“ประเทศญี่ปุ่น” จุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวสวย และอาหารอร่อยหลากหลายเมนูให้เลือกสรร ทั้ง ปลาดิบ ราเมง เทมปุระ กิวด้ง เนื้อย่าง และอีกสารพัดเมนูที่ชาวไทยคุ้นเคยกันดี
ทีมงาน 2baht เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นมาเมื่อ 2-3 ปีก่อน และยังมีเพื่อนๆ ที่วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองสอบถามมาเสมอๆ เช่น “หาร้านอาหารอร่อยๆ ในญี่ปุ่นอย่างไรดี? มีร้านไหนแนะนำมั้ย?” เราจึงคิดว่ามาแชร์เทคนิคการหาร้านสุดอร่อยชนิดที่ว่าคุณเองก็สามารถเลือกร้านที่ชอบเองได้ ตามงบประมาณและสถานที่ท่องเที่ยวที่วางแผนไว้
เทคนิคของเราคือเรียนรู้ร้านอร่อยและประหยัดจากคนญี่ปุ่นเจ้าของพื้นที่นั่นเอง แหล่งข้อมูลสำคัญที่เราเลือกใช้งานมี 2 แห่ง ดังนี้
1. Tabelog (食べログ) รวมร้านอาหารในญี่ปุ่น พร้อมรีวิว
Tabelog เป็นเว็บรวบรวมข้อมูลร้านอาหารในญี่ปุ่น ก็เหมือนกับ Wongnai ที่บ้านเรา เว็บนี้เราใช้มาตั้งแต่ยังมีเฉพาะภาษาญี่ปุ่นอยู่เลยค่ะ เดี๋ยวนี้สะดวกขึ้นมากเพราะมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเพิ่มเข้ามาด้วย
วิธีการใช้งานก็ง่ายๆ เพียงแค่เลือกสถานที่ เลือกประเภทอาหารที่ชอบทาน ใครมีงบประมาณจำกัดก็สามารถคัดกรองร้านอาหารที่ตัวเองชอบได้อย่างง่ายดาย
![การค้นหาร้านอาหารในญี่ปุ่นด้วย Tabelog](http://2baht.com/wp-content/uploads/2016/03/Tabelog-Description.jpg)
สิ่งที่เราชอบใน Tabelog คือ คะแนนรีวิวจากมหาชนชาวญี่ปุ่น (0-5 คะแนน ยิ่งมากยิ่งดี) แถมยังมีแบ่งอัลบั้มรูปถ่ายอาหารไว้เป็นหมวดหมู่ เช่น หน้าร้าน รูปอาหาร รูปเมนู พร้อมแผนที่ช่วยให้การเสาะหาร้านอร่อยง่ายขึ้นไปอีก และใครที่เช่า Pocket Wifi ไปเที่ยวก็ยังสามารถจิ้มรูปอาหารเพื่อสั่งกับเชฟกันได้โดยตรง ไม่ต้องมีอุปสรรคเรื่องภาษากันอีกต่อไป
![รายละเอียดของร้านอาหารญี่ปุ่น รูปถ่าย และแผนที่ พร้อมคะแนนรีวิวใน Tabelog](http://2baht.com/wp-content/uploads/2016/03/Tabelog-Description2.jpg)
ระบบคะแนนใน Tabelog
หากต้องการเสาะแสวงหาร้านอาหาร “สุดอร่อย” ในญี่ปุ่นแล้วหล่ะก็ ควรทำความเข้าใจกับระบบคะแนนรีวิวใน Tabelog กันสักนิดเพื่อเลือกร้านอาหารได้อร่อยถูกใจกันมากยิ่งขึ้น
![ระบบคะแนน Tabelog](http://2baht.com/wp-content/uploads/2016/03/Tabelog-Score.jpg)
ระบบการคำนวณคะแนนรีวิวใน Tabelog ไม่ได้คิดแบบค่าหารเฉลี่ย แต่ใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักตามดีกรีของนักชิม จึงทำให้คะแนนที่ได้ค่อนข้างน่าเชื่อถือ แบ่งดาวออกเป็น 3 สี ได้แก่
- ดาวสีเหลือง หรือ ร้านอาหารที่มีคะแนนรีวิว <=3.49 ซึ่งสัดส่วนในปลายปี 2015 มีจำนวนร้านส่วนนี้ประมาณ 95.60%
- ดาวสีส้ม หรือ ร้านที่มีคะแนนรีวิว 3.50-3.99 คะแนน หรือร้านที่มีความอร่อยค่อนข้างโดดเด่น คิดเป็น 4.35% ของร้านที่รีวิวทั้งหมด
- ดาวสีแดง หรือ ร้านที่มีคะแนนรีวิวตั้งแต่ 4.00 ขึ้นไป เรียกว่าร้านอร่อยขั้นเทพเลยหล่ะค่ะ เพราะมีเพียงแค่ 0.05% หรือทุกๆ 1 ใน 200 ร้าน
ส่วนตัวแล้วร้านอาหารที่เราคิดว่าอร่อย ควรมีคะแนนตั้งแต่ 3 ขึ้นไป ยิ่งเยอะก็ยิ่งอร่อย แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีราคาค่อนข้างสูง ถ้าอยู่ในระดับที่อร่อยมากและราคายังรับได้ ประมาณ 3.5 คะแนนก็กำลังดีนะคะ
ใครที่สนใจอยากลองใช้งาน Tabelog ขอแนะนำเว็บภาษาอังกฤษที่ tabelog.com/en/ กันดูค่ะ ใช้งานได้ทั้ง PC และสมาร์ทโฟนเลย (ส่วนแอพมีแต่เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่น จึงไม่ค่อยอยากจะแนะนำเท่าไหร่)
