“ฮ่องกง” เป็นชื่อที่คนไทยคุ้นเคยมานานเมื่อต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศ ด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งระยะทางใกล้บินไม่นาน ไม่ต้องขอวีซ่า ค่าใช้จ่ายไม่แพง และการอุดมไปด้วยอาหารและแหล่งช็อปปิ้งถูกจริตคนไทยเป็นอย่างมาก
การไปเที่ยวฮ่องกงทุกวันนี้ไปได้ง่ายมาก เพราะมีสายการบินโลว์คอสต์ให้บริการหลายสาย อีกทั้งฮ่องกงเองก็คุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีสาธารณูปโภครองรับพร้อมสรรพ ต่อให้ไปเที่ยวเมืองนอกเป็นครั้งแรก ก็สามารถเที่ยวในฮ่องกงด้วยตัวเองแบบ backpacker ได้ง่าย
บทความนี้ 2Baht.com จะแนะนำทริคและเทคนิคสำหรับการเที่ยวฮ่องกงแบบแบ็คแพ็ค (backpack) แบกเป้เที่ยวเองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดกัน
1. สายการบินไปฮ่องกง มีอะไรให้เลือกบ้าง เลือกสายการบินไหนดี?
สายการบินที่ไปฮ่องกงมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นโลว์คอสต์ที่คุ้นกันดีอย่าง แอร์เอเชีย (FD), ฮ่องกงเอ็กซ์เพรส (UO) หรือจะเป็นสายการบินแบบ full service อย่าง คาเธ่ย์แปซิฟิก (CX), ฮ่องกงแอร์ไลน์ (HX), เอมิเรตส์ (EK) และการบินไทย (TG) ก็มีบริการให้เลือกตลอดทั้งวัน
![10 เทคนิค เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง แบบ Backpacker](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/12/BKK-HKG-flight-505x438.jpg)
ด้วยการที่นั่งไปและกลับอย่างละไม่เกิน 3 ชั่วโมง ซึ่งยังไม่ค่อยเมื่อยกันมาก ดังนั้นการบินแบบประหยัดดูจะเป็นทางเลือกที่ดีสุด การจองกับโปรต่างๆ ของสายการบิน low cost แต่เนิ่นมักจะได้ราคาถูก ส่วนสายการบิน full service ก็ออกมาทำราคาแข่งอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นคาเธ่ย์แปซิฟิก ฮ่องกงแอร์ไลน์ หรือ เอมิเรตส์
สำหรับใครที่ต้องการเลือกเที่ยวบินต่อวันเยอะหน่อย ฮ่องกงแอร์ไลน์ คาเธ่ย์แปซิฟิก และการบินไทย ดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เหมาะกับคนที่วันลาน้อย หรือ ต้องการบินเช้า-กลับดึก
2. เลือกโรงแรมอย่างไร แถบไหนดี
คำตอบนี้ เราขอหยิบแผนที่รถไฟเกาะฮ่องกงมากางกันสักนิด เพื่ออธิบายสถาปัตยกรรมผังเมืองฮ่องกงกันสั้นๆ จากซ้ายไปขวา
![10 เทคนิค เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง แบบ Backpacker](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/12/MTR_HK_routemap.jpg)
- เส้นสีเขียวเข้มด้านซ้าย หรือ Airport Express : วิ่งจากสนามบินเข้าเมือง ปลายทางสถานี Hong Kong (แต่บอกไว้ก่อนว่าไม่จำเป็นต้องพึ่ง Airport Express ก็ได้ ขึ้นรถ Airport Bus ที่นี่ก็สะดวกเหมือนกัน)
- เส้นสีเหลือง Tung Chung Line : ดีสนีย์แลนด์ City Gate Outlet วัดพระใหญ่
