สวัสดีค่ะ
หลายๆท่าน โดยเฉพาะท่านที่ทำงานใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพ อาจเคยประสบปัญหาน่าปวดหัวว่าอยากจะเที่ยวพักผ่อน แต่มีวันหยุดน้อยนิดแค่เสาร์อาทิตย์ นอนหายใจเพลินๆแป๊บเดียวก็วันจันทร์อีกแล้ว เฮ้อ! จะไปเที่ยวที่ไหนด้ายย เที่ยวในกรุงเทพก็มีแต่วัด ห้างฯ โรงหนัง ห้างฯ แล้วก็โรงหนัง ไปบ่อยจนเบื่อแล้ว (แถมค่าใช้จ่ายไม่ถูกเลยนะคะ กลางเดือนทีไรหมดสิทธิ์เที่ยวค่า)
วันนี้ เราขอนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวในกรุงเทพรูปแบบใหม่ (เค้ามีมานานแล้วแต่ยัยนี่เพิ่งรู้) เพิ่งไปมา รู้สึกสนุก น่าสนใจดี เลยขอนำข้อมูลและภาพมาฝากกัน เผื่อเป็นทางเลือกให้ทุกท่านในวันหยุดพักผ่อนครั้งต่อไป
นั่นก็คือ “การล่องเรือเที่ยวกับเรือท่องเที่ยวเจ้าพระยา” นั่นเองค่ะ
เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งคิดว่าน่าเบื่อค่ะ การล่องเรือในกรุงเทพใช่ว่าจะเที่ยวได้แต่วัดหรือนั่งดินเนอร์บนเรือนะคะ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆให้เดิน ดู ดม ชม ชิม ช้อป จนหมดวันก็ยังเที่ยวไม่หมดเลยเชียว
**ขอบอกไว้ก่อนนิดนึงว่า การเที่ยว Outdoor ในกรุงเทพ ค่อนข้างลุยและเดินเยอะค่ะ ยิ่งแดดเมืองไทยแรงถึงแรงมาก ร่างกายอาจพังได้ (ดีไม่ดีต้องลาวันจันทร์) แต่เนื่องจากทริปเรามีความยืดหยุ่นมาก สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามอัธยาศัย เลือกเที่ยวตามความสนใจและ level ความถึกค่ะ**
ข้อมูลเกี่ยวกับเรือและเส้นทางเรือ มาจากเว็บของเค้าเว็บนี้ค่ะ www.chaophrayaexpressboat.com/th/tourist/
รู้จัก เรือท่องเที่ยวเจ้าพระยา
เรือท่องเที่ยวเจ้าพระยา (Chao Phraya Tourist Boat) เป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่สำหรับนักท่องเที่ยวค่ะ เริ่มออกเรือจากท่าเรือสาทร ล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา แวะจอดตามท่าเรือที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว จนถึงท่าพระอาทิตย์แล้วย้อนกลับมาตามเส้นทางเดิม ดังนั้นเราสามารถที่จะแวะท่าไหนก็ได้ตามใจเราเลยค่ะ เที่ยวเสร็จก็กลับมารอเรือลำใหม่เพื่อไปเที่ยวต่อที่อื่น
บนเรือจะมีไกด์คอยบรรยายสถานที่สำคัญต่างๆ ตลอดสองข้างทางเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาจีนบ้างเป็นบางคำ เพื่อให้ความรู้และคอยเตือนว่าใกล้จะถึงท่าที่เราอยากแวะแล้วหรือยัง ฉะนั้นไม่ต้องกลัวเลยป้ายค่ะ
ตารางเดินเรือตามนี้เลยค่ะ (ในตารางบอกว่าเรือออกทุกครึ่งชั่วโมง แต่ที่เจอจริงๆ รู้สึกว่าเร็วกว่านั้นนะคะ แป๊บๆ เรือก็มารับแล้ว)
แผนที่ท่าเรือทั้งหมดในทริป 1-day ครั้งนี้ (ภาพต้นฉบับจากเว็บเรือนำเที่ยวเจ้าพระยา)
เริ่มต้นที่ ท่าเรือสาทร
เริ่มต้นจาก ท่าเรือสาทร (ใครไม่เคยมา เดินทางด้วย BTS ง่ายมากค่ะ ลงสถานีสะพานตากสิน จากนั้นเดินตามป้ายบอกทาง ลงมาปุ๊บก็จะเห็นท่าเรือเลยค่ะ)
ซื้อตั๋วเรือท่องเที่ยวเจ้าพระยาที่ช่องจำหน่ายตั๋วเรือท่องเที่ยวได้เลย เราซื้อแบบเหมา 1 วัน ราคาคนละ 150 บาท ขึ้นกี่รอบก็ได้ ได้ทั้งเรือธงฟ้าและธงส้มค่ะ
