เมื่อพูดถึงประเทศมอนเตเนโกร (Montenegro) เราอาจคุ้นชื่อประเทศนี้จากการแข่งขันฟุตบอล หรือข่าวอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งได้รับพาสปอร์ตจากประเทศนี้ แต่ถ้าถามว่า “มอนเตเนโกร” อยู่ตรงไหน คนที่ตอบได้จริงๆ อาจมีไม่เยอะนัก
มอนเตเนโกร เป็นหนึ่งในประเทศขนาดไม่ใหญ่ที่แยกตัวมาจากยูโกสลาเวีย (Yugoslavia) เดิม ชื่อ “มอนเตเนโกร” แปลว่า “ภูเขาดำ” (Black Mountain) ตัวประเทศตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย (Croatia) อยู่ติดชายฝั่งทะเลอาเดรียติก (Adriatic) เหมือนกัน และมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกันมาก
ทีมงาน 2Baht มีโอกาสไปเที่ยวประเทศมอนเตเนโกร ในช่วงเดียวกับที่ไปเยือนประเทศโครเอเชีย จึงขอนำเรื่องของเมืองกอเตอร์ (Kotor) เมืองโบราณอายุสองพันกว่าปี ที่ทำเลที่ติดตั้งเด็ดขาดหาคนมาเทียบได้ยาก ด้านหลังพิงภูเขา ด้านหน้าเป็นอ่าวที่เว้าเข้ามาจากทะเล เห็นภูเขาด้านหน้าสะท้อนน้ำสวยงาม ดังภาพข้างบน
เมืองกอเตอร์ อยู่ไม่ไกลจากพรมแดนตอนเหนือของมอนเตเนโกร ที่ติดกับประเทศโครเอเชีย และบอสเนียเฮอร์เซโกวีนา ซึ่งเป็นอดีตประเทศสมาชิกของยูโกสลาเวียด้วยกัน ทำเลของเมืองกอเตอร์ถือว่าโดดเด่นจริงๆ หากดูแผนที่ด้านบนประกอบ จะเห็นว่า “อ่าวกอเตอร์” (Bay of Kotor) เว้าเข้ามาจากชายฝั่งทะเลด้านนอกหนึ่งชั้น จากนั้นมีช่องเขาแคบๆ เป็นทางน้ำไหลเข้ามายัง “ทะเลสาบเปิด” ด้านในที่แยกออกเป็นสองฝั่งชัดเจน และเมืองกอเตอร์เองก็ตั้งอยู่ริมด้านตะวันออกของทะเลสาบแห่งนี้
ประวัติของเมืองกอเตอร์
กอเตอร์เป็นเมืองเก่าตั้งแต่สมัยกรีกและโรมัน จากนั้นก็แชร์ประวัติศาสตร์ร่วมกับเมืองอื่นๆ ทางตอนใต้ของโครเอเชีย โดยเฉพาะเมืองดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก (เรียกได้ว่าถ้ามาเที่ยวดูบรอฟนิกแล้ว ก็ควรจะมากอเตอร์ด้วย เพราะถือเป็นเมืองใกล้ๆ กัน)
กอเตอร์ผ่านประวัติศาสตร์ช่วงโรมัน จากนั้นมาอยู่ใต้อาณัติของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ต่อมาก็สลับกันอยู่ใต้อิทธิพลของอาณาจักรเวนิซทางตอนเหนือของอิตาลี ซึ่งเป็นเจ้าทะเลในอดีต และอาณาจักรออตโตมันที่มีศูนย์กลางอยู่ในตุรกี
หลังจักรวรรดิออตโตมันเสื่อมอำนาจลง พื้นที่แถบนี้ (ที่เรียกว่าภูมิภาคดัลมาเชีย Dalmatia) ก็ย้ายไปอยู่กับจักรวรรดิออสเตรียในยุคราชวงศ์ฮัปเบิร์กแทน พอหลังสงครามโลกครั้งที่สองก็เข้าเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวีย ก่อนจะแยกตัวออกมาเป็นมอนเตเนโกรในปัจจุบัน
กอเตอร์เป็นเมืองชายฝั่งทะเลที่สำคัญในอดีต เป็นศูนย์กลางการค้าในทะเลแถบนี้ตั้งแต่สมัยของเวนิซ ชาวเมืองจึงสร้างกำแพงเมืองล้อมรอบเพื่อป้องกันการโจมตีของศัตรู ปัจจุบันกำแพงเมืองกอเตอร์ยังอยู่ และมีความสมบูรณ์มาก กำแพงมีความยาวรวมกัน 4.5 กิโลเมตร ตัวเมืองมีขนาดไม่ใหญ่นัก มีประชากร 13,000 คน
