สถานที่ท่องเที่ยวในฮ่องกง ไม่ได้มีแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกแบบสวนสนุก Hong Kong Disneyland เท่านั้น เราขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่อย่าง Hong Kong Wetland Park (เรียกกันสั้นๆ ว่า เว็ตแลนด์ปาร์ค) สวนสาธารณะบนพื้นที่ชุ่มน้ำ (หรือ ป่าชายเลน) ทางตอนเหนือของฮ่องกง ตั้งอยู่ในเขต New Territories หรือเขตเมืองใหม่ กันอีกด้วย (ไปเกือบจะถึงเสิ่นเจิ้นละค่ะ)
Hong Kong Wetland Park แห่งนี้ไม่ธรรมดาเพราะได้รางวัลระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ สหรัฐอเมริกา จนนับไม่ถ้วน
แต่ก่อนเข้าเรื่อง ทีมงาน 2Baht ขอเล่าประวัติโดยย่อของ Hong Kong Wetland Park กันก่อนค่ะ
จากการพัฒนาเมืองสู่ Wetland Park แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
เนื่องจากฮ่องกงโซนหลักถูกพัฒนาจนไม่สามารถขยายได้อีกแล้ว ดังนั้นจึงมีการพัฒนาเมืองใหม่ขึ้นมาทางตอนเหนือของฮ่องกง เรียกว่า เขต New Territories แต่บริเวณนี้ยังมีบางส่วนที่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้อยใหญ่และต้นไม้นานาพันธุ์
ด้วยเหตุนี้กรมเกษตรและประมง ร่วมกับการท่องเที่ยวฮ่องกง จึงได้ตั้งโครงการ International Wetland Park and Visitor Centre Feasibility Study ในปี 1998 เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้าง Wetland Park ขึ้นมา
โครงการนี้ได้ข้อสรุปว่าพยายามอนุรักษ์สภาพพื้นที่เดิมให้มากที่สุด เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้จากธรรมชาติ พร้อมกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
Hong Kong Wetland Park ได้เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการเมือปี 2006 มีพื้นที่ 2 โซนหลัก ได้แก่
- โซนอาคารนิทรรศการ มีกิจกรรมให้เด็กๆ มาทดลองและเรียนรู้ไปพร้อมกัน บอกเล่าประโยชน์ของพื้นที่ชุ่มน้ำ ไปจนถึงเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (หมายเลข 3 ในแผนที่)
- โซนสวน Outdoor ตั้งอยู่บนพื้นที่ชุ่มน้ำ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินลัดเลาะ ศึกษาธรรมชาติทั้งต้นไม้นานาพันธุ์ และสัตว์ต่างๆ เช่น นกน้ำ ปลาตีน จระเข้ เป็นต้น (จากแผนที่เราสามารถเดินโซนนี้เป็นวงกลมก็ได้ ไล่ตั้งแต่หมายเลข 4 – 18 เลย)
โซนอาคารนิทรรศการ (Visitor Centre)
เมื่อเข้ามาจากทางเข้า เราจะเจออาคารนิทรรศการ (Visitor Center) ก่อนเป็นอันดับแรก จุดนี้เป็นจุดเชื่อมไปยังโซนสวนพื้นที่ชุ่มน้ำด้านหลัง ไม่ว่าจะอย่างไรก็เดินผ่านอาคารนี้ทั้งขาเข้า-ขาออก
อาคารนิทรรศการที่นี่มี 2 ชั้น เป็นห้องแอร์ทั้งหมด (ถ้าไปช่วงร้อนๆ ก็ดีตรงนี้แหละ) ภายในอาคารทำไว้ค่อนข้างดี เดินเข้ามาก็เจอที่นั่งเล่นริมทะเลสาบแบบเต็มๆ ตา วิวสวยงามมาก ชิวมาก พวกเราเกิดอาการรากงอกชั่วคราวเลยล่ะ
ใกล้กันยังมีร้าน Cafe de Coral ซึ่งเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ดสไตล์ฮ่องกง การสั่งคล้ายๆ กับไป McDonald’s, KFC ค่ะ บรรยากาศดีงาม สามารถนั่งทานข้าวริมกระจกชม วิวไปเพลินๆ ได้ด้วย
ในอาคารนิทรรศการนี้บอกเล่าเรื่องราวของระบบนิเวศ รวมถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติไปพร้อมกัน
และยังมีโซนของเล่นสำหรับเด็กๆ (แอบอิจฉาอ้ะ)
โซนนิทรรศการ และการจำลองเรื่องราวของป่าชายเลนก็ดูน่าสนใจ ทุกอย่างที่แสดงในอาคารนี้ดูจริงจัง เก็บรายละเอียดดีมาก รู้สึกได้ถึงความใส่ใจในการออกแบบ ไม่ดูกิ๊กก๊อกเหมือนนิทรรศการหลายแห่งที่เคยไปชม
พอออกจากโซน Visitor Centre เราขอแนะนำให้หยิบแผ่นพับที่เป็นแผนที่หน้าตาแบบนี้ไปด้วย เพราะในสวนกลางแจ้งด้านนอกมีเกมให้เล่นพอสนุกๆ กันนิดหน่อย เป็นเกมตามล่าหาป้ายนกตามจุดต่างๆ ทั้ง 5 จุด เจอที่ไหนก็เอากระดาษไปทาบ ใช้เหรียญขูดๆ เอา ไม่ต้องพกดินสอมาก็ได้นะ พกกลับบ้านเป็นของที่ระลึกได้ว่ามาเก็บนกไปครบแล้ว