ซื้อตั๋วแล้วก็จะได้ตั๋วและคู่มือท่องเที่ยวแบบนี้
เข้าแถวรอแป๊บเดียว เรือก็มารับแล้วค่ะ ตอนที่ไปเป็นวันอาทิตย์ ประมาณ 10 โมงครึ่ง นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ค่อยมีคนไทยนะ ทำไมก็ไม่รู้
เรือหน้าตาแบบนี้
นักท่องเที่ยวเต็มลำเลย
ขึ้นเรือแล้ว พนักงานเก็บค่าโดยสาร (ถือกระบอกเหมือนกระเป๋ารถเมล์) ก็จะมาเก็บค่าโดยสาร เราซื้อตั๋วเหมาไว้แล้วก็สบายค่ะ แค่ยื่นตั๋วให้ เค้าจะฉีกตั๋วไว้เป็นสัญลักษณ์
รับลมเย็น ดูวิวสองข้างแม่น้ำเพลินๆ
อนาคตคงจะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะเพิ่ม
ท่าสี่พระยา
ท่าแรกที่เรือแวะรับ-ส่งคือ ท่าสี่พระยา ค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณท่าสี่พระยา
- ตึก River City รวมร้านอาหารและร้านขายของ (แต่สำหรับเรารู้สึกว่าเป็นของที่เน้นขายนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า)
- วัดไตรมิตร
- วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) Holy Rosary Church
- ธนาคารไทยแห่งแรกของประเทศ ซึ่งเป็นอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป (ปัจจุบันเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย)
แวะซักหน่อย ขึ้นจากเรือก็เป็นตึก River City เลย
เดินออกจากตึก River City เข้าซอยวานิช 2 ประมาณ 80 เมตร ก็จะถึงวัดแม่พระลูกประคำก่อนค่ะ
นอกโบสถ์ค่ะ คู่มือบอกว่าโบสถ์นี้สร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1786 หลังตั้งกรุงเทพ 4 ปี
พอดีตอนที่ไปถึงน่าจะเพิ่งเสร็จพิธี เลยมีโอกาสได้เข้าไปชมในโบสถ์ค่ะ
ส่วน ธนาคารไทยพาณิชย์ ปิดค่ะ เลยได้แต่กลับมาขึ้นเรือที่เดิมแล้วถ่ายจากเรือ ถ้าได้ดูใกล้ๆน่าจะสวยกว่านี้อีก
ท่าปากคลองตลาด
ท่าต่อไปที่เราเลือกแวะ คือ ท่าปากคลองตลาด ค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณท่าปากคลองตลาด
- ปากคลองตลาด (แน่ล่ะ)
- ยอดพิมานริเวอร์วอล์ค
- มิวเซียมสยาม
ลงท่านี้ปุ๊บ ก็เจอ ยอดพิมานริเวอร์วอล์ค ก่อนเลยค่ะ เป็น Shopping Mall สวยๆ ยาว 300 เมตรให้เดินเล่น ร้านอาหาร ร้านขนมเยอะไปหมด
บรรยากาศข้างในยอดพิมานริเวอร์วอล์คค่ะ
สภาพร่างกายตอนนี้ถูกแสงแดดโจมตี เหลือ HP ประมาณ 70/100 เลยแวะกินไอติมค่ะ ควันกรุ่น กำลังร้อนๆเลย ฮู้ยย
กินไอติมเสร็จ ชื่นใจ ร่างกายฟื้นฟูก็เดินทางต่อค่ะ
เดินออกไปก็เป็นปากคลองตลาดค่ะ หากใครอยากซื้อดอกไม้ ผลไม้ ขนม ฯลฯ สามารถหาซื้อได้ที่นี่ (แต่ดูเวลาตลาดเค้าด้วยนะคะ ตอนที่ไปเนี่ย ก็ไม่ค่อยจะมีแล้วล่ะค่ะ คู่มือแนะนำว่าถ้าอยากมาดู flower market ให้ได้บรรยากาศ ให้มาตอนตี 2 – ตี 4 ค่ะ เก๋ๆ)
ท่าเตียน
เราตัดสินใจที่จะไม่กลับไปขึ้นเรือแต่ใช้วิธีเดินเท้าไปยังท่าเตียนค่ะ ร้อนหน่อย แต่ระหว่างทางเราได้เจอร้านเท่ห์ๆ เกสต์เฮ้าส์สวยๆ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา และตึกแถวเก่าๆ ดิบๆ ให้ถ่ายรูปฮิปๆ
เดินเพลินๆก็ถึง ท่าเตียน ค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณท่าเตียน
- วัดโพธิ์
- วัดอรุณ (กำลังบูรณะพระปรางค์อยู่ค่ะ)
- ตลาดท่าเตียน (ไม่ต้องกลัวหาไม่เจอ เดินผ่านก็จะได้กลิ่นเลย ของดังของเค้าคือพวกปลาแห้งค่ะ)
