แนะนำ 5 เมืองห้ามพลาดของเกาะฮอกไกโด สำหรับคนไปเที่ยวครั้งแรก

ฮอกไกโด ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย โดยเฉพาะผู้ที่ชอบความแปลกใหม่ หลังจากไปเที่ยวเมืองหลักๆ ในญี่ปุ่นมาเกือบครบแล้ว ก็อาจเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวเกาะฮอกไกโดทางตอนเหนือกันบ้าง เมื่อบวกกับการเดินทางที่สะดวก เพราะมีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพไปลงที่เกาะฮอกไกโดจากหลายสายการบิน ยิ่งทำให้ฮอกไกโดเป็นจุดที่น่าไปเยือนมากยิ่งขึ้นไปอีก

ฮอกไกโดเป็นเกาะที่อยู่ตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น มีสภาพอากาศหลากหลายตลอดปี โดยฤดูที่เหมาะแก่การไปเที่ยวฮอกไกโดมากที่สุดมี 2 ช่วงคือ ฤดูหนาว (เทศกาลหิมะ-สกี) และฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน (ดูทุ่งดอกไม้และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ภูเขา น้ำตก)

บทความนี้จะขอแนะนำ 5 เมืองที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวฮอกไกโดเป็นครั้งแรก เพื่อให้เป็นจุดตั้งต้นสำหรับการเดินทางสายโรแมนติก

ภาพจาก JNTO

ซัปโปโร (Sapporo)

เมื่อพูดถึงฮอกไกโด จะไม่พูดถึงเมืองเอกอย่างซัปโปโร ก็เห็นจะไม่ได้ เพราะการเดินทางไปยังเกาะฮอกไกโดแทบทั้งหมด มักต้องมาตั้งต้นที่ซัปโปโรก่อนเสมอ ทั้งในแง่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของเกาะฮอกไกโด และการเป็นเมืองใหญ่ที่สุด มีประชากรมากที่สุด (ประมาณ 2 ล้านคน) และเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจอีกด้วย

ปัจจุบัน เรามีเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพ-ซัปโปโรให้เลือกหลายสายการบิน เช่น การบินไทย, Thai AirAsia X, ANA ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปเที่ยวฮอกไกโดอย่างมาก การมาเยือนฮอกไกโดจึงเหมาะกับการใช้ซัปโปโรเป็นจุดเริ่มต้น แล้วค่อยขยับขยายไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ที่ใกล้เคียงต่อไป

ซัปโปโร มีชื่อเสียงเรื่องเทศกาลหิมะ Sapporo Snow Festival ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเทศกาลระดับโลกที่มีนักท่องเที่ยวนับล้านคนเข้ามาเยี่ยมชมหุ่นแกะสลักจากน้ำแข็งที่สวยงาม

ถึงแม้เมืองซัปโปโรจะมีอายุไม่มาก (ค่อนข้างใหม่ตามมาตรฐานของญี่ปุ่น มีอายุประมาณร้อยกว่าปี เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ที่มีอายุเป็นพันปี) แต่ก็มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างให้ไปเที่ยวชม เช่น หอนาฬิกา Tokeidai ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง, อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าที่สร้างด้วยอิฐสีแดง, สวนสาธารณะ Odori Park ที่ตั้งอยู่กลางเมือง, โรงงานช็อคโกแลต Ishiya ที่น่าจะเหมาะกับเด็กๆ หรือพิพิธภัณฑ์เบียร์ Sapporo Beer Museum ที่เปิดให้เข้าชมฟรี

เทศกาลหิมะที่เมือง Chitose ติดกับเมืองซัปโปโร ภาพจาก การท่องเที่ยวซัปโปโร
ที่ทำการรัฐบาลเก่า ภาพจาก การท่องเที่ยวซัปโปโร

อาซาฮิคาว่า (Asahikawa)

อาซาฮิคาว่า เมืองใหญ่อันดับสองของเกาะฮอกไกโด แถมยังเป็นเมืองที่มีอากาศเฉลี่ยหนาวที่สุดของประเทศญี่ปุ่นด้วย ใครที่ชอบอากาศเย็นๆ รับรองมาเที่ยวอาซาฮิคาว่าแล้วเย็นจับใจแน่นอน

