ในยุคที่อุตสาหกรรมการบินเฟื่องฟู การแข่งขันด้านบริการ ราคา ความกว้างของที่นั่ง การตกแต่งภายใน หรือแม้แต่อาหารก็ถือเป็นปัจจัยที่แต่ละสายการบินให้ความสำคัญกันแทบทั้งสิ้น
สายการบินลุฟท์ฮันซ่าของเยอรมันที่อยู่ในธุรกิจด้านการบินมากว่า 60 ปี ให้ความใส่ใจในด้านอาหาร โดยตระหนักถึงรสชาติ และประสบการณ์พิเศษสำหรับผู้โดยสารทุกเที่ยวบิน จึงจัดโปรแกรมชื่อ “Star Chefs” สำหรับการให้บริการอาหารรสเลิศจากโรงแรม 5 ดาว ที่ระดับเกือบ 40,000 ฟุตจากภาคพื้นดิน
เว็บไซต์ 2Baht.com ได้รับคำเชิญจาก Lufthansa ให้ร่วมงานเปิดตัว Star Chefs คนใหม่ล่าสุดซึ่งมาจากประเทศไทยนี่เอง จึงนำภาพและข้อมูลมาฝากกันดังนี้
รู้จักกับโครงการ Lufthansa Star Chefs
ตั้งแต่ปี 2000 สายการบินลุฟท์ฮันซ่าได้คัดสรรเชฟระดับแนวหน้า หรือ “Star Chefs” มาช่วยออกแบบและจัดทำเมนูอาหารที่เปลี่ยนใหม่ทุกๆ 2 เดือน เพื่อให้ผู้โดยสารชั้น First Class และ Business Class ได้สัมผัสประสบการณ์อาหารอันเลิศรสในรูปแบบสากลที่ผสมผสานกับเมนูท้องถิ่นทั่วทุกมุมโลก ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวได้ถูกบรรจุในเที่ยวบิน กรุงเทพ-แฟรงเฟิร์ต ตั้งแต่ปี 2005
ในเดือนกันยายน 2015 ซึ่งจะครบรอบการเปลี่ยนเมนูจากสตาร์เชฟใหม่อีกครั้ง สายการบินลุฟท์ฮันซ่าได้จับมือกับโรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท เอ ลักซ์ชูรี่ คอลเล็คชั่น โฮเท็ล กรุงเทพฯ โรงแรมระดับ 5 ดาว เพื่อเสิร์ฟเมนูที่ออกแบบโดย เชฟลูก้า เชซารินี (Luca Cesarini) เชฟอาหารอิตาเลียนที่เป็นหนุ่มอิตาลีที่หลงรักการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ
เชฟลูก้า เชซารินีจบวิทยาลัยศิลปะด้านอาหารชื่อดังจากอิตาลี มีประสบการณ์จากโรงแรมหรือภัตตาคารดังๆ หลายแห่งทั่วโลก เช่น อิตาลี นิวยอร์ค จีน มัลดีฟส์ และยังชำนาญด้านอาหารอิตาเลียนจนได้รางวัล Best Italian Restaurant และ Best Restaurant Venue
ปัจจุบันเชฟลูก้า ดำรงตำแหน่งเอ็กซ์เซคคิวทีฟ เชฟ ของโรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit ดูแลห้องอาหารรอสซินีส์ (Rossini’s) โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก
คุณริชาร์ด แชปแมน ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ได้เอ่ยปากชมเชฟลูก้าให้เราฟังว่า ตั้งแต่เชฟลูก้าเข้ามาร่วมงานกับเชอราตัน ก็ทำให้โรงแรมได้รับคำชมในเรื่องอาหารเป็นอย่างมาก จนห้องอาหาร Rossini’s ได้เป็นสุดยอดร้านอาหารอิตาเลียนใน TripAdvisor 3 ปีซ้อน
เราแอบกระซิบถามน้องพนักงานในห้องอาหาร Rossini’s มาว่าตำแหน่ง Executive Chef คืออะไร? จึงได้อธิบายว่าปกติแล้วเชฟลูก้าจะเป็นผู้คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศในการทำอาหารจากทั่วทุกมุมโลก ตรวจตราความเรียบร้อยของครัวทุกครัว และขัดเกลาฝีมือให้กับเชฟทุกท่านในโรงแรม ถือเป็น “ผู้บริหารฝ่ายอาหาร” ซึ่งเป็นบริการหลักของโรงแรมเชียวนะ
เมนู Star Chefs เสิร์ฟบนภัตตาคารลอยฟ้า ที่ยังเอาใจคนรักอาหารไทย
ผู้โดยสารในชั้นเฟิร์สคลาสและธุรกิจของเที่ยวบินของลุฟท์ฮันซ่า ที่เดินทางระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเยอรมนี จะได้ดื่มด่ำกับอาหารอันแสนเลิศรสและวัตถุดิบชั้นดี ที่รังสรรค์โดยเชฟลูก้าได้ตั้งแต่เดือน กันยายน 2015 นี้เป็นต้นไป