2. GuruNavi (ぐるなび) ใช้งานผ่านแอพก็ได้ รองรับหลากหลายภาษา
อีกทางเลือกสำหรับการหาร้านอาหารในญี่ปุ่น ซึ่งเว็บนี้จะต่างจาก Tabelog ตรงที่เค้าคัดสรรร้านอร่อยมาให้เลย ธุรกิจหลักของ GuruNavi คือการเป็น “นายหน้ารับจองร้านอาหารในญี่ปุ่น” ที่ทำเป็นล่ำเป็นสันจนเข้าตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปลายปี 2008 จึงค่อนข้างน่าเชื่อถือในแง่ของการคัดเลือกร้านต่างๆ มาลงในเว็บ
![รายละเอียดของร้านอาหารญี่ปุ่น รูปถ่าย และแผนที่ ใน GuruNavi](http://2baht.com/wp-content/uploads/2016/03/Gurunavi-description.jpg)
อย่างไรก็ตาม เราสามารถค้นหาข้อมูลร้านอาหารต่างๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้องจองร้านผ่าน GuruNavi ดังนั้นถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเฟ้นหาที่กินอร่อยๆ กันค่ะ
![ระบบการจองร้านอาหารใน GuruNavi](http://2baht.com/wp-content/uploads/2016/03/Gurunavi-description2.jpg)
การแสดงข้อมูล GuruNavi มีทั้งภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษเช่นเดียวกับ Tabelog แต่เมื่อ GuruNavi มองด้านธุรกิจมากกว่าการเป็นแค่ระบบฐานข้อมูลร้านอาหาร จึงรองรับภาษาอื่นๆ มากขึ้น เช่น ภาษาจีน ภาษาเกาหลี และยังมีภาษาไทยด้วย (แต่เท่าที่ดูยังไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่)
ข้อดีของ GuruNavi คือมีแอพให้ใช้งานบนสมาร์ทโฟนเป็นภาษาอังกฤษด้วย เหมาะสำหรับการหาร้านอาหารแบบเร่งด่วนที่หน้างานเลย
![แอพ GuruNavi สามารถค้นหาร้านตามประเภทอาหาร ที่ตั้ง หรือแม้แต่งบประมาณ](http://2baht.com/wp-content/uploads/2016/03/GuruNavi-App.jpg)
ใครที่สนใจอยากลองใช้งาน GuruNavi ลองเข้าไปเลือกร้านอาหารได้ที่ gurunavi.com/en/
บทสรุป
การจะเลือกใช้ Tabelog หรือ GuruNavi คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์มากกว่า หากวางแผนเที่ยวแต่เนิ่นๆ ขอเชียร์ Tabelog เพราะว่ามีฐานข้อมูลร้านอาหารในญี่ปุ่น และมุมมองจากนักชิมที่หลากหลายกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับร้านที่ฮิตฮอตเอามากๆ การใช้บริการจองร้านอาหารผ่าน GuruNavi ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน และยังมีแอพภาษาอังกฤษให้ใช้งานบนสมาร์ทโฟนด้วย ซึ่งก็น่าจะทำให้คล่องตัวมากกว่า
ขอปิดท้ายด้วยร้านอาหารที่เราเคยไปทาน โดยคัดสรรมาจาก Tabelog คือ ร้านเทมปุระ Tsunahachi ที่ Shinjuku ได้คะแนนรีวิว 3.52 ซึ่งถือว่ามีความอร่อยค่อนข้างโดดเด่น ในราคาที่สมเหตุสมผล
![เทมปุระร้าน Tsunahachi ที่ทอดให้ทานแบบร้อนๆ จากเตาแล้วคีบมาวางให้บนจานที่ละเมนู อร่อยจนต้องต่อคิว](http://2baht.com/wp-content/uploads/2016/03/Tsunahachi.jpg)
ความอร่อยของร้าน Tsunahachi อยู่ในระดับที่ไปถึงร้าน 5 โมงกว่ายังต้องยืนรอคิวทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติกันเลย แถมวิธีการปรุงก็สดใหม่ เพราะเชฟจะทะยอยทอดเทมปุระทีละเมนู แล้วเสิร์ฟกันแบบร้อนๆ โดยเอาตะเกียบคีบจากเตามาวางบนจานให้เลยหล่ะค่ะ (ที่เราไปทานนั้นเป็น Tempura Set หรือเซ็ตมาตรฐาน มีเทมปุระอยู่ 5 อย่าง พร้อมข้าวและซุป ราคา 2,484 เยน ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยสำหรับความอร่อยและบริการที่ได้รับ)
ท่านใดที่อยากทานอาหารอร่อยๆ ในราคาประหยัดที่ญี่ปุ่นลองนำเทคนิคที่กล่าวมานี้ไปใช้ดูนะคะ ส่วนใครที่อยากรู้เคล็ดลับการเก็บเงินเพื่อท่องเที่