ทีมงาน 2Baht มีโอกาสไปแอ่วเจียงใหม่กันเจ้า รอบนี้คิดโจทย์กันเองว่าอยากได้ที่พักสวยๆ ติดริมแม่น้ำปิง คืนละไม่เกิน 1,500 บาท ก็มาเจอกับโรงแรมชื่อ ลานนามนตรา (Lanna Mantra) เป็นบูติกรีสอร์ตขนาดกระทัดรัด ตกแต่งแบบล้านนา ห่างจากคูเมืองขึ้นไปประมาณ 5 กิโลเมตร (แผนที่ ลานนามนตรา)
เราเดินทางมาถึงที่พักก็ช่วงเย็นแล้ว ประตูด้านหน้าประดับด้วยโคมล้านนากันเลย
ที่จอดรถจะอยู่ทางด้านข้างประตูทางเข้าทั้งสองฝั่ง เข้าไปเช็คอินกันเถอะ!
ตรงนี้เป็นวิวจากล็อบบี้แบบ Open-Air เป็นบึงบัวร่มรื่นมาก
ล็อบบี้จากอีกมุมนึง ด้านหลังเป็นประตูทางเข้า
ห้อง Superior Room โซน Garden View
เราจองห้องพักแบบ Superior Room โซนริมสวน (ห้อง 412) น้องๆ พนักงานที่นี่ต้อนรับเป็นอย่างดี พาไปส่งถึงที่ห้องด้วย พอเปิดประตูห้องมาก็เจอบรรยากาศแบบนี้
(หากสังเกตที่เตียงดีๆ จะเห็นเส้นๆ ตรงกลาง ที่จริงเป็นเตียงเดี่ยว 2 เตียงที่เค้าเอามาต่อกันอะค่ะ ถ้าบ้านไหนมีเด็กเล็กก็อาจจะต้องเช็คกันหน่อยนะ)
จากนั้นขอไปเดินดูระเบียงห้องกันซักหน่อย ติดกับบึงบัวเลย ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารล็อบบี้ที่เราเช็คอิน และห้องอาหาร
กลับมาตรงห้องน้ำกันบ้าง ค่อนข้างใหญ่มีชุดคิทอาบน้ำและไดร์เป่าผมให้พร้อมสรรพ ถัดไปด้านหลังจะเป็นชักโครก และห้องอาบน้ำ
น่าเสียดายไปนิดที่โซนอาบน้ำไม่มีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ มีแต่ฝักบัว ส่วนด้านหลังมีช่องระบายอากาศ
ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำมีตู้เสื้อผ้า พร้อมตู้เซฟ และชั้นวางกระเป๋า
บรรยากาศโดยรอบ
รีสอร์ตที่นี่เป็นแนวลึก ตกแต่งแบบสวนให้ความรู้สึกร่มรื่น มีตุ๊กตาดินเผาน่ารักๆ วางแซมในสนามหญ้า
อาคารที่พักทั้งหมด 4 อาคาร ทุกอาคารสูง 2 ชั้น จึงรู้สึกสบายไม่ค่อยแออัด โดยเรียงเลขอาคารจากฝั่งถนน (ล็อบบี้ทางเข้า) คือ อาคาร 4 ไล่มาจนถึงฝั่งริมน้ำ เป็นอาคาร 1-2
อาคารที่เห็นด้านหน้านี้เป็นอาคาร 3 และถัดออกไปจะเป็นอาคารที่ใกล้แม่น้ำปิง คือ อาคาร 1 และ 2
สระว่ายน้ำที่นี่ขนาดไม่ใหญ่มากนัก เน้นมาแช่น้ำผ่อนคลายกันมากกว่า ริมสระฝั่งซ้ายมือคืออาคาร 1 และฝั่งขวามือคือแม่น้ำปิง
บรรยากาศริมน้ำตอนเย็นที่นี่กำลังสวย เพราะแดดสะท้อนน้ำพอดีเลยค่ะ
เรามาพักหลังจากเทศกาลลอยกระทงเล็กน้อย แต่น้ำแล้งไปหน่อย จึงมีแปลงปลูกผักริมตลิ่งด้วย ผักงามใช้ได้เลย 😀
หากใครอยากนั่งเล่นรับลมเย็นๆ ก็มีโต๊ะ-เก้าอี้ให้นั่งกันตามอัธยาศัย
อาหารเช้า
ห้องพักที่พวกเราจองไว้ ได้รวมอาหารเช้าแล้ว เริ่มเวลา 7.00-10.30 น. ห้องอาหารตั้งอยู่บริเวณเดียวกับล็อบบี้ริมสระบัว แต่เราเห็นโต๊ะริมสวนยังว่างอยู่ อากาศก็เย็นสบาย จึงย้ายมานั่งทานกันตรงนี้แทน ไม่ต้องพึ่งพัดลมกันเลยจ้า
ไลน์บุฟเฟ่ต์เป็นแบบโรงแรมทั่วไป คุณภาพกลางๆ ทานพออิ่มท้อง มีอาหารจำพวกขนมปัง เนย-แยม ไข่ดาว ออมเล็ต ไส้กรอก แฮม เบคอน แพนเค้ก ข้าวผัด ส่วนน้ำก็มี ชา-กาแฟ นม น้ำส้ม และผลไม้อีกนิดหน่อยค่ะ
บทสรุปการเข้าพัก
โดยรวมแล้วถือว่าการมาพักที่ Lanna Mantra คุ้มค่ากับราคา (พักคืนวันเสาร์ ปลาย พ.ย. ~ 1,400 บาท รวมอาหารเช้าและ free wi-fi) มีข้อติบ้างในเรื่องห้องตรงที่เตียงใหญ่หรือ Double Bed นั้นเป็นการเอา Single Bed 2 เตียงมาต่อกัน และไฟห้องอาจจะใช้โทนอุ่นเลยสีออกมาเหลืองๆ ไปหน่อย ซึ่งก็เป็นแค่จุดเล็กน้อยที่ไม่ได้มีอุปสรรคแต่อย่างใด
ส่วนใครที่ไม่มีรถส่วนตัวอาจจะลำบากไปบ้าง เพราะค่อนข้างไกลจากย่านคูเมืองไปนิด แต่โรงแรมก็มีบริการชัทเทิลบัสเข้าเมืองฟรี วันละ 2 รอบ (10.30, 18.00 น.) และยังมีจักรยานให้ใช้ฟรีอีกด้วย ส่วน ‘รถแดง’ ขนส่งมวลชนยอดฮิตของเมืองเชียงใหม่ก็มีวิ่งผ่านหน้าโรงแรมบ้างประปราย
หมายเหตุ เราจองด้วย Venere กันนะ ซึ่งราคาก็อาจปรับขึ้น-ลงตาม season ดังนั้นลองเช็คกันอีกครั้งก่อนจองนะคะ