ซาลาเปาอบไส้หมูแดง ร้าน Hong Kong Lucky เชียงใหม่

รีวิว Hong Kong Lucky Restaurant ร้านอาหารจีนฮ่องกงแท้ๆ ใจกลางเมืองเชียงใหม่

หลายครั้งที่เวลาเราอยากทานอาหารจีนสไตล์ฮ่องกงแท้ๆ ในเมืองไทยอาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะต่างจังหวัด แต่ผู้เขียนเพิ่งพบค้นพบร้านอาหารจีนในเชียงใหม่ซึ่งทำอาหารสไตล์ฮ่องกงได้อร่อยมาก หลายเมนูแทบจะถอดมาจากต้นตำรับที่ฮ่องกงแทบทุกประการ

ร้านดังกล่าวคือ Hong Kong Lucky Restaurant (ฮ่องกงลัคกี้) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ มีอะไรเด็ดๆ บ้าง ตามมาชิมกันได้เลยครับ

ข้อมูลร้านและรายละเอียดการเดินทาง

ป้ายหน้าร้าน
ป้ายหน้าร้าน
  • เปิดบริการทุกวัน 10:00 – 23:00 น.
  • หมายเลขโทรศัพท์ 085-355-5053
  • Facebook Hong Kong Lucky Restaurant
  • สถานที่ตั้ง อยู่ใกล้กับที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ (แทบจะใจกลางเมืองเก่า) ติดกับโรงเรียนสอนกวดวิชาอาจารย์อุ๊ (พิกัด GPS: 18.789071, 98.985014)

การเดินทางมาร้าน Hong Kong Lucky ถือว่าง่ายมาก ขอเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จากนั้นเดินไปยังที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ ร้านจะตั้งอยู่ในซอยตรงกันข้าม มีจุดสังเกตเป็นป้ายด้านซ้ายมือ เมื่อเลี้ยวเข้ามาในซอยแล้วจะพบป้ายร้านสีดำสนิท ตั้งอยู่ท่ามกลางโรงเรียนกวดวิชาครับ

ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่
ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่
ซอยตรงกันข้ามที่ทำการอำเภอ
ซอยตรงกันข้ามที่ทำการอำเภอ (ระหว่างถนนจ่าบ้าน และ ซ.ราชดำเนิน 7)

บรรยากาศภายในร้านและเมนู

ต้องบอกก่อนว่า บรรยากาศภายในร้านเป็นบรรยากาศโปร่ง โล่งสบาย และมีการตกแต่งภายในที่ดูเรียบง่าย สะอาดตา ซึ่งค่อนข้างต่างจากเหลาจีนทั่วไป

ตลอดเวลาที่นั่งทานอาหารในร้าน ผมพบว่าเค้าเปิดเพลงจีนกวางตุ้งมาให้ฟังแบบจุใจ ทั้งเพลงประกอบภาพยนตร์ฤทธิ์มีดสั้น หรือเพลงจากนักร้องอย่างฟรานซิส ยิป (เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้) หากใครชอบก็อาจร้องฮัมเบาๆ คลอตามไปได้

บรรยากาศภายในร้าน
บรรยากาศภายในร้าน

เมนูในร้านเป็นเมนูชนิดที่เรียกว่าครอบจักรวาลของอาหารฮ่องกง มีทั้งเมนูนึ่ง ผัด ต้ม ไปจนถึงของหวาน คงมิอาจรีวิวได้ทั้งเล่มแน่ๆ เราจึงคัดเลือกเมนูเด็ดที่สื่อถึงอาหารฮ่องกงขึ้นมา 2 หมวด ได้แก่ ติ่มซำ และอาหารประเภทเส้นครับ

หน้าปกเมนู
หน้าปกเมนู
หมวดติ่มซำ
หมวดติ่มซำ
หมวดติ่มซำ
หมวดติ่มซำ

ข้อดีของร้านนี้ (ซึ่งดีมาก!) คือราคาในเมนูรวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าบริการแล้ว ไม่ต้องไปบวกเพิ่มเติมตอนเช็คบิลอีก ส่วนเครื่องดื่มต้องสั่งแยกต่างหากเอาเองครับ (มาตรฐานคือชาจีนร้อน อยู่ที่ 40 บาท)

รีวิวเมนูติ่มซำ ร้านฮ่องกงลัคกี้

หลังจากเราสั่งอาหารไปแล้ว ใช้เวลาไม่นานนัก อาหารก็มาถึงโต๊ะครับ

เริ่มที่จานแรกคือ ซาลาเปาไส้หมูแดงอบ แบบเดียวกับที่เราพบได้ที่ฮ่องกง หน้าตาของซาลาเปาไส้หมูแดงอบของที่นี่จะละม้ายคล้ายคลึงกับที่ Lung King Heen ที่เราเคยรีวิวไปแล้ว แต่โทนสีเหลืองขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง หนึ่งถาดมี 3 ชิ้นครับ

