คำชี้แจง รีวิวนี้ ทีมงาน 2Baht.com ได้รับการสนับสนุนที่พักจากโรงแรม Hop Inn ให้ทดลองใช้บริการเข้าพักที่โคราช โดยทางโรงแรมให้อิสระในการรีวิวเต็มที่ ความเห็นทั้งหมดเป็นของทีมงาน และขอขอบคุณโรงแรม Hop Inn มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ประสบการณ์ที่บ่มเพาะอันยาวนานจาก Ibis มาถึง Hop Inn
Hop Inn โรงแรมในเครือเอราวัณ กรุ๊ป ที่มีประสบการณ์บริหารโรงแรมเครือใหญ่ระดับโลกมานักต่อนัก ไม่ว่าจะเป็น Renaissance, Marriot, Holiday Inn, Mercure หรือแม้แต่ Budget Hotel อย่าง Ibis ก็ตาม
ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานเครือเอราวัณจึงหันมาทำธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดที่ครบครันความต้องการพื้นฐาน (Budget Hotel) เองดูบ้าง โดยตั้งในทำเลที่ค่อนข้างใจกลางเมือง 10 จังหวัดทั่วไทย และเตรียมพร้อมจะขยายอีก 7 จังหวัดในปี 2559
ฐานลูกค้า Hop Inn โคราชที่ไม่ใช่มีแต่นักท่องเที่ยว
โคราชประตูสู่ภาคอีสาน หัวเมืองใหญ่แห่งหนึ่งของไทย ก็เป็นหนึ่งในสาขาต้นๆ ของ Hop Inn ซึ่งไม่ใช่จะมีแต่นักท่องเที่ยวเท่านั้น ยังมีฐานลูกค้าที่ Hop Inn โคราช วางไว้ในเชิงเศรษฐกิจและการศึกษาด้วย อาทิ เซลล์แมนที่อาจจะเข้าพักหลายคืนติดต่อกัน กลุ่มนักศึกษาและอาจารย์ที่มาสัมมนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มสท.) ซึ่งคงเน้นมาทำงาน ค่ำไหนนอนนั่น มากกว่าการพักผ่อนนอนเล่นที่โรงแรมเหมือนกลุ่มนักท่องเที่ยวละแวกเขาใหญ่ หรือวังน้ำเขียว
การพยายามลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ของ Hop Inn คงไว้เฉพาะส่วนที่จำเป็นก็สำคัญ เช่น ไม่มีโซนร้านอาหารเพื่อที่จะไม่ต้องจ้างพนักงานหรือแม่ครัว มีพนักงานที่ล็อบบี้ 1-2 คนให้เพียงพอต่อการรับรองลูกค้าในแต่ละช่วงเวลา ทำให้สามารถกำหนดราคาที่พักในสัดส่วนที่ทุกคนเอื้อมถึง โดยยังอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างใจกลางเมือง
ด้วยเหตุนี้อัตราการเข้าพักที่ Hop Inn อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงมีลูกค้าเข้าพักหมุนเวียนอยู่ตลอด ราว 40% ในวันธรรมดา และ 70-80% ในช่วงวันหยุด ช่วยให้แบรนด์ Hop Inn สามารถแข่งขันราคาที่พักกับแบรนด์ท้องถิ่น หรือ แนว Service Apartment ได้อย่างสบายๆ ในระดับมาตรฐานสากล
ห้องพักที่ Hop Inn นครราชสีมา มีทั้งหมด 79 ห้องในราคาเดียวคือ 650 บาท มีให้เลือก 2 แบบ คือ
- Standard Double Room ห้องเตียงเดี่ยว 6 ฟุต จำนวน 56 ห้อง
- Standard Twin Room ห้องเตียงคู่ 3 ฟุต จำนวน 23 ห้อง
รีวิวจากประสบการณ์เข้าพักจริง
ทีมงาน 2baht.com ได้ลองเข้าพัก Hop Inn เป็นเวลา 1 คืน ก็ขอบรรยายจากประสบการณ์จริงดังนี้