โซน Outdoor: พาชมพื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งสีเขียวที่ตัดกับตึกสูงระฟ้าอย่างฮ่องกง
โซนสวน Outdoor ออกแบบเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งได้อย่างกลมกลืนและเป็นธรรมชาติมากที่สุด ขณะเดียวกันก็ยังคงมี facility ที่ดีมาก ทั้งทางเดินที่เป็นระเบียบ ป้ายบอกทางกำกับเป็นระยะๆ น่าประทับใจมาก จนแอบเสียดายที่มัวแต่โอ้เอ้ใช้เวลามาเที่ยวแค่ช่วงบ่าย จึงเดินชมยังไม่ค่อยเต็มอิ่มเท่าไหร่นัก
นอกจากนี้ ในสวนกลางแจ้งยังปลูกฝังเรื่องการรักษาธรรมชาติ มีทั้งป้ายอธิบายต้นไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ และการจำลองส่องสัตว์-แมลงเลียนแบบเสมือนจริงให้เด็กๆ ได้มาหัดเรียนรู้ เรียกได้ว่าเดินไปตรงไหน เจอตัวอะไร มีป้ายกำกับหมด และป้ายมีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษค่ะ
โซนเอาท์ดอร์มี อาคารนิทรรศการ ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ พร้อมการแสดงเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด เวลา 11.30 14.30 15.00 15.30 16.00 น. (การบรรยายเป็นภาษาจีนทั้งหมด)
จากนั้นเรามาเดินลัดเลาะชมป่าชายเลนกันบ้าง ที่ Wetland Park เค้าทำทางไว้ให้อย่างดี เดินสบายไม่เปื้อนเลนกันแม้แต่น้อย แอบดูเด็กๆ กลุ่มด้านหน้าส่องดูปลาตีนกันใหญ่เลย
อีกจุดหนึ่งที่คึกคักสำหรับผู้ใหญ่ นั่นก็คือ หอดูนก มีด้วยกันทั้งหมด 3 จุด (โซนหมายเลข 11, 13, 14) ช่วงที่เราไป โซนหมายเลข 13 คึกคักที่สุดแล้วค่ะ ตากล้องก็เยอะ นกก็เยอะ
นอกจากนี้ยังมีสวนผีเสื้อด้วยนะ แต่พอดีฟ้าครึ้มๆ เลยไม่ได้แวะกันค่ะ ก่อนจบ อำลาด้วย Pui Pui จระเข้น้ำเค็มเพศเมีย ที่อาศัยอยู่ในแถบริมน้ำนี้ตั้งแต่ก่อนเริ่มสร้างโครงการ Wetlank Park อีก จนเมื่อกลายมาเป็นสวนสวยๆ แห่งนี้โครงการจึงพา Pui Pui กลับมาอยู่บ้านหลังใหม่ สร้างกระจกนิรภัยไว้อย่างดี ส่งผลให้ Pui Pui กลายเป็นจระเข้เซเล็บ และเป็นสัญลักษณ์ของสวนแห่งนี้ไปเลย
บ้าน Pui Pui อยู่ใกล้ๆ กับอาคาร Visitor Centre พอเดินออกมาปุ๊บ ก็เจอทันทีค่ะ แต่จะเห็นนางมาเล่นน้ำให้ดูหรือเปล่าก็ขึ้นกับดวงอีกทีนะคะ (เรายังโชคดีได้เจอตอนขากลับค่ะ)
ข้อมูลและแผนที่การเดินทาง
- เวลาเปิด : ทุกวันเวลา 10.00-17.00 น. ปิดเฉพาะวันอังคาร (จำหน่ายตั๋วเวลา 9.30-16.00 น.)
- ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 30 HKD / เด็ก 3-17 ปี และผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 15 HKD / เด็กต่ำกว่า 3 ขวบฟรี
- เว็บไซต์ : wetlandpark.gov.hk
วิธีการเดินทาง
อย่างที่กล่าวไปช่วงต้นว่า Hong Kong Wetland Park อยู่โซนเมืองใหม่ ดังนั้นระยะการเดินทางค่อนข้างไกลพอสมควรนะคะ อย่างแรกให้ต่อรถ MTR สาย West Rail มาลงที่สถานี Tin Shui Wai ซึ่งเป็นท่ารถเพื่อต่อ Light Rail Tram (LTR) หรือรถรางท้องถิ่นของเขต New Territories แล้วขึ้นรถรางสาย 705 มายังสถานี Wetland Park
แผนที่การเดินทาง
หมายเหตุ สำหรับขากลับจะนั่งรถราง LTR สาย 705 เหมือนเดิมก็ได้ รถจะวิ่งเป็นวงกลมกลับไปยังสถานี Tin Shui Wai หรือหากจะนั่งรถย้อนกลับเส้นทางเดิมก็ขึ้นรถราง LTR สาย 706 ได้เช่นกันค่ะ (สาย 705 อาจจะไกลกว่าเล็กน้อย แต่อยากชมวิวเปลี่ยนบรรยากาศก็ไม่เลวนะคะ)
นอกจากนี้เรายังมีแอพการเดินทางแนะนำ สามารถอ่านได้จากบทความ 6 แอพสุดเจ๋ง สำหรับ Backpack เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง
สำหรับสาวๆ ขอแนะนำที่เที่ยวใกล้เคียงเป็น ฟาร์ม Hello Kitty ตั้งอยู่ก่อนสถานี MTR Tin Shui Wai เพียงแค่ 3 ป้าย ไหนๆ มาแล้วลองถือโอกาสแวะไปเที่ยวดูได้ แต่ถ้ามีเวลาน้อย 2Baht ขอแนะนำ Wetland Park อย่างเดียวก็พอ เผื่อเวลาเที่ยวไว้สัก 3-4 ชั่วโมงก็ดีนะ เพราะที่นี่กว้างขวางและมีอะไรให้ดูเยอะแยะ น่าประทับใจจริงๆ ค่ะ