- เส้นสีแดง Tsuen Wan Line : ผ่านแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม ตั้งแต่ Central, Tsim Sha Tsui, Mong Kok (มี outlet เยอะ) รวมถึง Lady Market (อารมณ์ตลาดนัดจีนๆ) และยังมีแหล่งรวม Outlet ชื่อ China Hong Kong City ซึ่งมีเรือ Ferry ไปมาเก๊าอีกด้วย
- เส้นสีน้ำเงินด้านล่าง Island Line : ผ่านแหล่งช้อปปิ้งและย่านธุรกิจใจกลางเมือง ตั้งแต่ Central ไปสิ้นสุดที่ Causeway Bay (ตึก World Trade)
- นอกจากนี้ใครอยากสัมผัสบรรยากาศเก่าแก่หน่อย จะมีรถรางร้อยปีคู่เกาะฮ่องกงที่วิ่งขนานกับ Island Line (แต่ไม่ได้ทับกันเป๊ะซะทีเดียว) หรือจะนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟาก (Star Ferry) ระหว่าง Tsim Sha Tsui มา Wan Chai หรือ Tsim Sha Tsui มา Central ก็ได้เช่นกัน
ทีนี้กลับมาคำถามเดิมว่า พักที่ไหนดี? ขึ้นอยู่จุดประสงค์การเที่ยวและงบประมาณของแต่ละคนแล้วหล่ะ เราขอไกด์คร่าวๆ ตามนี้
- หากเที่ยวหลายๆ ที่ พยายามวางโปรแกรมให้ต่อรถน้อยๆ ละแวก “Central” ถือว่าทำเลดี เพราะต่อรถสะดวกสุด แต่โรงแรมค่อนข้างราคาสูงหน่อย
- เน้นช้อปปิ้งเป็นพิเศษ นอนละแวก “Tsuen Wan Line” ก็ดีเหมือนกัน (เพราะแถบนั้นแหล่งช้อปปิ้งเพียบ ค่ำๆ ก็มาดู Symphony of Light ที่ Tsim Sha Tsui สะดวกดีด้วย) ถ้าเน้นโรงแรมราคาประหยัดลงมาอีกนิด ลองหาแถวๆ ย่าน Mong Kok, Prince Edward ก็ไม่เลว
- ถ้าเน้นเที่ยวดีสนีย์แลนด์เพียวๆ อาจจะนอนโรงแรมดีสนีย์แลนด์ 1-2 คืนก็ได้นะ เพราะว่าการแสดงพลุเริ่มตอน 2-3 ทุ่ม แล้วอีกวันค่อยไปไหว้พระใหญ่ หรือ ช้อปปิ้ง City Gate Outlet ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก
- หากไปงานสัมมนา แนะนำว่าหาโรงแรมใกล้สถานที่จัดงานจะดีกว่า เพราะขนส่งสาธารณะฮ่องกงในตอนเช้า ไม่ว่าจะรถบัส หรือ รถไฟฟ้ามักจะคนแน่นเป็นพิเศษ หากอยู่ในรัศมีที่เดินไปถึงงานได้จะดีที่สุด
3. จากสนามบินเข้าเมืองด้วยวิธีไหน ประหยัดและรวดเร็ว
Airport Express เดินทางสะดวก ช้อปปิ้งวันกลับแบบตัวปลิว
อันที่จริงการเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองนั้น แล้วแต่ว่าพักที่ใด หากพักโซนที่ใกล้กับสถานีที่มี Airport Express โดยไม่ต้องต่อรถใต้ดิน (MTR) เพิ่มเติมก็สะดวกดี แต่ราคาออกจะแพงไปสักหน่อย ค่าโดยสารเฉลี่ยเที่ยวละ 90-100 ดอลลาร์ฮ่องกง แต่ถ้าซื้อเป็นตั๋วไป-กลับ ราคาก็จะถูกลงอีก 10 ดอลลาร์/เที่ยว
แม้ว่าค่าเดินทางจะแพง แต่ข้อดีของการโดยสารด้วย Airport Express คือ ในวันเดินทางกลับ เราสามารถเอากระเป๋าเดินทางของเราเข้าไปเช็คอินในสถานีรถไฟ ให้กระเป๋าล่วงหน้าไปสนามบินก่อนได้ หรือ เรียกอีกอย่างว่า In-Town Check-in