โรงแรมตั้งอยู่บริเวณปากซอยสืบศิริ และยังมีทางเชื่อมกับถนนมิตรภาพซึ่งเป็นซุปเปอร์ไฮเวย์สายหลักของภาคอีสาน
หน้าโรงแรมมีลานจอดรถกว้างขวาง รองรับได้ราว 70 คัน ในช่วงกลางวัน – เย็น ที่จอดรถอาจจะแลดูน้อยหน่อย ~ 10 กว่าคัน แต่จะเริ่มคึกคักขึ้นในช่วงหัวค่ำ ตามสไตล์ค่ำไหนนอนนั่นจริงๆ แต่ถ้ามาเปิดม่านมาดูในตอนเช้าวันธรรมดาก็มีรถจอดเรียงรายราวๆ 30 คันเลยทีเดียว
ที่จอดรถของ Hop Inn ในช่วงกลางคืนจะมี รปภ.ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะเห็นว่ารถกระบะบรรทุกของค้างไว้หลังรถที่มีหลังคา (คันสีขาวด้านขวา) จอดค้างคืนแบบไม่ต้องกลัวของหาย
เมื่อมาถึงที่เคาน์เตอร์ check-in พนักงานต้อนรับจะถามว่าเราต้องการเตียงเดี่ยว (มีทั้งหมด 56 ห้อง) หรือเตียงคู่ (มี 23 ห้อง) ซึ่งก็เลือกได้ทันที ยื่นบัตรประชาชนให้พร้อมจ่ายเงินมัดจำค่า Key Card 100 บาท (จะคืนให้ตอน check-out) เห็นแบบนี้ก็รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเหมือนกันนะ เพียงแค่ยื่นพาสปอร์ตก็เข้าพักได้เหมือนกัน
ช่วงนี้จะมี Promotion เยอะอยู่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต KTC, อิออน หรือ ราชเทวีคลินิก อย่างไรลองสอบถามพนักงานต้อนรับที่เคาน์เตอร์ได้เลยนะคะ
ข้างๆ เคาน์เตอร์เช็คอินจะมีขนมขบเคี้ยว มาม่าคัพ โจ๊กคัพ ของใช้ส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ พวกแปรงฟัน ยาสีฟัน แป้งก็ยังมีจำหน่าย
ถัดไปด้านขวาจะเป็นตู้จำหน่ายเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็น นม น้ำผลไม้ M-150 น้ำอัดลม หรือชาเขียวก็มีครบครัน
ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นบาร์ให้นั่งเล่นได้ 3 ที่ มีน้ำร้อน และตู้กดกาแฟของเนสเล่ให้บริการ ด้านหลังบาร์ยังมีห้องน้ำทั้งชายและหญิงแยกกัน
เครื่องดื่มของเนสเล่จะมีให้บริการในช่วงเช้า 6.00 – 11.00 น. ซึ่งจะวางถ้วยให้กดได้ตามสะดวก มีทั้งเอสเพรสโซ คาปูชิโน มอคค่า หรือจะเป็นช็อคโกแลตร้อนก็ยังมี
ถัดจากโซนล็อบบี้จะมีประตูกระจกกั้นซึ่งจะต้องใช้ Key Card แตะถึงจะเข้าได้ (ในรูปถ่ายจากมุมขาออก ซึ่งต่างกับตอนขาเข้าคือเพียงกดปุ่มข้างผนังซ้ายเท่านั้น ก็เปิดประตูได้โดยไม่ต้องใช้บัตร)
ทางเดินจากลิฟต์มีไฟส่องสว่างดี พร้อมเครื่องเช็คควันติดสลับกันเป็นระยะ แต่ละชั้นจะมีทางเดินหนีไฟ 2 จุด และยังมี CCTV (กล้องวงจรปิด) ที่มีพนักงานต้อนรับคอย monitor อยู่ตลอดด้วย
การเข้าห้องพักจะต้องแตะด้วย Key Card ที่เราจ่ายค่ามัดจำตรงหน้าเคาน์เตอร์ ระบบของโรงแรมนี้ไม่มีกุญแจแล้ว
ไฟฟ้าในนี้จะทำงานก็ต่อเมื่อเราเสียบบัตร สังเกตตรงประตูจะมีกลอนให้ล็อคอีก 2 ชั้น รวมระบบ Key Card หน้าห้องก็ปลอดภัยถึง 3 ชั้นเลย