แวะไหว้พระสักหน่อย พระพุทธไสยาสน์ (พระนอนวัดโพธิ์)
อับเฉา ตุ๊กตาหินที่ใช้ถ่วงน้ำหนักสำเภาที่ล่องจากจีนกลับมาถึงไทยในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ยังหาดูได้ที่นี่
นอกจากศาสตร์การนวดที่โด่งดังแล้ว ศิลปะผสมผสานไทยและจีน ก็เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของวัดโพธิ์ค่ะ
ท่ามหาราช
จากท่าเตียน ต่อเรือไป ท่ามหาราช ค่ะ
สถานที่ที่น่าสนใจบริเวณท่ามหาราช
- พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว
- ท่ามหาราช
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ท่ามหาราชนี้เค้าปรับปรุงพื้นที่ ทำเป็น community mall ชิคๆ มีร้านอาหารดังอยู่หลายร้าน หรือจะเดินไปรอบๆ บริเวณนั้นก็มีของกินให้เลือกเพียบเลยค่ะ
หิวแล้ว เหนื่อยแล้ว แวะตากแอร์ เติมพลังที่นี่แหละค่า
เมื่ออิ่มท้อง เราก็พร้อมออกเดินทาง กลับมารอเรือที่ท่า เริ่มขี้เกียจดูคู่มือแล้วค่ะ เรือไปจอดไหนก็ค่อยตัดสินใจว่าจะลงมั้ย อิอิ เที่ยวบ้านเราไม่ต้องกลัวหลง
ท่ารถไฟ
เรือพาเรามาแวะที่ ท่ารถไฟ ฝั่งศิริราชค่ะ (ความจริงเรือจะจอดท่าวังหลังค่ะ แต่เข้าใจว่าปรับปรุงอยู่ เลยมาจอดท่านี้แทน)
สถานที่ที่น่าสนใจบริเวณท่าวังหลัง
- พิพิธภัณฑ์เรือพระราชพิธี
- พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน
- ตลาดวังหลัง
พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน อยู่ตรงท่ารถไฟเลยค่ะ (ก็ตึกนี้เดิมเป็นสถานีรถไฟนี่นา) จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ โรงพยาบาลศิริราช และประวัติศาสตร์การแพทย์ของประเทศไทย
พิพิธภัณฑ์นี้สวย สนุก และไม่น่ากลัว มีอะไรให้เล่นเยอะเลยค่ะ
นอกจากนี้ อยากแนะนำ พิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์ ศิริราช ค่ะ อยู่ในบริเวณของคณะแพทยศาสตร์ ศิริราช ทำไว้ดีทีเดียว ส่วนนี้เองที่มี “ซีอุย”
ตื่นเต้นนิดๆ หลอนหน่อยๆ แต่น่าสนใจ ใครยังไม่เคยมา แนะนำให้ลองมาดูนะคะ
สามารถซื้อบัตรเข้าชมแยก หรือซื้อบัตรชนิดเข้าได้ทั้งสองพิพิธภัณฑ์ก็ได้ค่ะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่นี่เลย www.si.mahidol.ac.th/museums/th/m7.html
ถัดไปไม่ไกลนัก เป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์เรือพระราชพิธี ค่ะ
เส้นทางเดินเท้าจากท่ารถไฟไปพิพิธภัณฑ์เรือพระราชพิธี มีบางจุดจะเงียบๆ ดูเปลี่ยวๆนิดๆ ถ้ามีเพื่อนมาด้วยจะดีมากค่ะ
จากท่ารถไฟ เดินผ่านโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เข้าไปในวัดอมรินทรารมวรวิหาร ทะลุออกมาอีกประตูหนึ่ง จะมีบันไดขึ้นไปบนสะพานอรุณอัมรินทร์ และเดินตามทางเท้าบนสะพานไปทางด้านขวามือ (ย้อนไปทางถนนบรมราชชนนี) จนเจอบันไดลง
ช่วงบ่ายแดดแรงมากกก เที่ยวกรุงเทพ ขอแนะนำให้พกร่มกันยูวีไว้ ช่วยได้(บ้าง)ค่ะ
ลงมาปุ๊บก็เจอทางเข้าเลยค่ะ แลกบัตรเพื่อเดินตัดเข้าไป (ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นกรมการขนส่งทหารเรือนะคะ) ผ่านประตูอีกชั้นแล้วเลี้ยวขวาเข้าไปในชุมชน ทางจะดูงงๆหน่อย แต่ถามพี่ทหารเรือได้ เค้ายินดีช่วยบอกทางให้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
