เที่ยวสนามฟุตบอล i-mobile Stadium “ปราสาทสายฟ้า” บ้านของบุรีรัมย์ยูไนเต็ด

ไม่ว่าจะเชียร์หรือเกลียด เชื่อว่าแฟนบอลชาวไทยทุกคนต้องยอมรับว่าทีม “เซาะกราว” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (Buriram United) ถือเป็นทีมฟุตบอลไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา ด้วยผลงานแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 3 สมัย (2554, 2556, 2557) และเข้าไปเตะชิงแชมป์เอเชียใน เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก เข้ารอบลึกๆ แทบทุกปี

ในส่วนของสนามเหย้า นิวไอโมบายล์สเตเดียม (New i-mobile Stadium) ฉายา “ปราสาทสายฟ้า” ความจุ 32,600 ที่นั่ง สร้างเสร็จในปี 2554 ก็ได้รับการยกย่องในฐานะสนามฟุตบอลที่แฟนบอลเข้ามาเชียร์อย่างล้นหลาม พร้อมด้วยบรรยากาศใกล้ชิดระหว่างกองเชียร์กับพื้นสนาม เพราะสร้างขึ้นเป็นสนามฟุตบอลเพียงอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องมีลู่วิ่งมาคั่น

สนามฟุตบอลไอโมบายล์สเตเดี้ยม และสนามแข่งรถ Chang International Circuit ที่อยู่ติดกัน ถือเป็นจิ๊กซอชิ้นสำคัญของยุทธศาสตร์ “สปอร์ตทัวริสซึ่ม” ของคุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรที่ต้องการผลักดันการท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ ด้วยกิจกรรมด้านกีฬาตลอดทั้งปี ซึ่งผลงานก็ประสบความสำเร็จดังที่หวัง บ่อยครั้งที่ จ.บุรีรัมย์ มีกิจกรรมด้านกีฬาหรืออีเวนต์บันเทิงต่างๆ จึงมีผู้คนเข้าร่วมอย่างล้นหลามชนิดว่าโรงแรมเต็มทั้งจังหวัด นักท่องเที่ยวต้องไปพักแรมที่จังหวัดข้างเคียงเลยทีเดียว

ล่าสุดเมื่อทีมงาน 2Baht.com มีโอกาสไปเยือน จ.บุรีรัมย์ จึงไม่พลาดที่จะไปดูด้วยตาตัวเองสักครั้งว่า อาณาจักรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ยิ่งใหญ่เพียงใด

Buriram United

การเดินทางไปสนามบุรีรัมย์ยูไนเต็ดไม่ใช่เรื่องยาก เพราะอยู่ใน อ.เมืองบุรีรัมย์เลย ห่างศูนย์กลางเมืองไม่ไกล วิธีการเดินทางแนะนำให้ตั้งต้นที่ วงเวียนพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 แล้ววิ่งตามถนน 219 มาเรื่อยๆ ผ่านวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ มาสักพัก จะเห็นสนาม นิวไอโมบายล์สเตเดี้ยม ตั้งเด่นอยู่ริมถนนฝั่งด้านขวามือ ไม่มีทางที่จะมองไม่เห็นได้แน่นอน (พิกัด Google Maps)

Buriram United Stadium Map

ถ้าไปวันที่ไม่มีการแข่งขันฟุตบอลหรือกิจกรรมอื่น สามารถจอดรถหน้าสนามได้ตามสะดวกเลย ตรงจุดที่จอดรถจะเป็นร้านขายของที่ระลึกของสโมสร หรือ Buriram United Mega Store ซึ่งเราจะมาเดินดูกันทีหลัง

Buriram United Mega Store

ตัวสนามฟุตบอลจะตั้งอยู่ข้างกัน (ไปตอนกลางวันจะร้อนหน่อยนะครับ ควรเตรียมร่มและหมวกไปด้วย) หน้าตาดูใหญ่โตโอฬารดังภาพ