ห้องที่ 2baht.com จะรีวิวคือห้อง Standard Double หรือห้องเตียงเดี่ยว ขนาด 6 ฟุต บรรยากาศตอนเย็นๆ ขณะยังไม่เปิดไฟ แม้จะมีหน้าต่างแค่บานเดียว ก็ถือว่าสว่างอยู่นะ ตรงโต๊ะทำงานจะมีโทรศัพท์และน้ำดื่มฟรีให้ 2 ขวด
การตกแต่งในห้องแม้จะไม่หรูหราเท่า Ibis แต่ก็ครบทุกประโยชน์ใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นแอร์ ไฟส่องสว่าง ทีวี ตู้เย็น โต๊ะทำงาน ราวแขวนเสื้อ หรือแม้แต่ free wifi ก็มีให้ใช้ พบว่าเล่น youtube ได้ดี ไม่มีกระตุกแต่อย่างใด
ลองเปิดไฟดูบ้างจะเห็นว่าแสงออกขาวเหลือง ไม่ได้สว่างจ้าแบบนีออนติดเพดาน แต่ก็อยู่ในระดับที่นั่งพิมพ์ Notebook บนเตียงได้สบายๆ ส่วนเตียงนั้นพบว่าเป็นเตียงสปริง ซึ่งปกติทีมงาน 2baht.com จะนอนเตียงแข็งกว่านี้ จึงไม่ค่อยถูกโฉลกกับเตียงสปริงมากนัก (อันนี้สไตล์ใครสไตล์มันจ้า)
ข้างเตียงด้านขวาจะวางโต๊ะเล็ก 1 ตัว พร้อมปลั๊ก 3 ตาอีก 1 ช่อง ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นโต๊ะทำงานริมหน้าต่างพร้อมปลั๊กเช่นกัน
ถึงจะเป็น Budget Hotel ก็ใช้แอร์ Sharp รุ่น 12,000 BTU เย็นฉ่ำกันเลยทีเดียวกับห้องขนาด 19 ตารางเมตร สังเกตว่าแม้จะไม่มีการติดฝ้าเพดาน แต่ก็ไม่ได้เดินสายไฟให้รู้สึกเกะกะแต่อย่างใด
ด้านซ้ายของหน้าต่างจะเป็นราวตากผ้าเล็กๆ ตรงนี้มีไม้แขวนเสื้อให้ 3 อัน ถึงไม่มีตู้เสื้อผ้า แต่เราว่าเค้าคิดมาดีแล้วนะ เท่าที่เคยไปเข้าพักโรงแรมอื่นๆ ก็แขวนเสื้อเท่าที่จำเป็นอยู่ไม่กี่ตัว การที่ทำตู้เสื้อผ้ามันสิ้นเปลืองเนื้อที่โดยใช่เหตุ
ปรับสายตาลงมาข้างล่างบ้าง บริเวณโต๊ะทำงานยาวประมาณ 2 เมตรเศษ x กว้างประมาณ 0.5 เมตร สามารถวาง Notebook ทำงานได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวแอ่น เพราะตรงนี้จะก่อด้วยแผ่นคอนกรีตยาวๆ แล้วค่อยตกแต่งด้วยลายไม้ ข้างๆ มีปลั๊ก 3 ตา (เท่าที่สังเกตทั่วห้อง มีแต่ปลั๊กแบบ 3 ตานะ ใช้ Notebook ตรงไหนก็สบาย ไม่ต้องเอา adaptor มาต่อพ่วงให้ลำบากเหมือนโรงแรมยุคดั้งเดิม)
โต๊ะแน่นๆ นั่งทำงานไม่มีโยกคลอน วางสัมภาระได้สบาย (หรือจะวางใต้โต๊ะก็ยังได้) แต่มีข้อตินิดนึงตรงที่นั่งไขว่ห้างหรือนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้แล้วสอดขาเข้าไปไม่ได้ และมีเก้าอี้ให้เพียงตัวเดียว คือถ้ามา 2 คนแล้วคงต้องจัดสรรพื้นที่การนั่งทำงานใหม่
ใครที่มีของเยอะก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะจะมีที่เก็บของอยู่ใต้เตียงฝั่งซ้าย (ด้านที่ติดหน้าต่างให้อีก 2 ช่อง) สไตล์นี้คล้าย Ibis เลย ชอบมาก เป็นการออกแบบให้ประโยชน์ใช้สอยให้คุ้มค่ามากที่สุด