ซาลาเปาอบไส้หมูแดง ร้าน Hong Kong Lucky เชียงใหม่
ซาลาเปาไส้หมูแดงอบ

รีวิว Hong Kong Lucky เชียงใหม่

จานนี้ต้องยกให้เป็น “ซาลาเปาไส้หมูแดงอบที่ดีที่สุดในเมืองไทย” เท่าที่ผมเคยทานมา ด้วยรสชาติที่ไม่หวานแหลมโดดจนแสบคอ หอมเนย/มาการีน ในระดับที่พอดี ไม่ฉุนจนเกินไป

สำหรับเนื้อแป้งนั้น เนียนจนคล้ายกับเนื้อขนมปังชั้นดี เมื่อบิออกมาจะได้ความหอมของไส้หมูแดง ผสานกับรสชาติที่ลงตัวระหว่างความเค็มและหวาน แทบไร้จุดให้ติสำหรับจานนี้ (จานนี้มีซ้ำ)

ด้านในซาลาเปาไส้หมูแดงอบ
ด้านในซาลาเปาไส้หมูแดงอบ

ต่อมาเป็น ฮะเก๋ากุ้ง ซึ่งเปิดมาด้วยกุ้งล้วนๆ ทั้งตัวอยู่ภายในฮะเก๋า รักษาความเค็มของตัวกุ้งได้ดี แป้งบางและนุ่มนวล ถือว่าแซงหน้าหลายโรงแรมในกรุงเทพได้สบาย

ฮะเก๋ากุ้ง ร้าน Hong Kong Lucky เชียงใหม่
ฮะเก๋ากุ้ง

ขนมจีบกุ้ง เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด ด้วยส่วนผสมของตัวไส้ที่มีเห็ดหอมจีนแทรกอยู่ ทำให้ได้ทั้งสัมผัสที่เคี้ยวสนุก รสชาติที่ไม่เค็มจนเกินไปนัก และหอมกลิ่นเห็ดนิดๆ อร่อยมากเช่นกัน (ถึงขั้นสั่งซ้ำอีกเข่ง)

ขนมจีบกุ้ง ร้าน Hong Kong Lucky เชียงใหม่
ขนมจีบกุ้ง

ถาดต่อไปเป็น ลูกชิ้นเนื้อวัว (แบบเดียวกับของ Lin Heung ที่ฮ่องกง) ต้องยอมรับว่าจานนี้ทำยากพอสมควร แม้ตัวลูกชิ้นไม่แน่นเท่าต้นตำรับ แต่ยังคงให้รสชาติวัตถุดิบที่ชัดเจนว่าเป็นเนื้อวัว น้ำซอสที่ราดถือว่าผ่านฉลุย แม้ว่าจานนี้จะโดนสามจานหลักแรกกลบรัศมีไป แต่ก็ยังโดดเด่นและทำได้ดีในระดับที่ผู้เขียนทึ่ง!

ลูกชิ้นเนื้อวัว ร้าน Hong Kong Lucky เชียงใหม่
ลูกชิ้นเนื้อวัว

ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้ปาท่องโก๋ เป็นอีกหนึ่งจานที่มีซอสโดดเด่น รักษาความเค็มและเผ็ดได้ดี เนื้อแป้งก๋วยเตี๋ยวทำได้พอดีเช่นกัน แต่เนื้อปาท่องโก๋ยังไม่กรอบมาก

ถ้าสามารถเพิ่มความกรอบและความเบาของเนื้อปาท่องโก๋เข้าไปได้อีกนิด จานนี้จะสมบูรณ์แบบยิ่งยวด แต่เท่านี้ก็ถือว่าค่อนข้างดีแล้วครับ

ก๋วยเตี๋ยวหลอดปาท่องโก๋ ร้าน Hong Kong Lucky เชียงใหม่
ก๋วยเตี๋ยวหลอดปาท่องโก๋

แน่นอนว่าไม่มีร้านใดปรุงอาหารทุกจานได้สมบูรณ์แบบ เมนู เผือกทอด จานนี้สอบตก เพราะภายนอกทอดจนสุกเกินไปเลยแข็ง ส่วนเนื้อในไม่ค่อยฉ่ำนัก ทานไม่สะใจ จานนี้ข้ามไปได้ครับ

เผือกทอด ร้าน Hong Kong Lucky เชียงใหม่
เผือกทอด

จานปิดท้ายสำหรับหมวดติ่มซำคือ ซี่โครงหมูนึ่งซอสเอ็กซ์โอ เมื่อตอนมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ผู้เขียนกับเพื่อนสงสัยว่าซอสเอ็กซ์โอหายไปไหน? ไฉนถึงมีแต่พริกด้านบนและเต้าซี่มาประดับพอเป็นพิธี