ส่วนเราก็เดินตัวปลิวช้อปปิ้งสบายใจ แต่ต้องเช็คกับสายการบินด้วยว่าเค้ามีบริการนี้ด้วยหรือเปล่า (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม) ฝากกระเป๋ากันแล้วก็อย่าลืมสอบถามเจ้าหน้าที่ของสายการบินด้วยนะ ว่าควรขึ้นรถไฟไปสนามบินไม่เกินกี่โมง
Citybus Cityflyer (Airport Bus) ประหยัดขึ้นอีกนิด กับบริการที่พอดี
![10 เทคนิค เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง แบบ Backpacker](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/12/20150729_140720.jpg)
หากอยากได้วิธีที่ประหยัดกว่า Airport Express ไปเกือบครึ่ง และไม่ใช้เวลามากเกินไปนัก เราขอแนะนำ Citybus Cityflyer หรือรถ Airport Bus ที่วิ่งจากสนามบินไปยังเส้นทางสำคัญทั่วเกาะฮ่องกง รถบัสสายนี้ส่วนใหญ่จะวิ่งตลอดทั้งวัน มีพื้นที่วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ไว้อย่างเป็นสัดส่วน
รถ Cityflyer ออกทุก 15-20 นาที ค่าโดยสารเฉลี่ยเที่ยวละ 40 ดอลลาร์ฮ่องกง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง +/- นิดหน่อย ตามระยะทาง ส่วนรายละเอียดเส้นทาง ค่าโดยสาร และตารางการเดินรถนั้น อ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Cityflyer
4. การเดินทางภายในฮ่องกง
ฮ่องกงเป็นเกาะขนาดเล็ก เดินทางสะดวก การคมนาคมประเภทหลักที่ใช้กันคือ รถไฟใต้ดิน (เรียกตัวย่อว่า MTR) และรถบัส แต่ในเขตเมืองบางจุดก็ยังมี “รถราง” หรือ (tram) ให้บริการด้วย
![10 เทคนิค เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง แบบ Backpacker](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/12/20150801_115319.jpg)
เทคนิคพื้นฐานที่คนไปฮ่องกงต้องรู้ คือการใช้บัตรเติมเงิน Octopus ที่เติมเงินได้ตามร้านสะดวกซื้อทุกแห่ง สามารถใช้ขึ้นรถ ลงเรือ ได้ทุกแบบ และจ่ายเงินซื้อของตามร้านค้าต่างๆ ได้ด้วย ช่วยให้แบ็กแพ็กเกอร์ไม่ต้องลำบากควักหาเงินสดตอนเดินทาง
![10 เทคนิค เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง แบบ Backpacker](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/08/20150729_135607.jpg)
ส่วนการเดินทางด้วย MTR ถ้าคุ้นเคยกับระบบรถใต้ดินเมืองไทยก็ไม่มีอะไรยาก เพียงแต่สายรถเยอะกว่าเท่านั้นเพราะครอบคลุมทั้งเกาะ อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการดูข้อมูลสายรถเพื่อให้วางแผนสะดวก เราแนะนำแอพ MTR Mobile ของฮ่องกงที่ทำมาดีมาก บอกสายรถทุกอย่างแบบละเอียดยิบ แถมใช้งานง่ายมาก ก่อนออกจากเมืองไทย ดาวน์โหลดติดมือถือไว้รับรองไม่ผิดหวัง
นอกจากนี้ ฮ่องกงยังมีแอพ Citybus & New World First Bus เอาไว้ดูสายรถบัส และ Hong Kong Tramways เอาไว้ดูสายรถรางด้วย อ่านรายละเอียดพร้อมวิธีการใช้งานได้จากบทความ แนะนำ 6 แอพสุดเจ๋ง สำหรับ Backpack เที่ยวฮ่องกงในยุคสมาร์ทโฟน