จากภาพด้านล่าง เราถ่ายจากด้านหน้าของเมืองกอเตอร์ จะเห็นคลองรอบเมือง กำแพงเมือง และภูเขาด้านหลังเมืองที่สามารถเดินขึ้นไปได้ด้วย (ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่นักท่องเที่ยวควรไปเยือน)
ปัจจุบัน กอเตอร์กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของมอนเตเนโกรไปแล้ว ช่วงฤดูร้อนจะมีเรือสำราญขนาดใหญ่ที่ล่องไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แวะมาจอดกันอย่างคับคั่ง (ช่วงที่เราไปมันหนาวเลยมีเรือมาจอดนิดเดียว) เมืองกอเตอร์จึงเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี แค่เดินผ่านหน้ากำแพงเมือง ยังไม่ทันเข้าเมืองก็มีเก้าอี้ยักษ์ให้ถ่ายรูปกันแล้ว
เราไปมอนเตเนโกรช่วงหลังปีใหม่ไม่กี่วัน บรรยากาศการเฉลิมฉลองช่วงคริสต์มาสยังหลงเหลืออยู่ บริเวณหน้าลานของเมืองก็มีการออกร้าน ขายอาหารกันนิดหน่อยพอเป็นสีสันแก่นักท่องเที่ยว จากภาพจะเห็นว่าสิ่งปลูกสร้างในเมืองกอเตอร์ยังสมบูรณ์มาก ถือเป็นเมืองเก่าแก่ที่อนุรักษ์ไว้อย่างดีอีกเมืองหนึ่งของโลก (และได้รับยกย่องเป็นมรดกโลกของ UNESCO มาตั้งแต่ปี 1979)
พ่อครัวมายืนปิ้งแฮมเบอร์เกอร์ให้ดูกันสดๆ ช่วงนั้นอากาศหนาวพอสมควร เบอร์เกอร์ร้อนๆ หน้าตาดูดีจึงขายดีมาก
เราได้กินอาหารเที่ยงในภัตตาคารไม่ไกลจากลานกลางเมือง เนื่องจากเมืองแถบนี้ติดทะเล อาหารหลักย่อมหนีไม่พ้นอาหารทะเล จานของเราเป็นกุ้งล็อบสเตอร์ใหญ่ยักษ์ พร้อมพาสต้าให้กินเป็นเครื่องเคียง
ของหวานเป็นแพนเค้กเสิร์ฟมากับไอศกรีม
ปีนกำแพงเมืองกอเตอร์
กินอิ่มหนำสำราญแล้วก็ได้เวลาออกกำลังกายกัน ด้านหลังของกอเตอร์เป็นภูเขาสูง ที่มีคนไปสร้างวิหารและป้อมปราการเอาไว้ มีทางเดินเป็นขั้นบันไดอย่างดี เดินขึ้นได้ไม่ยาก เป้าหมายของเราคือโบสถ์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ตรงกลางของภูเขาแห่งนี้นั่นเอง
ภาพด้านล่างนี้ถ่ายจากบนกำแพงเมืองแล้ว (มีหญ้างอกบนกำแพงเมืองด้วย) เดินวนไปด้านหลังเมืองก็จะเจอบันไดสำหรับปีนขึ้นภูเขาอีกต่อหนึ่ง
บ้านเรือนแถบนี้นิยมปลูกองุ่นกัน ช่วงที่ไปเป็นหน้าหนาวแล้วเลยเหลือแต่กิ่ง ใบหายหมด และเท่าที่มีโอกาสเดินรอบๆ พบว่าเมืองกอเตอร์มี “แมว” เยอะพอสมควร เดินไปไหนก็จะเจอแมววิ่งเล่นกันตลอด กลายเป็นขวัญใจนักท่องเที่ยวไปเลย
เดินๆ ขึ้นไปแล้วมองลงมาดูด้านล่าง ก็จะเห็นหลังคาของบ้านเรือนในกำแพงเมืองเก่าเป็นสีส้มสวยงาม ส่วนอาคารสมัยใหม่ที่เห็นในภาพนั้นอยู่ด้านนอกของกำแพงเมืองเก่าทั้งหมด
สภาพของทางเดินขึ้นเขาปูหินอย่างดี หินอาจขรุขระไปบ้าง ต้องเดินระวังหน่อย ด้านขวามือทำเป็นขั้นบันไดให้ก้าวขาง่ายๆ แต่บางจุดก็มีชำรุดบ้าง แถมการเดินสวนกันก็ทำได้ยากนิดหน่อย ถ้ามีคนเดินสวนลงมาแล้วเขาไม่หลบก็อาจต้องชะลอๆ เบี่ยงๆ แบ่งทางกันไปบ้าง
เดินขึ้นไปสูงขึ้น หันกลับมามองเห็นอ่าวกอเตอร์สวยงาม มุมแถบนี้กำลังสวย คือสูงประมาณหนึ่งพอเห็นหลังคาบ้านเรือน แผ่นน้ำ ทิวเขาในขนาดกำลังพอเหมาะ ถ้าขึ้นสูงไปอีกจะเห็นเมืองมีขนาดเล็กจนเกินไป
