ (ภาพโดย Rolf Heinrich / Wikipedia)
Kranhaus อาคารรูปตัว L กลับหัวทรงแปลกตา หนึ่งในสิ่งปลูกสร้างริมแม่น้ำไรน์ (ภาพโดย Rolf Heinrich / Wikipedia)

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในโคโลญน์ สามารถดูได้จากวิดีโอด้านล่าง

นอกจากตัวเมืองโคโลญน์แล้ว เรายังขอแนะนำเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียงที่น่าสนใจอีกจำนวนหนึ่ง (เยอรมนีแถบนั้น มีเมืองอยู่ติดๆ กันเยอะมาก และเดินทางสะดวกด้วยรถไฟ) อีก 5 แห่ง

Bonn

บอนน์ (Bonn) เมืองหลวงเก่าของเยอรมนีตะวันตกสมัยก่อนรวมชาติเป็นเยอรมนีเดียว เมืองบอนน์อยู่ใกล้กับโคโลญน์มาก ถ้าเดินทางโดยรถไฟใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น

ถึงแม้ได้ชื่อว่าเป็นอดีตเมืองหลวง แต่บอนน์เป็นเมืองขนาดเล็กที่เน้นเฉพาะศูนย์ราชการ ในแง่ความคึกคักอาจสู้โคโลญน์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม บอนน์เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีบ้านเรือนโบราณให้ดูหลายแห่ง เช่น City Hall เก่าที่สร้างในปี 1737, อาคารมหาวิทยาลัย University of Bonn และสวนพฤกษชาติ Botanischer Garten Bonn เป็นต้น

นอกจากนี้ บอนน์ยังเป็นบ้านเกิดของบีโธเฟ่น (Beethoven) คีตกวีชื่อก้องโลก ใครที่มีโอกาสแวะเวียนไปก็ควรไปถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์บีโธเฟ่นด้วย (อยู่ใกล้กับโบสถ์ Bonn Minster)

รูปปั้นของ Beethoven ที่เมือง Bonn
รูปปั้นของ Beethoven ที่เมือง Bonn

Bad Godesberg

Bad Godesberg เป็นเขตหนึ่งของเมืองบอนน์ โดยอยู่ทางใต้ลงมาจากตัวเมืองบอนน์ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญเพราะมีทิวทัศน์สวยงาม ตัวเมืองเป็นเนินเขาที่มองเห็นแม่น้ำไรน์ มีปราสาท Godesberg ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 พร้อมร้านอาหารวิวสวยให้บริการ ในเมืองยังมีสวนสวย ปฏิมากรรมต่างๆ อีกมากมาย ใครที่ต้องการเดินเที่ยวชมเมืองแบบชิลล์ๆ ไม่ควรพลาดที่นี่ (รายละเอียด Walking Tour ของเมือง Bad Godesburg)

ปราสาท Godesburg ที่เมือง Bonn
ปราสาท Godesburg ที่เมือง Bonn (ภาพจากเว็บไซต์ Die Godesburg)

Königswinter

Königswinter เป็นเมืองที่อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำกับ Bad Godesberg ถ้าล่องเรือมาจากแม่น้ำไรน์ สามารถมาขึ้นฝั่งที่ Konigswinter ได้เลย (หรือจะนั่งรถไฟมาจากโคโลญน์ก็ได้)

เมือง Königswinter เป็นเมืองรีสอร์ตที่มีภูเขาและป่าไม้สวยงาม เคยมีตำนานว่าภูเขา Drachenfels ที่เมืองนี้เคยมีมังกรอาศัยอยู่ (ชื่อ Drachenfels แปลว่า Dragon’s Rock) ที่ภูเขายังมีปราสาท Schloss Drachenburg ที่สร้างในปี 1882 และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของย่านนี้ (ดูคลิปประกอบ)

ปราสาท Schloss Drachenburg (ภาพโดย Dmitry Tonkonog and Ksenia Fedosova )
ปราสาท Schloss Drachenburg (ภาพโดย Dmitry Tonkonog and Ksenia Fedosova )

ย่าน Königswinter, Bad Godesburg และ Bonn อยู่ใกล้กัน สามจุดนี้สามารถจัดชุดให้เดินทางมาเที่ยวครบได้ภายในวันเดียว ถือเป็นการท่องเที่ยวด้านใต้ของเมืองโคโลญน์

สำหรับเมืองใหญ่ในทิศอื่นๆ ของโคโลญน์ เราขอแนะนำอีก 2 เมือง ได้แก่

Duesseldorf

ดุสเซลดอร์ฟ (Duesseldorf) เมืองหลวงของแคว้น North Rhine-Westphalia เป็นเมืองศูนย์กลางด้านธุรกิจและการค้า อยู่ถัดจากโคโลญน์ขึ้นไปทางเหนือ ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟประมาณ 30 นาที

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือถนนริมคลอง Königsallee ย่านช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี เต็มไปด้วยร้านค้าหรูหราไฮโซ และมีความยาวของถนนกว่า 1 กิโลเมตร คนท้องถิ่นจะเรียกถนนเส้นนี้ว่า Kö รายชื่อร้านค้าทั้งหมดดูได้จากเว็บไซต์

ภาพจากเว็บไซต์ Königsallee
ภาพจากเว็บไซต์ Königsallee

Aachen

อาเคน (Aachen) เป็นเมืองทางตะวันตกของโคโลญน์ และเป็นเมืองที่อยู่ค่อนไปทางตะวันตกมากที่สุดของเยอรมนี อยู่ติดพรมแดน 3 ประเทศคือ เยอรมนี เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ ถือเป็นจุดแวะพักที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีแผนจะไปเที่ยวเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ต่อจากเยอรมนี

การเดินทางมายังอาเคน ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีด้วยรถไฟ

อาเคนมีประวัติศาสตร์ยาวนาน พระเจ้าชาร์เลอมาญ แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์เคยพักอาศัยอยู่ที่นี่ และเคยเป็นเมืองที่กษัตริย์ของเยอรมันต้องมาทำพิธีขึ้นครองราชย์ แม้ว่าเมืองหลวงจะตั้งอยู่ที่อื่นก็ตาม

แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในอาเคนคือโบสถ์ของอาเคนที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 796 มีอายุมากกว่าหนึ่งพันปี และอาคารศาลาเมืองเก่าแก่ที่อยู่ไม่ไกลจากกันนัก

ศาลากลางเมืองอาเค่น Aachen City Hall
ศาลากลางเมืองอาเค่น Aachen City Hall

สุดท้ายก็ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเที่ยวภาคตะวันตกของเยอรมนี รวมถึงเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรปด้วย

คุณสามารถติดตามข้อมูลการท่องเที่ยวจาก 2Baht.com ได้ทาง Facebook 2Baht อีกช่องทางหนึ่ง