5. เช็คข้อมูลสภาพอากาศ หลีกเลี่ยงพายุมรสุม
ถึงแม้ฮ่องกงจะมีความปลอดภัยมาก แต่ก็มีภัยธรรมชาติที่สำคัญประการหนึ่งคือ “พายุ” ที่พัดมาจากมหาสมุทรแปซิฟิก บางฤดูกาลจึงมีฝนตกบ่อยๆ แถมเวลาพายุเข้าแรงๆ มันแรงถึงขนาดทุกคนต้องอยู่กันแต่ในที่พักเท่านั้นจริงๆ (แรงกว่าเมืองไทยเยอะ)
เพื่อให้การท่องเที่ยวสนุก ปลอดภัย ไม่เสียเที่ยว เราจึงควรรู้ระบบการเตือนภัยพายุของฮ่องกงไว้สักหน่อย เผื่อพายุเขาแล้วเขาวิ่งหลบๆ กัน เราจะได้ไม่งงหรือเผลอช็อปปิ้งเพลินจนกลับที่พักไม่ได้ รายละเอียดเรื่องการเตือนภัยพายุ อ่านในบทความ ไปฮ่องกงต้องรู้! พายุเข้าบ่อย ติดตามข้อมูลสภาพอากาศอย่างไร
นอกจากนี้เรายังแนะนำให้ลงแอพ Hong Kong My Observatory ของกรมอุตุนิยมวิทยาฮ่องกง เพื่อเช็คข้อมูลสภาพอากาศล่วงหน้าด้วย
![10 เทคนิค เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง แบบ Backpacker](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/08/hk-weather-map.jpg)
6. หาร้านอาหารอร่อยในฮ่องกงอย่างไรดี
ฮ่องกงเป็นสวรรค์ของคนชอบกิน มีอาหารทุกประเภทไม่จำกัดเฉพาะอาหารจีน คำถามคือเราจะหาร้านอาหารอร่อยๆ ใกล้ที่พักกันอย่างไรดี?
ในยุคสมัยแห่งสมาร์ทโฟน ปัญหานี้แก้ได้ด้วยแอพรีวิวร้านอาหาร (แบบเดียวกับ Wongnai ของบ้านเรา) โดยแอพรีวิวร้านอาหารที่คนฮ่องกงฮิตกันคือ OpenRice (มีในบ้านเราด้วยแต่แป๊กๆ) ซึ่งมีข้อมูลร้านอาหารในฮ่องกงแบบโคตรละเอียด ทั้งรูปถ่าย คะแนนรีวิว พิกัด เวลาเปิดปิดร้าน เรียกว่าคิดอะไรไม่ออกก็เปิด OpenRice ขึ้นมา สแกนหาร้านอาหารรอบตัว ดูอันคะแนนเยอะๆ หน่อย รับรองไม่มีผิดหวัง แบ็กแพ็กเกอร์สายฮ่องกงทั้งหลายควรมีติดมือถือไว้โดยพลัน
เทคนิคการสั่งอาหารอีกข้อคือถ้าไปร้านเล็กๆ ที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แนะนำให้เปิดรูปอาหารใน OpenRice ที่มีคนฮ่องกงโพสต์เอาไว้ แล้วชี้บอกทางร้านได้เลย
และนอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยร้านมิชลิน ซึ่งเราก็ได้รีวิวมาให้คุณตามไปชิมถึง 10 ร้านกันเลย (บทความ : รวมรีวิว 10 ร้านอาหารระดับเทพในฮ่องกง อร่อยระดับติดดาวมิชลิน)
7. น้ำเปล่าเรื่องใหญ่ ซื้อน้ำยังไงให้ได้ราคาถูก
คนไทยกับการกินน้ำเป็นเรื่องใหญ่ ปัญหาของฮ่องกงคือน้ำเปล่าในร้านสะดวกซื้อมีราคาแพงมาก (อาจแพงกว่าบ้านเรา 4-5 เท่า) ถ้าอยากประหยัด เราแนะนำให้ซื้อน้ำเปล่าเป็นแพ็กจากซูเปอร์มาร์เก็ตง่ายกว่า ถ้าพักอยู่ในกลางเมือง ฮ่องกงมีซูเปอร์มาร์เก็ตยิบย่อยแทรกตัวอยู่เกือบทุกถนน
ซูเปอร์แบรนด์ดังๆ ก็อย่างเช่น PARKnSHOP และ Wellcome ซึ่งพวกนี้มีแบรนด์น้ำขวดแบบ housebrand ของตัวเองที่ราคาถูกมาก บางครั้งอาจได้ถูกถึงขวดแบบ 1.5 ลิตรที่ 4 ดอลลาร์ฮ่องกง (20 บาท) ในขณะที่น้ำเปล่าขวด 770ml ในร้านสะดวกซื้อแบบ 7-Eleven ขายกันขวดละ 8-9 ดอลลาร์ฮ่องกง (40 บาท)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความ เทคนิคเที่ยวฮ่องกง ซื้อน้ำเปล่าในซูเปอร์มาร์เก็ตราคาถูกกว่า