อาหารในชั้นเฟิร์สคลาสและธุรกิจจะเสิร์ฟกันเป็นชุด 3 จาน (3-course menu) อาหารชุดประกอบด้วย
- Appetizer หรือ เมนูเรียกน้ำย่อย จะมีให้เลือก 3 แบบ คือ ซีฟู้ด เนื้อ และผัก
- Main Course หรือ เมนูจานหลัก มีให้เลือก 3 แบบ คือ เนื้อ ปลา และพาสต้า
- Dessert หรือ ขนมหวาน
ตัวอย่างเมนู Star Chefs ฝีมือการออกแบบโดยเชฟลูก้า
ทาง 2Baht.com ได้พูดคุยสั้นๆ กับคุณเดิร์ค โกรสมันน์ (Mr. Dirk Grossmann) ผู้จัดการสายการบินลุฟต์ฮันซ่าประเทศไทย และเชฟลูก้า ทั้งคู่ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ชอบอาหารไทยมาก”
คุณเดิร์คอยู่เมืองไทยมา 4 ปี แถมชอบเมนู “ผัดไทย” อีกด้วย เพราะทานได้ง่ายและไม่จัดจ้านเท่ากับ “ต้มยำกุ้ง” ส่วนเชฟลูก้านั้นทำงานในเมืองไทยรวมๆ แล้วประมาณ 5 ปี ประทับใจอาหารไทยมาก ถึงขั้นบอกกับเราว่า “ทานทุกวัน” และยังบรรจุเมนูอาหารไทยลงใน Lufthansa Star Chefs ให้เราเซอร์ไพรส์กันด้วย อาทิ ผัดไทยห่อไข่แบบโมเดิร์น ข้าวผัดแกงเผ็ดเป็ดย่าง
ตัวอย่างเมนู Star Chefs ของจริงเวลาเสิร์ฟบนเครื่องบิน
ภาพข้างต้นเป็นเพียงเมนูอาหารบางส่วนของ Star Chefs เท่านั้น และเนื่องจากอาหารจากสตาร์เชฟจะมีการเปลี่ยนใหม่ทุกๆ 2 เดือน ใครที่จะเดินทางกับ Lufthansa ก็สามารถดูข้อมูลเมนูอาหาร จากเว็บไซต์ของ Lufthansa กันได้เลยค่ะ
สาธิตการทำอาหาร Star Chefs โดยเชฟลูก้า ตัวจริงเสียงจริง
2Baht.com ได้รับคำเชิญจาก Lufthansa ประเทศไทยไปชิมอาหารของเชฟลูก้า ที่โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit ซึ่งเชฟลูก้าก็มาโชว์การทำอาหารให้ดูกันสดๆ อย่างเป็นกันเอง
เมนูที่เชฟลูก้าทำให้ชมคือ Tuna Carpaccio หรือ สลัดสเต็กทูน่า ซึ่งเป็นเมนู Star Chefs ที่ใช้เสิร์ฟจริงบนเครื่องบิน อาหารจานนี้เป็นการรังสรรเมนู “อาหารอารมณ์ดี” จากส่วนประกอบหลักอย่างทูน่า
ระหว่างที่สาธิตการทำอาหาร เชฟลูก้าได้บรรยายให้เราฟังจนเคลิ้มถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด
- สเต็กทูน่า เอาทูน่าชิ้นโตไปย่างให้สุกข้างนอก และกักเก็บความฉ่ำของทูน่าไว้ข้างใน
- ปรุงเดรสซิ่ง ด้วยเครื่องปรุง เช่น เกลือ พริกไทย น้ำมันมะกอก พอให้มีรสชาติแต่ไม่แย่งซีนเด่นของอาหารประเภทซีฟู้ด นอกจากนี้ยังเพิ่มวิตามินซีมาช่วยย่อยเอ็นไซม์จากทูน่าด้วยเลมอนลูกโตๆ น้ำฉ่ำๆ ที่สั่งตรงจากอิตาลีอีกด้วย
- ผักที่ใช้สำหรับโปรแกรม Star Chefs ก็ไม่ธรรมดา เพราะ import มาจากแหล่งวัตถุดิบชั้นดีทั่วโลก เช่น ผักร็อกเก็ตก็เอาพันธุ์ในป่าหรือ wild rocket ส่วนลูกเคเปอร์ก็สั่งมาจากแหล่งตอนใต้ของอิตาลี นอกจากนั้นยังมี black carrot, baby beetroot สดๆ
หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ! แล้วจะรักษาความสดของอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบกันได้อย่างไร?
ทางครัว LSG Sky Chefs หรือ ครัวใหญ่ของลุฟท์ฮันซ่าประจำประเทศไทย อธิบายให้เราฟังว่า อาหารที่นี่ปรุงสดใหม่แบบวันต่อวัน และใช้เทคโนโลยีควบคุมความสดของอาหารจากเยอรมัน ด้วยการแช่เย็นอาหารให้เย็นอย่างรวดเร็ว และ wrap ด้วยสุญญากาศเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มาจากความชื้น อากาศ อุณหภูมิ จึงมั่นใจได้ว่าอาหารทุกจานสดถึงมือผู้โดยสารแน่นอน!
ที่มา – Lufthansa