Buriram United Stadium

สปอนเซอร์ของทีมคือบริษัท i-mobile เครือสามารถ ผู้ขายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของไทย เลยได้สปอนเซอร์เป็นชื่อสนามด้วย

i-mobile Stadium

ทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด มีสมญานามว่า “ปราสาทสายฟ้า” Thunder Castle ซึ่งมีที่มาจากเป็นเมืองปราสาทหิน ผสมกับตัวทีมสโมสรเดิมเป็นสโมสรของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงออกมาเป็น ปราสาท+สายฟ้า ในที่สุดครับ

แผนผังสนามแบ่งออกเป็นสแตนด์ 4 ทิศ โดยสแตนด์หลักฝั่งหน้าสนามคือฝั่งตะวันออก ใช้ชื่อว่า Yamaha Stand ตามสปอนเซอร์เช่นกัน

Buriram United Stadium

คำอธิบายสแตนด์หรืออัฒจันทร์ด้านต่างๆ โดยสแตนด์ฝั่งตะวันออก (E) เน้นจับกลุ่มผู้ชมทั่วไป ส่วนสแตนด์ฝั่งตรงข้าม (W) เน้นกลุ่มแฟนคลับของสโมสร หรือคนที่อยากสัมผัสบรรยากาศการเชียร์ฟุตบอลอย่างเต็มที่ สแตนด์ด้านข้างหลังโกลทั้งสองฝั่ง (N และ S) เป็นอีกราคาที่มุมมองอาจไม่ดีเท่าฝั่ง E/W แต่ก็มีจุดเด่นตรงที่ไม่ระบุเลขที่นั่งตอนซื้อตั๋ว

Buriram United Stadium

ด้านหน้าสนาม อีกฝั่งที่ไม่ใช่ร้าน Mega Store เป็นห้องน้ำ ร้านอาหาร (ปัจจุบันปิดบริการไปแล้ว) และร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่เปิดบริการในวันธรรมดาด้วย

Buriram United Stadium

น่าจะเป็น 7-Eleven แห่งเดียวในไทยที่มีป้ายสโมสรฟุตบอลแปะอยู่ด้วย เราเลยได้เห็น Rilakkuma ยืนคู่กับป้ายปราสาทสายฟ้า สีตัดกันสุดๆ

Buriram United Stadium

ตัวสนามบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมทุกวัน ชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แถมมีเจ้าหน้าที่พาเข้าชมด้วย การชมสนามต้องเข้าเป็นรอบ รอบละทุกครึ่งชั่วโมง (หยุดพักเที่ยง) เริ่มตอน 9.30 และรอบสุดท้ายตอน 16.00 น. สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ตรงหน้าประตูกลางได้เลย

Buriram United Stadium

Buriram United Stadium

อย่างที่เขียนไปแล้วว่า สโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เคยเป็นสโมสรของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) มาก่อน เราเลยยังเห็นอุปกรณ์บางอย่างในสนามใช้โลโก้ของเดิมก่อนเปลี่ยนชื่อสโมสร นั่นคือ Buriram PEA (รูปด้านขวามือ) เทียบกับโลโก้ปัจจุบัน (รูปด้านซ้ายมือ)

Buriram United Stadium

ระหว่างรอรอบเวลาชมสนาม เราสามารถเดินดูในห้องจัดแสดงรางวัลของสโมสรก่อนได้ ข้างในก็เป็นถ้วยรางวัลและภาพประวัติศาสตร์ต่างๆ ของสโมสร

Buriram United Stadium

เมื่อถึงเวลา เจ้าหน้าที่จะประกาศเตือนทางโทรโข่งให้เข้าชมสนามกัน สนามของบุรีรัมย์ยูไนเต็ด สร้างสถิติเป็นสนามฟุตบอลมาตรฐาน FIFA ที่ใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดในโลกคือ 256 วัน หรือประมาณ 8 เดือนกว่าๆ เท่านั้น เหตุผลส่วนหนึ่งที่สร้างเร็วคือใช้โครงสร้างเป็นเหล็กซะเยอะ ตามแนวทางวิศวกรรมก่อสร้างสมัยใหม่ด้วย

Buriram United Stadium

บริเวณใต้สแตนด์ที่นั่ง เห็นโครงสร้างเชิงวิศวกรรมอย่างชัดเจนว่าเป็นโครงเหล็กซะเป็นส่วนใหญ่

