ฮอกไกโด ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย โดยเฉพาะผู้ที่ชอบความแปลกใหม่ หลังจากไปเที่ยวเมืองหลักๆ ในญี่ปุ่นมาเกือบครบแล้ว ก็อาจเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวเกาะฮอกไกโดทางตอนเหนือกันบ้าง เมื่อบวกกับการเดินทางที่สะดวก เพราะมีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพไปลงที่เกาะฮอกไกโดจากหลายสายการบิน ยิ่งทำให้ฮอกไกโดเป็นจุดที่น่าไปเยือนมากยิ่งขึ้นไปอีก
ฮอกไกโดเป็นเกาะที่อยู่ตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น มีสภาพอากาศหลากหลายตลอดปี โดยฤดูที่เหมาะแก่การไปเที่ยวฮอกไกโดมากที่สุดมี 2 ช่วงคือ ฤดูหนาว (เทศกาลหิมะ-สกี) และฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน (ดูทุ่งดอกไม้และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ภูเขา น้ำตก)
บทความนี้จะขอแนะนำ 5 เมืองที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวฮอกไกโดเป็นครั้งแรก เพื่อให้เป็นจุดตั้งต้นสำหรับการเดินทางสายโรแมนติก
![](http://2baht.com/wp-content/uploads/2018/03/hokkaido.jpg)
ซัปโปโร (Sapporo)
เมื่อพูดถึงฮอกไกโด จะไม่พูดถึงเมืองเอกอย่างซัปโปโร ก็เห็นจะไม่ได้ เพราะการเดินทางไปยังเกาะฮอกไกโดแทบทั้งหมด มักต้องมาตั้งต้นที่ซัปโปโรก่อนเสมอ ทั้งในแง่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของเกาะฮอกไกโด และการเป็นเมืองใหญ่ที่สุด มีประชากรมากที่สุด (ประมาณ 2 ล้านคน) และเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจอีกด้วย
ปัจจุบัน เรามีเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพ-ซัปโปโรให้เลือกหลายสายการบิน เช่น การบินไทย, Thai AirAsia X, ANA ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปเที่ยวฮอกไกโดอย่างมาก การมาเยือนฮอกไกโดจึงเหมาะกับการใช้ซัปโปโรเป็นจุดเริ่มต้น แล้วค่อยขยับขยายไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ที่ใกล้เคียงต่อไป
ซัปโปโร มีชื่อเสียงเรื่องเทศกาลหิมะ Sapporo Snow Festival ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเทศกาลระดับโลกที่มีนักท่องเที่ยวนับล้านคนเข้ามาเยี่ยมชมหุ่นแกะสลักจากน้ำแข็งที่สวยงาม
ถึงแม้เมืองซัปโปโรจะมีอายุไม่มาก (ค่อนข้างใหม่ตามมาตรฐานของญี่ปุ่น มีอายุประมาณร้อยกว่าปี เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ที่มีอายุเป็นพันปี) แต่ก็มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างให้ไปเที่ยวชม เช่น หอนาฬิกา Tokeidai ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง, อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าที่สร้างด้วยอิฐสีแดง, สวนสาธารณะ Odori Park ที่ตั้งอยู่กลางเมือง, โรงงานช็อคโกแลต Ishiya ที่น่าจะเหมาะกับเด็กๆ หรือพิพิธภัณฑ์เบียร์ Sapporo Beer Museum ที่เปิดให้เข้าชมฟรี
![](http://2baht.com/wp-content/uploads/2018/03/Chitose-ice-festival.jpg)
![](http://2baht.com/wp-content/uploads/2018/03/Sapporo-Red-Brick-Office.jpg)
อาซาฮิคาว่า (Asahikawa)