โบสถ์ขนาดเล็กแห่งนี้มีชื่อว่า Church of Our Lady of Health เป็นโบสถ์ขนาดเล็กนิดเดียว มีจุดชมวิวด้านหน้า แต่จุดที่เราคิดว่าถ่ายภาพสวยที่สุดคือเดินเลยโบสถ์ไปอีกหน่อย แล้วถ่ายย้อนลงมา นี่มันวิวโปสการ์ดชัดๆ เลย
ทางเดินบนภูเขาของกอเตอร์จะเป็นบันไดวน และมีต้นสนแบบนี้ขึ้นอยู่ตลอดทาง (เรียกสนพันธุ์ไหนก็ไม่ทราบจริงๆ)
จากภาพจะพอเห็นพวกเรือยอชต์ขนาดเล็กอยู่ในอ่าวไม่เยอะนัก แต่ไกด์เล่าว่าถ้าเป็นช่วงหน้าร้อน จอดกันเต็มอ่าวเลย แถมยังมีเรือสำราญใหญ่ยักษ์มาแวะจอดเที่ยวกันเยอะมากๆ
ไฮไลท์ของกอเตอร์คือการปีนกำแพงขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์อันสวยงาม แถมยิ่งถ้าอากาศเหมาะๆ เย็นๆ หมอกลงนิดหน่อยพอสวยงาม ก็เหมือนกับอยู่ในเทพนิยายเลยล่ะ (ใครเข่าไม่ดีก็น่าจะพอเดินไหว ในทริปของเรามีผู้สูงอายุที่เคยผ่าเข่าไปด้วย ก็สามารถปีนขึ้นไปด้วยกันได้)
บรรยากาศเมืองเก่ากอเตอร์
เนื่องจากเวลาและพลังอาจมีจำกัด เราเลยไม่ได้เดินไปสุดยอดเขา แต่ปีนขึ้นไปถ่ายรูปที่กลางทาง แล้วเดินลงมาชมวิวในเมืองแทน เมืองกอเตอร์เป็นเมืองเก่าแบบยุโรปที่มีถนนหนทางคดเคี้ยว มีเสน่ห์น่าค้นหา
ในภาพเป็นโบสถ์หลักของเมืองที่ชื่อว่า Cathedral of Saint Tryphon ถือเป็นโบสถ์คริสต์โรมันคาธอลิกที่มีบิชอปประจำอยู่ และดูแลพื้นที่แถบริมทะเลอาเดรียติกทั้งหมดด้วย
โบสถ์อีกแห่งชื่อว่าโบสถ์ของ St. Nicholas เป็นของศาสนาคริสต์อีกนิกายคือนิกาย Serbian Orthodox ของยุโรปฝั่งตะวันออก
แมว แมว แมว มีอยู่ทั่วไปในเมืองแห่งนี้ ใครเป็นทาสแมวก็ควรตามหาแมวกันดู
ลานอีกแห่งในเมือง มีต้นไม้ยักษ์ตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ หน้าต่างด้านหลังเป็น “พิพิธภัณฑ์แมว” ภาคเอกชน (ไม่มีแมวเป็นตัวๆ แต่เก็บรักษาของที่เกี่ยวกับแมว) น่าเสียดายว่าตอนที่เราไปกำลังปิดซ่อมอยู่ เลยไม่เปิดให้บริการ
ป้ายหน้าพิพิธภัณฑ์แมวแห่งเมืองกอเตอร์
ถึงแม้อาคารบ้านช่องจะเก่าแก่มาก แต่ร้านค้าข้างในก็ทันสมัยเฉกเช่นปัจจุบัน อย่างในภาพนี้คือ Aroma ซูเปอร์มาร์เก็ตที่หลบซ่อนตัวอยู่หลังประตูสุดคลาสสิก
บรรยากาศของตรอกซอกซอยภายในเมือง บ้านเมืองเก่าแต่สะอาด ไม่โทรม น่าเดิน
เดินเล่นริมอ่าว
ด้านนอกของเมืองกอเตอร์ ถ้าออกมานอกกำแพงเมืองก็จะเป็นอ่าวแล้ว มีลานเล็กๆ พอให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นชมบรรยากาศ ถ้าออกนอกประตูเมืองแล้วเลี้ยวซ้ายมาอีกนิดจะเป็นตลาดสด (ด้านซ้ายมือในภาพ) ซึ่งตอนที่เรามาตลาดก็วายหมดแล้ว
ทางเดินและที่จอดรถริมอ่าวกอเตอร์ เห็นวิวเป็นภูเขาด้านหลังที่เราปีนขึ้นไปก่อนหน้านี้
ทะเลเมืองฝรั่งนี่ถ้าบรรยากาศดีๆ มันก็สวยจริงๆ นะ เห็นเขาสะท้อนน้ำ เมฆสะท้อนน้ำแบบภาพนี้เลย
ทั้งหมดนี่ก็คือเมืองกอเตอร์ เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของประเทศมอนเตเนโกร ใครที่แวะมาเที่ยวโครเอเชีย ถ้ามีโอกาสก็ควรแวะมาเที่ยวมอนเตเนโกรด้วยจะได้คุ้มค่าการเดินทาง