Buriram United Stadium

ปีนบันไดเข้ามาก็จะเข้าสู่สนาม เห็นตัวสนามหญ้าพร้อมสแตนด์ฝั่งตะวันตกที่มีตัวอักษร Thunder Castle เด่นเป็นสง่า

Buriram United Stadium

สนามเดินดูได้ทั้งหมดยกเว้นห้ามเดินลงไปเหยียบหญ้า ซึ่งอันนี้เป็นเหมือนกันหมดทุกสนามในโลก เพราะหญ้าคือหัวใจสำคัญของสนามฟุตบอล ต้องดูแลรักษากันเป็นอย่างดี เคารพกฎกันด้วยนะ

Buriram United Stadium

วันที่เราไปเที่ยวชมเป็นวันอาทิตย์ หลังการแข่งขันในวันเสาร์เพียง 1 วัน เลยเห็นเจ้าหน้าที่ต้องมาบำรุงรักษาหญ้ากันอย่างขะมักเขม้น

Buriram United Stadium

เช่นเดียวกับการชมสนามฟุตบอลระดับโลกทุกแห่ง เราสามารถนั่งที่นั่งของโค้ชและตัวสำรองที่ข้างสนามได้ด้วย ไม่รู้ว่าเก้าอี้ตัวไหนของคุณเนวิน แต่ย่อมเป็นฝั่ง Home หรือเจ้าบ้านแน่ๆ

Buriram United Stadium

ถ่ายย้อนขึ้นไปดูสแตนด์ฝั่ง East ที่เป็นสแตนด์หลักของสนาม

Buriram United Stadium

ตามปกติแล้ว เจ้าหน้าที่จะต้องพาไปดูห้องแต่งตัวของนักกีฬาด้วย แต่รอบของเราเจ้าหน้าที่ไม่ได้พาเข้าไปดู (โดยไม่ทราบสาเหตุ) จึงได้แต่ดูห้องแถลงข่าวหลังการแข่งขันแทน ตรงนี้สามารถถ่ายภาพจำลองตัวเป็นโค้ชหรือผู้จัดการทีมได้เต็มที่

Buriram United Stadium

การชมสนามใช้เวลาไม่นาน (ขึ้นกับถ่ายรูปเยอะหรือเปล่าด้วย) เมื่อชมตัวสนามเสร็จแล้วก็ได้เวลามาอุดหนุนของที่ระลึกในร้าน Mega Store ซึ่งก็เน้นเสื้อทีมฟุตบอลซะเป็นส่วนใหญ่

Buriram United Stadium

เครื่องกีฬา เสื้อใส่เล่น พวงกุญแจ โปสเตอร์ ของที่ระลึกอย่างอื่นๆ มีครบถ้วน จัดร้านสวยทีเดียว

Buriram United Stadium

สำหรับคนที่ซื้อเสื้อฟุตบอลแล้วอยากสกรีนเบอร์เสื้อ ที่ร้านก็มีบริการรับสกรีน โดยราคาแตกต่างกันตามแต่ละเบอร์ เริ่มต้นที่ 100 บาท

Buriram United Stadium

การซื้อเสื้อฟุตบอลจะต้องดูแบบเสื้อและเบอร์เสื้อที่แขวนไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะเขียนรายละเอียดใส่ฟอร์มให้เรา แล้วค่อยมารับของตรงแคชเชียร์ครับ

Buriram United Stadium

ในฐานะที่ผู้เขียนเคยชมสนามฟุตบอลชื่อดังในยุโรปมาแล้วหลายแห่ง ก็ต้องบอกว่าสนาม Thunder Castle นิวไอโมบายล์สเตเดี้ยมของทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ได้มาตรฐานเทียบเท่ากับทีมระดับกลางๆ ในพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จะมีติดอย่างเดียวก็ตรงอากาศมันร้อนไปหน่อยเท่านั้นเอง (เลยไม่ค่อยได้บรรยากาศยุโรปเท่าไร ฮา)

หลังจากชมสนาม และเห็นความเอาใจใส่ในรายละเอียดระดับนี้ เลยไม่แปลกใจว่าทำไมทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ถึงประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ ทางเราก็ขอเอาใจช่วยให้สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ AFC Champions League ให้ได้ในเร็ววันครับ