อาซาฮิคาว่าตั้งอยู่ตรงกลางของเกาะฮอกไกโดพอดี และเป็นสถานีปลายทางของเส้นทางรถไฟสายหลักของเกาะ ที่วิ่งจากเมือง Hakodate ทางตอนใต้ ผ่านเมืองหลวง Sapporo และวิ่งมาสุดที่ Asahikawa ด้วย (แต่ยังมีเส้นทางไฟสายย่อยอื่นๆ วิ่งต่อไปยังฝั่งตะวันออกของเกาะ) การเดินทางจากซัปโปโรมาเที่ยวที่อาซาฮิคาว่าจึงสะดวกสบาย เพราะมีรถไฟวิ่งทุก 30 นาทีในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยใช้เวลาเดินทาง 85 นาที

สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของ อาซาฮิคาว่าคือสวนสัตว์อาซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo) ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น มี “ดารา” อย่างหมีขั้วโลกและนกเพนกวิน ที่เปิดให้ชมกันอย่างใกล้ชิด ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ก็มีทั้งสวนสาธารณะ Kitakami Garden ที่มีดอกไม้สวยงาม และหมู่บ้านราเม็ง (Ramen Village) ที่มีอาหารประจำถิ่น “ราเม็งอาซาฮิคาว่า” ให้ลิ้มลองด้วย

ไฮไลท์ของสวนสัตว์ Asahiyama คือการได้ชมหมีขั้วโลกอย่างใกล้ชิดมากๆ – ภาพจาก Asahiyama Zoo
ราเม็งอาซาฮิคาว่า อาหารขึ้นชื่อของเมืองอาซาฮิคาว่า – ภาพจาก Yuko Hara / Flickr

ฮาโกดาเตะ (Hakodate)

ฮาโกดาเตะ เมืองใหญ่อันดับสามของเกาะฮอกไกโด โดยตั้งอยู่เกือบสุดปลายทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด ถ้าหากเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นมาจากเกาะหลักของญี่ปุ่น จะลอดอุโมงค์ใต้ทะเลและมาจอดที่ฮาโกดาเตะนั่นเอง

ฮาโกดาเตะ เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของเกาะฮอกไกโด มีอายุยาวนานกว่าซัปโปโรเล็กน้อย และมีประวัติศาสตร์น่าสนใจคือเคยเป็นที่ตั้งของ “ประเทศเอโซะ” ที่ประกาศตัวเป็นอิสรภาพจากญี่ปุ่นในช่วงสั้นๆ ด้วย (ก่อนจะยอมแพ้สงครามและเข้าร่วมกับญี่ปุ่นในเวลาเพียง 1 ปีหลังจากนั้น) สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือป้อม  Fort Goryōkaku ที่ออกแบบเป็นรูปดาว 5 แฉก และเคยถูกใช้เป็นฐานบัญชาการของประเทศเอโซะด้วย (ปัจจุบันกลายเป็นสวนสาธารณะ)

เมืองเก่าของฮาโกะดาเตะยังมีสิ่งน่าสนใจมากมาย เพราะเป็นเมืองท่าการค้าสำคัญกับต่างชาติ จึงมีอาคารเก่าที่ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกอยู่เยอะ เช่น โบสถ์ สถานกงสุล หรือแม้แต่สุสานแบบตะวันตก ปัจจุบันย่านโกดังท่าเรือเก่าริมน้ำ (Kanemori Red Brick Warehouses) ถูกพัฒนาเป็นย่านการค้าสมัยใหม่ มีร้านอาหารและร้านค้าเอาใจนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบย้อนยุคด้วย

Fort Goryokaku ป้อมเก่าแก่ที่ออกแบบเป็นรูปดาวห้าแฉก – ภาพจาก Travel Hakodate
วิวของเมืองฮาโกดาเตะยามค่ำคืน เมื่อมองลงมาจากบนเขา ถือเป็นหนึ่งในวิวเมืองที่สวยที่สุดในโลก – ภาพจาก Travel Hakodate

โอตารุ (Otaru)

หากว่าฮาโกดาเตะคือเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ โอตารุก็ถือเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนเหนือ เมืองโอตารุอยู่ห่างจากซัปโปโรไปไม่ไกล เพียง 30 กิโลเมตร แต่การอยู่ติดทะเลทางเหนือทำให้โอตารุมีโอกาสค้าขายกับประเทศตะวันตก และมีการวางผังเมืองที่ดี จุดเด่นของเมืองโอตารุคือการขุดคลองภายในเมือง และประดับด้วยโคมไฟที่สวยงามมากในช่วงค่ำคืน