อาซาฮิคาว่า เมืองใหญ่อันดับสองของเกาะฮอกไกโด แถมยังเป็นเมืองที่มีอากาศเฉลี่ยหนาวที่สุดของประเทศญี่ปุ่นด้วย ใครที่ชอบอากาศเย็นๆ รับรองมาเที่ยวอาซาฮิคาว่าแล้วเย็นจับใจแน่นอน
อาซาฮิคาว่าตั้งอยู่ตรงกลางของเกาะฮอกไกโดพอดี และเป็นสถานีปลายทางของเส้นทางรถไฟสายหลักของเกาะ ที่วิ่งจากเมือง Hakodate ทางตอนใต้ ผ่านเมืองหลวง Sapporo และวิ่งมาสุดที่ Asahikawa ด้วย (แต่ยังมีเส้นทางไฟสายย่อยอื่นๆ วิ่งต่อไปยังฝั่งตะวันออกของเกาะ) การเดินทางจากซัปโปโรมาเที่ยวที่อาซาฮิคาว่าจึงสะดวกสบาย เพราะมีรถไฟวิ่งทุก 30 นาทีในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยใช้เวลาเดินทาง 85 นาที
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของ อาซาฮิคาว่าคือสวนสัตว์อาซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo) ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น มี “ดารา” อย่างหมีขั้วโลกและนกเพนกวิน ที่เปิดให้ชมกันอย่างใกล้ชิด ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ก็มีทั้งสวนสาธารณะ Kitakami Garden ที่มีดอกไม้สวยงาม และหมู่บ้านราเม็ง (Ramen Village) ที่มีอาหารประจำถิ่น “ราเม็งอาซาฮิคาว่า” ให้ลิ้มลองด้วย
![](http://2baht.com/wp-content/uploads/2018/03/asahiyama-zoo.jpg)
![](http://2baht.com/wp-content/uploads/2018/03/asahikawa-ramen.jpg)
ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
ฮาโกดาเตะ เมืองใหญ่อันดับสามของเกาะฮอกไกโด โดยตั้งอยู่เกือบสุดปลายทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด ถ้าหากเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นมาจากเกาะหลักของญี่ปุ่น จะลอดอุโมงค์ใต้ทะเลและมาจอดที่ฮาโกดาเตะนั่นเอง
ฮาโกดาเตะ เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของเกาะฮอกไกโด มีอายุยาวนานกว่าซัปโปโรเล็กน้อย และมีประวัติศาสตร์น่าสนใจคือเคยเป็นที่ตั้งของ “ประเทศเอโซะ” ที่ประกาศตัวเป็นอิสรภาพจากญี่ปุ่นในช่วงสั้นๆ ด้วย (ก่อนจะยอมแพ้สงครามและเข้าร่วมกับญี่ปุ่นในเวลาเพียง 1 ปีหลังจากนั้น) สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือป้อม Fort Goryōkaku ที่ออกแบบเป็นรูปดาว 5 แฉก และเคยถูกใช้เป็นฐานบัญชาการของประเทศเอโซะด้วย (ปัจจุบันกลายเป็นสวนสาธารณะ)
เมืองเก่าของฮาโกะดาเตะยังมีสิ่งน่าสนใจมากมาย เพราะเป็นเมืองท่าการค้าสำคัญกับต่างชาติ จึงมีอาคารเก่าที่ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกอยู่เยอะ เช่น โบสถ์ สถานกงสุล หรือแม้แต่สุสานแบบตะวันตก ปัจจุบันย่านโกดังท่าเรือเก่าริมน้ำ (Kanemori Red Brick Warehouses) ถูกพัฒนาเป็นย่านการค้าสมัยใหม่ มีร้านอาหารและร้านค้าเอาใจนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบย้อนยุคด้วย
![](http://2baht.com/wp-content/uploads/2018/03/Fort-Goryokaku.jpg)
![](http://2baht.com/wp-content/uploads/2018/03/hakodate-views.jpg)
โอตารุ (Otaru)
หากว่าฮาโกดาเตะคือเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ โอตารุก็ถือเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนเหนือ เมืองโอตารุอยู่ห่างจากซัปโปโรไปไม่ไกล เพียง 30 กิโลเมตร แต่การอยู่ติดทะเลทางเหนือทำให้โอตารุมีโอกาสค้าขายกับประเทศตะวันตก และมีการวางผังเมืองที่ดี จุดเด่นของเมืองโอตารุคือการขุดคลองภายในเมือง และประดับด้วยโคมไฟที่สวยงามมากในช่วงค่ำคืน
โอตารุยังมีชื่อเสียงด้านพิพิธภัณฑ์กล่องเพลง (Otaru Music Box Museum) ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่มีชื่อเสียงของเมือง ควบคู่กับการเป่าแก้ว นอกจากนี้โอตารุยังมีเทศกาล Otaru Snow Light Festival ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่จะขุดหิมะเป็นช่องแล้วนำตะเกียงหรือโคมไฟไปประดับไว้
อาหารที่ขึ้นชื่อโอตารุคือซูชิและเบียร์ ซึ่งหากินได้ทั่วไปในเมือง ซูชิของโอตารุโด่งดังเพราะความสดของวัตถุดิบ ส่วนเบียร์ก็เป็นที่นิยมในวัฒนธรรมการกินของเกาะฮอกไกโดเช่นกัน
![](http://2baht.com/wp-content/uploads/2018/03/otaru-canal.jpg)
![](http://2baht.com/wp-content/uploads/2018/03/otaru-port.jpg)
ฟุราโนะ (Furano) และ บิเอ (Biei)
นอกจากเมืองหลักทั้ง 4 เมืองข้างต้นแล้ว เกาะฮอกไกโดก็มีแหล่งท่องเที่ยวด้านธรรมชาติอีกมาก ที่อยู่ไม่ไกลจนเกินไปจากซัปโปโรและอาซาฮิคาว่าคือ เมืองฟุราโนะ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่กลางหุบเขา มีชื่อเสียงเรื่องรีสอร์ทสกี Prince Snow Resorts และทุ่งดอกไม้ลาเวนเดอร์ ถ้าใครเป็นสายดูละครซีรีส์ญี่ปุ่น ก็อาจมาตามรอยหลายฉากในละครดังที่มาถ่ายทำในฟุราโนะด้วย
ส่วน บิเอ เป็นเมืองที่อยู่ระหว่างอาซาฮิคาว่ากับฟุราโนะ การมาเที่ยวจึงมักควบรวมกันเลยในทริปเดียว เมืองบิเอเป็นเมืองที่อยู่ติดเขาเช่นกัน และมีชื่อเสียงเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น สวนดอกไม้ บึงน้ำสีฟ้า ทั้งสองเมืองสามารถเดินทางมาจากอาซาฮิคาว่าด้วยรถไฟได้อย่างสะดวกเช่นกัน
![](http://2baht.com/wp-content/uploads/2018/03/Farm-Tomita.jpg)
![](http://2baht.com/wp-content/uploads/2018/03/bluepond-summer.jpg)
ฮอกไกโด เที่ยวเองหรือซื้อทัวร์ดี?
ถึงแม้จะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย แต่ฮอกไกโดเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ มีประชากรน้อย และพื้นที่หลายส่วนของเกาะก็แทบไม่มีคนอยู่อาศัย ทำให้การเดินทางด้วยการขนส่งสาธารณะในฮอกไกโดอาจจะลำบากอยู่บ้าง โดยการเดินทางระหว่างเมืองหลักสามารถใช้รถไฟได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ถ้าอยากจะไปเที่ยวสถานที่ทางธรรมชาตินอกเมือง ก็มีทางเลือกแค่นั่งรถบัส (ที่รอบอาจมีน้อย) หรือการเช่ารถขับด้วยตัวเองเท่านั้น
สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย หรืออาจมีเด็ก-ผู้สูงอายุไปท่องเที่ยวด้วย การไปกับทัวร์ที่มีคนจัดการเรื่องการเดินทางให้เสร็จสรรพ มีรถบัสรับส่งตลอดเวลา อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า ผู้สนใจลองดู ทัวร์ฮอกไกโดของบริษัท Tourkrub.com ที่มีทัวร์หลายเมืองหลายรูปแบบ และมีช่วงเวลาออกทัวร์ตลอดทั้งปี