8. ต่ออินเทอร์เน็ต ซื้อซิมฮ่องกงถูกกว่าโรมมิ่ง
ยุคสมัยนี้ การใช้เน็ตขณะท่องเที่ยวเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ แต่การใช้งาน Wi-Fi สาธารณะอาจไม่สะดวกเท่าไรนัก (เช่น ต้องเสียเงิน ต่อไม่ติด ไม่มีสัญญาณ) การใช้เน็ตจากสมาร์ทโฟนย่อมเป็นอะไรที่การันตีว่าใช้งานได้แทบตลอดเวลา
ถ้าเราไปเพียงไม่กี่วัน การเปิดโรมมิ่งจากเมืองไทยอาจง่ายและสะดวก แต่ถ้าต้องการประหยัดค่าเน็ต การไปซื้อซิมฮ่องกงย่อมคุ้มค่ากว่ามาก แถมฮ่องกงเป็นประเทศที่ซื้อซิมง่ายมาก สามารถหาซื้อตามร้านสะดวกซื้อได้เลย หรือถ้ารีบด่วน ลงเครื่องที่สนามบินแล้วสามารถซื้อที่สนามบินได้เลย
อ่านวิธีการซื้อซิมและเปิดใช้เน็ตในฮ่องกง ได้จากบทความ การซื้อซิมการ์ดต่อเน็ตที่ฮ่องกง (China Mobile แบบพรีเพด)
![10 เทคนิค เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง แบบ Backpacker](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/08/china-mobile-1.jpg)
9. แนะนำแหล่งท่องเที่ยวแปลกใหม่ที่น่าสนใจในฮ่องกง
จิมซาจุ่ย มงก๊ก อเวนิวออฟเดอะสตาร์ ดิสนียแลนด์ โอเชี่ยนปาร์ค ฯลฯ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเหล่านี้อาจดูน่าเบื่อไปแล้วสำหรับบางคนที่ไปฮ่องกงมาหลายครั้ง
จริงๆ แล้วนอกจากแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในเมืองแล้ว ฮ่องกงยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นอีกมาก ทาง 2Baht ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ในฮ่องกง อาทิ
- ชมฟาร์มออแกนิคแห่งแรกของ Hello Kitty ที่ฮ่องกง
- Hong Kong Wetland Park พื้นที่ชุ่มน้ำทางตอนบนของเกาะฮ่องกง แหล่งเรียนรู้ธรรมชาติที่น่าสนใจอีกแห่ง
![Hong Kong Wetland Park](http://2baht.com/wp-content/uploads/2016/01/20150730_152006.jpg)
10. รวมแหล่งข้อมูลการเที่ยวฮ่องกง
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจหาข้อมูลการท่องเที่ยวฮ่องกงเพิ่มเติม เราแนะนำแหล่งข้อมูลดังนี้
- เว็บไซต์การท่องเที่ยวฮ่องกง (ภาษาไทย)
- รวมแหล่งอาหารจาก OpenRice ฮ่องกง (ภาษาอังกฤษ)
- ดัชนีร้าน Outlet ทั่วฮ่องกง จาก Hong Kong Extras (ภาษาอังกฤษ)
- ปฏิทินรวม Event ทุกสิ่งอย่างในฮ่องกง (ภาษาจีน)
หวังว่าเทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้เพื่อนๆ เที่ยวฮ่องกงได้อย่างสะดวกขึ้น แล้วฝากทานติ่มซำอร่อยๆ เผื่อพวกเรากันด้วยหล่ะ!
คุณสามารถติดตามบทความการท่องเที่ยวจากเราที่ facebook เพจ “2baht.com” ได้อีกหนึ่งช่องทางนะคะ