โอตารุยังมีชื่อเสียงด้านพิพิธภัณฑ์กล่องเพลง (Otaru Music Box Museum) ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่มีชื่อเสียงของเมือง ควบคู่กับการเป่าแก้ว นอกจากนี้โอตารุยังมีเทศกาล Otaru Snow Light Festival ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่จะขุดหิมะเป็นช่องแล้วนำตะเกียงหรือโคมไฟไปประดับไว้

อาหารที่ขึ้นชื่อโอตารุคือซูชิและเบียร์ ซึ่งหากินได้ทั่วไปในเมือง ซูชิของโอตารุโด่งดังเพราะความสดของวัตถุดิบ ส่วนเบียร์ก็เป็นที่นิยมในวัฒนธรรมการกินของเกาะฮอกไกโดเช่นกัน

คลองโอตารุยามค่ำคืนในช่วงฤดูหนาว – ภาพจาก Otaru Tourism Association
บรรยากาสริมทะเล บริเวณท่าเรือของโอตารุ – ภาพจาก Otaru Tourism Association

ฟุราโนะ (Furano) และ บิเอ (Biei)

นอกจากเมืองหลักทั้ง 4 เมืองข้างต้นแล้ว เกาะฮอกไกโดก็มีแหล่งท่องเที่ยวด้านธรรมชาติอีกมาก ที่อยู่ไม่ไกลจนเกินไปจากซัปโปโรและอาซาฮิคาว่าคือ เมืองฟุราโนะ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่กลางหุบเขา มีชื่อเสียงเรื่องรีสอร์ทสกี Prince Snow Resorts และทุ่งดอกไม้ลาเวนเดอร์ ถ้าใครเป็นสายดูละครซีรีส์ญี่ปุ่น ก็อาจมาตามรอยหลายฉากในละครดังที่มาถ่ายทำในฟุราโนะด้วย

ส่วน บิเอ เป็นเมืองที่อยู่ระหว่างอาซาฮิคาว่ากับฟุราโนะ การมาเที่ยวจึงมักควบรวมกันเลยในทริปเดียว เมืองบิเอเป็นเมืองที่อยู่ติดเขาเช่นกัน และมีชื่อเสียงเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น สวนดอกไม้ บึงน้ำสีฟ้า ทั้งสองเมืองสามารถเดินทางมาจากอาซาฮิคาว่าด้วยรถไฟได้อย่างสะดวกเช่นกัน

Farm Tomita ฟาร์มเกษตรและสวนดอกไม้ชื่อดังของเมืองฟุราโนะ – ภาพจาก Furano Tourism
บึงน้ำสีฟ้า Shirogane Blue Pond แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของบิเอ – ภาพจาก Biei Tourism Association

ฮอกไกโด เที่ยวเองหรือซื้อทัวร์ดี?

ถึงแม้จะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย แต่ฮอกไกโดเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ มีประชากรน้อย และพื้นที่หลายส่วนของเกาะก็แทบไม่มีคนอยู่อาศัย ทำให้การเดินทางด้วยการขนส่งสาธารณะในฮอกไกโดอาจจะลำบากอยู่บ้าง โดยการเดินทางระหว่างเมืองหลักสามารถใช้รถไฟได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ถ้าอยากจะไปเที่ยวสถานที่ทางธรรมชาตินอกเมือง ก็มีทางเลือกแค่นั่งรถบัส (ที่รอบอาจมีน้อย) หรือการเช่ารถขับด้วยตัวเองเท่านั้น

สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย หรืออาจมีเด็ก-ผู้สูงอายุไปท่องเที่ยวด้วย การไปกับทัวร์ที่มีคนจัดการเรื่องการเดินทางให้เสร็จสรรพ มีรถบัสรับส่งตลอดเวลา อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า ผู้สนใจลองดู ทัวร์ฮอกไกโดของบริษัท Tourkrub.com ที่มีทัวร์หลายเมืองหลายรูปแบบ และมีช่วงเวลาออกทัวร์ตลอดทั้งปี