แต่เมื่อลองทานก็พบว่าตัวซี่โครงหมูทำออกมาได้ฉ่ำๆ เคี้ยวสนุกอย่างมาก ส่วนรสชาติมีทั้งเค็มและเผ็ด ลงตัวได้อย่างพอดิบพอดี สะท้อนบุคลิกของซอสเอ็กซ์โอได้เต็มเปี่ยมทุกกระเบียดนิ้ว รสชาติเข้มข้นสุดๆ ทั้งที่แทบจะไม่เห็นซอสเอ็กซ์โอด้วยตาเปล่าเลย ถือเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง

(หมายเหตุ ซอสเอ็กซ์โอ เป็นซอสน้ำพริกของฮ่องกง ส่วนประกอบสำคัญนอกจากเครื่องเทศและพริกหลากชนิดแล้ว ยังรวมถึงหอยเชลล์แห้งด้วย ทำให้ซอสนี้มีราคาแพงมาก ในบ้านเรามีของลีกุมกีขายอยู่ หาซื้อได้ไม่ยาก ส่วนราคาอยู่ที่หลักร้อย)

ซี่โครงหมูนึ่งซอสเอ็กซ์โอ
ซี่โครงหมูนึ่งซอสเอ็กซ์โอ

 

รีวิวอาหารประเภทเส้น ร้านฮ่องกงลัคกี้

ปิดท้ายกันที่กลุ่มอาหารประเภทเส้นสองรายการ จานแรกเป็น บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง รสชาติโดยภาพรวมค่อนข้างดี แต่ไม่มีลูกเล่นที่โดดเด่นนัก (แบบเดียวกับ Lung King Heen) ถึงแม้ตัวเส้นมีขนาดเล็กและบาง แต่ก็ไม่ใช่เส้นบะหมี่สูตรฮ่องกงแท้ๆ (คนละแบบกับ Gokfayuen ที่กรุงเทพ หรือ Mak’s Noodle ที่ฮ่องกง)

โดยรวมแล้วจานนี้เด่นที่ตัวเกี๊ยว ดังนั้นแล้วหากต้องการทาน แนะนำให้สั่งเกี๊ยวเปล่ากับน้ำซุป จะดีกว่ามาก

บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง
บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง

ส่วนจานที่สอง ลองสั่ง ราดหน้าเนื้อเต้าซี่ ถือเป็นจานที่ส่วนตัวแล้วเรียกว่า “อร่อยลืมหายใจ” เพราะแม้กระทั่งราดหน้าที่อร่อยระดับชั้นนำของกรุงเทพ ก็ไม่อาจปรุงออกมาได้แบบนี้

เนื้อก๋วยเตี๋ยวหอมกลิ่นกะทะไหม้แบบจางๆ น้ำราดขลุกขลิกมีรสชาติเต้าซี่ชัดเจนและจัดจ้าน รักษาความเค็มและไม่มันเอาไว้ได้ดีมากๆ จานนี้ถือว่าโดดเด่นในระดับเดียวกับติ่มซำสามเข่งแรกที่สั่งไปครับ (ชวนให้นึกถึงราดหน้าของร้าน Ho Hung Kee ยิ่งนัก)

ราดหน้าเนื้อเต้าซี่
ราดหน้าเนื้อเต้าซี่

บทสรุปการรีวิวทั้งหมด

โดยส่วนตัวแล้วเคยมีความเชื่อว่า ร้านอาหารฮ่องกงในไทยยังทำได้ไม่ถึงระดับที่ควรจะเป็น แต่ในระยะเวลาที่ผ่านมา กลับเห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และร้าน “ฮ่องกงลัคกี้” ถือเป็นร้านแรกที่ทำลายกำแพงความเชื่อดังกล่าวนี้

อาหารที่พวกเราลองสั่งมาทานแทบทุกจาน หากปิดตาชิม คงต้องบอกว่ามาจากฮ่องกงอย่างแน่นอน ถือเป็นร้านอาหารจีนสไตล์ฮ่องกงที่ดีที่สุดของเชียงใหม่ และสูสีกับห้องอาหารจีนฮ่องกงระดับชั้นนำตามโรงแรมใหญ่ๆ ในกรุงเทพมหานครได้สบายๆ โดยเฉพาะจานเด็ดอย่าง ซาลาเปาไส้หมูแดงอบ และ ราดหน้าเนื้อเต้าซี่ ถือเป็นสองจานหลักที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

แม้ว่าอาหารไม่ได้อร่อยหมดทุกจาน (ตามสภาพความเป็นจริง) แต่ก็อยู่ในระดับที่พอกล่าวได้ว่า หากไม่มีโอกาสไปฮ่องกงบ่อย อาจมาทานอาหารฮ่องกงที่ร้าน Hong Kong Lucky ชดเชยแทนได้

ราคาอาหารของร้านนี้ หากเทียบกับอาหารตามโรงแรม หรือราคาเฉลี่ยของอาหารใน จ.เชียงใหม่ อาจสูงไปสักนิด แต่ได้คุณภาพของอาหารที่อร่อยไม่แพ้กับที่ฮ่องกงเลยแม้แต่นิดเดียว