คราวนี้หันมาทิศตรงข้ามเตียงกันบ้าง จะเป็นทีวีจอแบนติดผนังของ Samsung ขนาด 32 นิ้ว ก็ชัดประมาณนึง (แต่เราเน้นเล่น Internet มากกว่า) ส่วนด้านซ้ายของทีวี (ติดกับประตูทางเข้า) จะเป็นห้องน้ำ และด้านขวาจะเป็นระเบียงซึ่งมีช่องระบายอากาศต่อจากห้องน้ำออกไปอีกที เรียกว่า วางแปลนห้องได้ดีทีเดียว
โซนห้องน้ำ มีผ้าเช็ดเท้าให้ 1 ผืน และผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ 2 ผืนเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหานะ บางคนอยู่บ้านก็ใช้เท่านี้แหละ จะสิ้นเปลืองทำไม ขอให้สะอาดก็เป็นพอ และที่ชอบมากคือชักโครกที่มาพร้อมกับสายฉีดชำระ พร้อมทิชชู่ให้ 1 ม้วน
แอบดูใกล้ๆ ปรากฎว่ามี tag ด้านนึงเขียน Hop Inn แล้วอีกด้านเขียนปี 2014 ซึ่งก็ดีนะ น่าจะช่วยในการปลดระวางผ้าเช็ดตัวที่อายุไขเกินในอนาคตได้ด้วย
สังเกตว่าตรงซิงค์จะใช้ซิงค์แบบแบนๆ เพื่อวางของได้ง่ายขึ้น ทดแทนเคาน์เตอร์ล้างหน้าที่มักเห็นตามโรงแรม 3 ดาวขึ้นไป ด้านข้างกระจกก็ยังมีชั้นวางของ พร้อมปลั๊ก 3 ตา 2 ช่อง ซึ่งก็วางของจุกจิกได้ครบพอดี
ด้านขวาสุดจะมีกระจกกั้นระหว่างโซนอาบน้ำ อันนี้ไม่ได้ทำเป็นตู้อาบน้ำ และไม่ได้ทำประตูไว้อาจจะมีปัญหาน้ำกระเด็นออกมาตรงโซนแห้งบ้าง ส่วนใครที่มีขวดแชมพู ครีมอาบน้ำ ก็สามารถวางได้บนเคาน์เตอร์ตรงกระจกกั้น
หมายเหตุ สาวๆ โปรดเตรียมไดร์เป่าผม หมวกอาบน้ำ cotton bud มากันเองด้วยนะ
โซนอาบน้ำ กว้างราว 80 ซม. น้ำไหลแรง โยกไปด้านซ้ายจะเป็นน้ำอุ่น (ขอเตือนว่าอย่าโยกไปเยอะ เพราะน้ำมันอุ่นเร็วจริงๆ เกือบสุก)
เราพบปัญหานิดนึงตรงที่ฝาท่อระบายน้ำที่พื้น เวลาอาบน้ำไปซักพักน้ำจะเริ่มเอ่อ (ทีแรกนึกว่าท่อตัน) แนะนำให้เปิดฝาเอียงๆ หน่อย จะระบายได้อย่างรวดเร็ว สรุปคือไม่ได้มีปัญหาเรื่องท่ออุดตัน แต่มีปัญหาเรื่องฝาสนิทเกินไปน้ำเลยระบายไม่ทัน – -” ส่วนด้านซ้ายก็จะมีที่ให้กดสบู่ แชมพู
แต่เท่าที่สังเกตุหลังจากอาบน้ำช่วงเย็นและช่วงเช้าพบว่า ไอน้ำอุ่นจะออกมาตรงประตูที่เชื่อมกับห้องนอนในตอนที่เปิดประตู ทำให้พื้นห้องนอนเหนอะๆ บ้างนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก เพราะแป้บๆ พื้นจะคืนสู่สภาพเดิมเองแหละ
ระเบียงห้องจะอยู่ด้านหลังห้องน้ำ วางคอมเพรสเซอร์แอร์แบบพอดีๆ และมีที่เขี่ยบุหรี่ไว้ให้ หากใครคิดจะตากผ้าคงลำบากนิดเพราะไม่มีสายหรือราวให้ตากผ้า อาจจะต้องตากกับระแนงซึ่งค่อนข้างเตี้ย
Hop Inn โคราช ทำเลที่พอดีๆ ในราคาเบาๆ
Hop Inn จ.นครรราชสีมา เปิดเมื่อปี 2557 ในทำเลที่เรียกว่าค่อนข้างใจกลางเมืองโคราช ใกล้แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ช้อปปิ้ง หรือแม้แต่ร้านอาหารชื่อดังในรัศมีไม่เกิน 5-6 กม. ในราคาเพียงคืนละ 650 บาท (ไม่มีอาหารเช้า)
- ห่างจากอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) 5.4 กม.