พิพิธภัณฑ์เรือพระราชพิธี จัดแสดงเรือสำคัญที่ใช้ในพระราชพิธีและเครื่องอุปกรณ์ต่างๆ
ค่าเข้าชม คนไทยคนละ 20 บาท ถ้าถ่ายรูปด้วย กล้องละ 100 บาท
ยอมรับเลยว่าไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ จำได้แต่ เรือสุพรรณหงส์ จากกลอนที่เรียนสมัยมัธยม พอมาเห็นรายละเอียดจริงๆนี่ ประณีตงดงามมากๆ ถือว่าคุ้มเลยค่ะ
ท่าพระอาทิตย์
หลังตากอากาศร้อนตลอดวัน ตอนนี้หมดแรงจะเดินย้อนกลับไปท่าเรือ เลยโบกแท็กซี่ไปลง ท่าพระอาทิตย์ ดีกว่า
สถานที่ที่น่าสนใจบริเวณท่าพระอาทิตย์
- สวนสันติชัยปราการและป้อมพระสุเมรุ
- นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ (ออกมาค่อนข้างไกลค่ะ อยู่ถนนราชดำเนินกลาง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทำไว้ดีและน่าสนใจมากอีกที่หนึ่งเลยค่ะ ถ้ามีโอกาส แนะนำให้ลองมานะคะ อังคาร-ศุกร์ เปิด 11 โมง – 2 ทุ่ม เสาร์-อาทิตย์ เปิด 10 โมง – 2 ทุ่มค่ะ)
- ถนนข้าวสาร (คู่มือแนะนำไว้ค่ะ คงจะน่าสนใจสำหรับต่างชาติ แต่สำหรับเรา เฉยๆค่ะ มันไม่ใช่แหล่งของเรา ใช่ม้า?)
นอกจากนี้ยังมี พิพิธบางลำพู ค่ะ เป็นอีกหนึ่ง Live museum ที่น่าสนใจ และเข้าชมฟรีค่ะ (แอร์เย็นด้วย อิอิ)
ลักษณะการชมคือจะมีเจ้าหน้าที่พาชมและบรรยาย สลับกับการดูและทดลองเล่นอะไรสนุกๆตามห้องต่างๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับกรมธนารักษ์ ส่วนที่สองเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชุมชนบางลำพูตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ท่าราชวงศ์
ชมพิพิธบางลำพูเสร็จก็เริ่มเย็นแล้ว ย่านถนนพระอาทิตย์เวลานี้เป็นแหล่งเดินเล่นชิลๆค่ะ อากาศสบายพอที่จะมาเดินเล่นและนั่งดูวิวแม่น้ำในสวนสันติชัยปราการ
ได้เวลามื้อเย็น ก็นึกถึงที่นี่เลยค่ะ ท่าราชวงศ์
แน่นอนค่ะ มีตั๋ว One day อยู่ เราก็ไปรอเรือที่ท่าพระอาทิตย์ ในตารางบอกว่าเรือท่องเที่ยวให้บริการที่ท่าพระอาทิตย์ถึง 16.30 น. แต่ป้ายที่ท่าเรือเขียนไว้ว่า 19.30 น.ค่ะ ยังไงก็เช็คกันอีกทีนะคะ
ทางเดินริมแม่น้ำตรงท่าพระอาทิตย์ ยืนดูพระอาทิตย์สีส้มดวงกลมๆตกลงหลังสะพานข้ามแม่น้ำ โรแมนติกเหมือนนะคะ (แบตหมดอดถ่ายพระอาทิตย์ตกค่ะ T-T)
สถานที่ที่น่าสนใจบริเวณท่าราชวงศ์
- วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่)
- เยาวราช
- พาหุรัด
- สำเพ็ง
ไม่ได้แวะวัดเล่งเน่ยยี่ค่ะ เพราะเค้าปิด 6 โมงเย็น ตลาดก็วายหมดแล้ว ตรงดิ่งไปหาของกินที่เยาวราชเลย ถึงฟ้าเพิ่งจะเริ่มมืด แต่ร้านดังๆก็มีคิวยาวซะแล้วค่ะ
เดินผ่านร้านค้า ดูป้ายไฟซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของเยาวราชเพลินๆ แวะกินของหวาน ปิดท้ายทริปด้วยมื้ออร่อย
นี่ขนาดยังแวะไม่หมดทุกที่นะคะนี่ แต่กลัวทริปพักผ่อนจะกลายเป็นทริปถึกซะก่อน
อย่างที่บอกไว้ค่ะว่าการล่องเรือเที่ยวนี้ยืดหยุ่นมาก ใครสนใจแวะที่ไหนก็ปรับเปลี่ยนทริปกันได้ตามใจชอบเลยค่ะ หวังว่ารีวิวนี้จะพอเป็นไอเดียให้ทุกท่านนะคะ
เสาร์อาทิตย์นี้ ลองไปเที่ยวกรุงเทพกันนะคะ 🙂