ในยุคที่เราเล่นอินเทอร์เน็ตได้จากบนเครื่องบินแล้ว สถานที่ที่อินเทอร์เน็ตยังเข้าไม่ค่อยถึงกลับกลายเป็น “เรือสำราญ” ขนาดยักษ์ ที่เดินทางข้ามมหาสมุทรเป็นเวลาหลายวัน
ถึงแม้บนเรือสำราญจะมีอินเทอร์เน็ตให้บริการ (เป็นเน็ตผ่านดาวเทียมแบบเดียวกับบนเครื่องบิน) แต่คุณภาพก็ยังไม่ดีนัก ส่งข้อมูลช้า ราคาแพง ส่งผลให้การเดินทางบนเรือสำราญจึงไม่ค่อยมีโอกาสเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์กันมากนัก (แถมยังเดินทางกันนานเป็นหลายวันหรือบางครั้งเป็นเดือน เมื่อเทียบกับเวลาที่เราใช้นั่งเครื่องบินเป็นหลักชั่วโมงเท่านั้น)
ล่าสุดบรรดาผู้ประกอบการเรือสำราญ ต่างหันมาปรับปรุงบริการอินเทอร์เน็ตบนเรือให้ทันสมัยมากขึ้น จากการใช้เน็ตในห้องคอมพิวเตอร์ก็เปลี่ยนมาเป็น Wi-Fi ทั่วทั้งลำเรือ มีแพ็กเกจเน็ตให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น เน็ตรายวัน หรือคิดตามปริมาณข้อมูล
ในอดีต ค่าเน็ตบนเรือสำราญอาจคิดที่ 29.99 ดอลลาร์ต่อวัน (ประมาณ 1,100 บาท) แต่ปัจจุบันเริ่มมีแพ็กเกจตามปริมาณการใช้งาน เช่น 59 ดอลลาร์ได้เน็ต 300MB (ประมาณ 2,100 บาท) หรือ 125 ดอลลาร์ได้เน็ต 1GB (4,400 บาท)
เรือบางแห่งอาจมีแพ็กเกจเหมาจ่าย 199 ดอลลาร์ได้เน็ตไม่จำกัด สามารถใช้งานได้ตลอดระยะเวลาการเดินทาง
ในแง่คุณภาพของเน็ตบนเรือก็พัฒนาขึ้น สามารถโทรศัพท์ผ่าน VoIP จากบนเรือได้ ดูหนังออนไลน์ได้ การที่คุณภาพเน็ตดีขึ้นเป็นผลมาจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านการส่งข้อมูลผ่านดาวเทียม และเสาอากาศบนเรือ
การที่อินเทอร์เน็ตบนเรือมีคุณภาพมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อทั้งลูกค้าและลูกเรือ เพราะลูกค้าสามารถสื่อสารทำงานต่างๆ ได้เหมือนอยู่ที่บ้าน การตัดสินใจมาล่องเรือสำราญจึงง่ายขึ้น
ข้อมูลจาก CNN