- ห่างจากเดอะมอลล์ โคราช 4.3 กม.
- แม้จะไม่มีอาหารเช้า ในละแวกนั้นก็หาอาหารรับประทานได้ไม่ยาก ร้านตามสั่งทั่วไปก็มีกระจายอยู่ริมถนนสืบศิริ
- ใกล้แหล่งร้านอาหารชื่อดังของโคราช เช่น ครัวสุวิมล นำขบวนเนื้อย่างเกาหลี ในรัศมีไม่เกิน 1 แยกไฟแดง หรือเลยไปอีก 2 ไฟแดงก็จะเจอกับร้านไก่ย่างสืบศิริ ร้านอาหารอีสานชื่อดังประจำจังหวัด
- ไม่ต้องกลัวหิวตลอด 24 ชั่วโมง เพราะมีทั้งโลตัสตลาด ที่เปิดตั้งแต่ 6.00 – 22.00 น. หรือแม้แต่ร้านโต้รุ่งที่เรียงรายกันหลายร้าน เลยไปอีกนิดก็ยังมี 7- Eleven ที่อยู่ทั้ง 2 ฟากฝั่งถนน ในระยะไม่เกิน 1 สี่แยก
สรุปในภาพรวมของ Hop Inn โคราช
- ขนาดห้องอาจจะเล็กไปบ้างแต่ไม่ถึงขั้นอึดอัดเพราะวางแปลนห้องไว้ดีทีเดียว ด้านประโยชน์ใช้สอยก็ถือว่าครบปัจจัยพื้นฐาน และมาตรฐานที่ Budget Hotel ควรมี ไม่ว่าจะเป็น ที่นอน ที่จอดรถ ทำเล ความสะอาด
- เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสุขภัณฑ์ที่นำมาใช้ ก็ไม่ใช่แบรนด์ไก่กา มีทั้ง Sharp, Samsung, Cotto, American Standard ผสมๆ กันไป
- ห้องใหม่ สะอาด ระบบความปลอดภัยครบ ทั้ง รปภ. CCTV ระบบล็อคหลายชั้นในแต่ละห้อง รวมทั้ง Smoke Detector
- ทำเลแม้จะไม่ถึงกลางเมือง แต่ก็ไม่ได้ชานเมือง มีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารค่อนข้างเยอะ ในรัศมีไม่เกิน 1 สี่แยกไฟแดง
- เรื่องสำคัญสุดในแง่ของราคาเพียงคืนละ 650 บาท บางทีมีโปรลด 50 บาทอีก ตกคนละประมาณ 300+ บาท ซึ่งถือว่าถูกมาก ทำให้ข้อติในจุดต่างๆ แทบจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลย
หากให้เลือกโรงแรมในเมืองอื่นๆ สำหรับ backpacker สายตะลอนเที่ยวที่ไม่ค่อยได้นอนโรงแรมก็ขอแนะนำ Hop Inn นะคะ (มาตรฐานเดียวกันหมดทุกเมือง มีแตกต่างกันในแง่ที่ตั้งเท่านั้น) แต่ถ้าต้องการโรงแรมไว้พักผ่อนหย่อนใจที่เพิ่มขึ้นอีกระดับ แนะนำว่าลองหา Budget Hotel ที่ครบครันมากกว่านี้ อย่างเช่น Ibis หรือไต่อันดับไปถึง Mercure น่าจะดีกว่าค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่พัก
- เว็บไซต์ : www.hopinnhotel.com
- พิกัด GPS : 14.959173, 102.062758
- เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ :
- สำนักงานใหญ่ 02-659-2899
- Hop Inn โคราช 044-355-039
- e-mail : nakhonratchasima@hopinnhotel.com
- มีห้อง 2 แบบ คือเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ราคาเท่ากัน 650 บาทต่อคืน / ฟรีไวไฟ / น้ำเปล่า 2 ขวด / ไม่มีอาหารเช้า
- check-in ตั้งแต่ 14.00 น. และ check-out ไม่เกิน 12.00 น.
- มัดจำคีย์การ์ด 100 บาท และคืนให้เมื่อ check-out