รีวิว Mak’s Noodle สุดยอดบะหมี่ชั้นแนวหน้าของฮ่องกง

เวลาพูดถึงหนึ่งในบะหมี่ระดับชั้นแนวหน้าของฮ่องกง หลายๆ คนอาจจะมีร้านที่ชอบแตกต่างกันออกไป แต่หนึ่งในร้านที่ถูกกล่าวถึงเป็นประจำนั่นก็คือ Mak’s Noodle ซึ่งที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นบะหมี่ชั้นดีเยี่ยมของฮ่องกง

วันนี้ 2baht จะพาไปชิมบะหมี่เจ้าดังกล่าวครับ

ประวัติความเป็นมาของ Mak’s Noodle

ร้าน Mak’s Noodle หรือที่คนฮ่องกงเรียกว่า Mak Un Kee เป็นร้านที่ขายแต่บะหมี่และเกี๊ยว ทางร้านระบุว่ากิจการเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1920 แต่กว่าจะเป็นที่รู้จักก็ปาเข้าไปในปี 1960 แล้ว ต่อมาในปี 1983 เจ้าของร้านดั้งเดิมเลิกประกอบกิจการแล้วให้ญาติมารับช่วงต่อ ส่วนลูกชายคนโตออกไปเปิดร้านของตัวเอง เพราะทะเลาะกัน (ร้านนั้นคือ Mak An Kee หรือที่รู้จักกันในนาม Chung Kee)

บะหมี่ของ Mak’s Noodle เป็นที่โจษจันเรื่องราคาเมื่อเทียบกับปริมาณต่อชามแล้วถือว่าแพงมาก ปกติแล้วชามบะหมี่ของฮ่องกงโดยทั่วไปจะมีขนาดปานกลาง (ไม่ใหญ่มากเท่าชามก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา) ราคาอยู่ประมาณ 30 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 120-150 บาท แล้วแต่อัตราแลกเปลี่ยน) แต่ Mak’s Noodle กลับมีขนาดเล็กเพียง “ชามข้าวต้ม” เท่านั้น แต่ดันคิดราคาเท่ากับชามปกติ ทำให้มีเสียงวิจารณ์ว่าทำไมถึงแพงขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม ความมีชื่อเสียงของ Mak’s Noodle นั้นก็ทำให้หลายคนมองข้ามในจุดนี้ไป สื่ออย่าง CNN เคยยกให้ Mak’s Noodle เป็นหนึ่งในบะหมี่ที่ดีที่สุดของฮ่องกง (CNN) ที่ไม่ควรพลาด เพราะด้วยรสชาติและการลวกเส้นที่สมบูรณ์แบบนั่นเอง

ปัจจุบัน Mak’s Noodle มีสาขาทั้งที่ Olympian City, China Hong Kong City, Causeway Bay, Jordan, Central (Wellington Street) และหนึ่งสาขาที่มาเก๊า ก่อนข้ามน้ำมาเปิดที่สิงคโปร์ครับ

รายละเอียดการเดินทาง

สำหรับรีวิวพาชิมในครั้งนี้ จะพาไปชิมที่สาขา Central ซึ่งจริงๆ อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Central มากกว่า ดูรายละเอียดตามแผนที่ด้านล่างได้เลยครับ

• เปิดบริการทุกวัน: 11.00 น. – 21:00 น.
• หมายเลขโทรศัพท์: 2854 3810
• สถานีรถไฟฟ้า MTR ที่ใกล้ที่สุด: MTR Central ทางออก D2, MTR Hong Kong ทางออก C

การเดินทางมายังสาขา Central ไม่ได้ใกล้แต่ก็ไม่ได้ไกลจากรถไฟฟ้ามากนัก ใช้เวลาเดินประมาณ 5-10 นาที เพียงแต่หาถนน Wellington Street ให้เจอ แล้วค่อยหาร้าน Mak’s Noodle ตั้งอยู่เลขที่ 77 (ด้านล่างป้ายจีนจะมีป้ายภาษาอังกฤษกำกับอยู่)

อาหารของ Mak’s Noodle

เมื่อเข้ามานั่งในร้าน เจ้าหน้าที่จะเอาอุปกรณ์และน้ำชายกมาวางให้ทันที เนื่องจากร้านนี้เน้นบะหมี่เป็นหลัก ทำให้แน่นอนว่าในเมนูต้องมีแต่บะหมี่ ซึ่งมีหลายแบบ แต่งวดนี้เราสั่งบะหมี่เกี๊ยวหนึ่งชามและเกี๊ยวน้ำอีกหนึ่งชามมาลองชิมกัน

ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองชามก็มาถึงโต๊ะ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าขนาดชามนั้นไม่ใหญ่มาก พอๆ กับข้าวต้มชามหนึ่งเท่านั้น (ดังนั้นแนะนำให้สั่งมาสอง)

ผมลองชิมเกี๊ยวน้ำก่อน จุดเด่นของเกี๊ยวน้ำอยู่ที่น้ำซุปที่กลมกล่อม (น้ำซุปนี้ใช้กับอาหารทุกจานในร้าน) ผสานเข้ากับกลิ่นของกุยช่ายขาวได้ดีมาก กลิ่นกำลังพอดี ทุกอย่างลงตัวมากครับ อย่างไรก็ตามซุปจะเน้นไปทางเค็ม คนที่ไม่ชอบเค็มอาจจะไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก ส่วนตัวกุ้งสดใหม่ เด้งมาก ทำออกมาได้ดี แป้งเกี๊ยวที่ห่อไว้ก็ทำได้เป็นอย่างดี จานนี้ไม่มีอะไรให้ต้องติ ยกเว้นแต่ขนาดที่เล็ก (ฮา)

ส่วนบะหมี่เกี๊ยว คล้ายกับเกี๊ยวกุ้งน้ำในแง่รสชาติ เพียงแต่มีบะหมี่เข้ามาแทน จุดนี้สำคัญมาก เพราะหากสังเกตบะหมี่ดีๆ แล้ว เส้นบะหมี่จะเล็กมาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของบะหมี่กวางตุ้ง (ขนาดเกือบจะพอๆ กับเส้นหมี่ขาวบ้านเรา หรือ เส้นพาสต้า angel hair ) ตรงนี้ต่างจากเส้นบะหมี่ของไทยที่ใช้สไตล์แต้จิ๋ว เส้นใหญ่กว่า

นอกจากนี้ Mak’s Noodle ยังลวกบะหมี่ออกมาจนได้ระดับ al dante ซึ่งก็คือเส้นที่สุกแต่ยังคงความกรุบกรอบและเหนียวเอาไว้ (แบบเดียวกับเส้นพาสต้า) ไม่ใช่ต้มจนเส้นนุ่มเละ และอืดอย่างรวดเร็วแบบที่เราทานกันในเมืองไทย (เหตุผลประการหนึ่งน่าจะอยู่ที่ตัวของเส้นด้วย ทำให้ผลออกมาเป็นแบบนี้)

แม้รสชาติจะเหมือนกับจานเกี๊ยวกุ้งน้ำ แต่ความสะใจในการทานต่างกันมาก เพราะเส้นที่ออกมาพอดีทำให้ได้ความกรุบกรอบในการเคี้ยวอย่างมาก เรียกว่าเพลินในการเคี้ยวเป็นอย่างยิ่งครับ แต่แน่นอนว่าจุดติเดียวคือ ให้มาน้อยเหลือเกินในราคา 39 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 200 บาท)

บทสรุปการรีวิว

ร้าน Mak’s Noodle ถือเป็นหนึ่งในร้านบะหมี่ชื่อดังซึ่งคนที่มาฮ่องกงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง อันที่จริงแล้วร้านนี้ยังมีบะหมี่เด็ดอื่นๆ อย่างเช่น บะหมี่คลุกซอสหอยนางรมโรยไข่กุ้ง หรือบะหมี่เนื้อ ซึ่งอร่อยไม่แพ้กัน แต่อย่างไรก็ตาม ราคาของร้านถือว่าค่อนข้างสูงมาก ดังนั้นต้องเตรียมเงินมาดีๆ รับรองว่าไม่ผิดหวังในแง่รสชาติครับ

คนฮ่องกงมักจะบอกว่า Mak สาขาที่อร่อยที่สุดคือสาขา Jordan ฝั่งเกาลูน (Kowloon) แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผมเคยทานทั้งสาขา Jordan และ Central แล้ว ถือว่าไม่ได้ต่างกันแบบสลักสำคัญมาก ดังนั้นใครที่อยากไปลิ้มลอง ก็สามารถไปได้ทุกสาขาครับ