สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของเมืองซานฟรานซิสโกคือ Palace of Fine Arts ซึ่งเป็นอาคารทรงวิหารกรีก ที่สร้างขึ้นในปี 1915 เพื่อจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปในยุคนั้น จากนั้นพื้นที่ทั้งหมดที่เหลือถูกนำไปใช้เป็นที่อยู่อาศัย เหลือเพียงพื้นที่ของอาคาร Palace of Fine Arts แห่งนี้เหลือรอดมาได้แบบโทรมๆ
ปัจจุบัน Palace of Fine Arts ถูกปรับปรุงใหม่เป็นสวนสาธารณะ สถานที่พักผ่อนหย่อนใหญ่ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญสำหรับนักเดินทางผู้มาเยือนซานฟรานซิสโก ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ควรแก่การพูดถึง
ประวัติและที่มาที่ไปของ Palace of Fine Arts
เนื้อหาส่วนนี้เผยแพร่ครั้งแรกในบทความ พาเที่ยว Maker Media Lab ซานฟรานซิสโก ศูนย์กลางพบปะของเหล่า Maker โลก
ชื่อ Palace of Fine Arts มีคำว่า “palace” แปะอยู่ในชื่อ แต่ไม่ได้เป็นพระราชวังจริงๆ มันเป็นสิ่งปลูกสร้างเมื่อปี 1915 หรือมีอายุ 100 ปีพอดี มันถูกสร้างขึ้นมาสำหรับงานเอ็กซ์โป Panama–Pacific International Exposition ซึ่งมีศักดิ์ฐานะเป็นงาน world’s faire ในยุคนั้น จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการสร้างคลองปานามา ที่เชื่อมมหาสมุทรแอตแลนติกกับแปซิฟิกเข้าด้วยกัน
เมืองซานฟรานซิสโกเอาชนะเมืองอื่นๆ ได้สิทธิจัดงานเอ็กซ์โปครั้งนี้ ทางเมืองเลยแบ่งพื้นที่บริเวณริมทะเลทางตอนเหนือของเมืองสำหรับจัดงาน งานเอ็กซ์โปครั้งนั้นเต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ทางด้านวิทยาศาสตร์ เครื่องกล เครื่องยนต์ รถยนต์ ฯลฯ ที่เป็นของใหม่ที่สุดของโลกในช่วงเวลานั้น และถูกจดจำในฐานะงานเอ็กซ์โปที่กระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ของมนุษยชาติ
หลังงานผ่านพ้นไป สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ถูกรื้อถอนเพื่อปรับพื้นที่ไปทำอย่างอื่น (ปัจจุบันเป็นย่านที่อยู่อาศัย) เหลือเพียง The Palace of Fine Arts ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานศิลปะ ที่ยังหลงเหลืออยู่จนมาถึงปัจจุบัน
Palace of Fine Arts เป็นอาคารที่ถูกสร้างขึ้น (อย่างจงใจ) ด้วยสถาปัตยกรรมคลาสสิกแบบกรีกและโรมัน ตัววิหารหลักที่อยู่ตรงกลางเป็นอาคารโล่งๆ ไม่ได้ใช้ทำอะไรเป็นพิเศษ (ปัจจุบันก็คือเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้มาถ่ายรูป) แต่ด้านหลัง Palace of Fine Arts เป็นโกดังขนาดใหญ่ที่เคยใช้จัดแสดงสมัยงานเอ็กซ์โปนั่นเอง
อาคาร Palace of Fine Arts ถูกปล่อยให้ทิ้งร้างมานานหลายสิบปี จนสภาพทรุดโทรม ปรักหักพังไม่เหลือเค้าความสง่าเหมือนในอดีต ในปี 1964 สถานที่แห่งนี้ถูกทุบทิ้งและสร้างใหม่ด้วยเทคนิคการก่อสร้างที่ทันสมัยขึ้น อาคารโกดังด้านหลังเคยถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ชื่อ Exploratorium จนถึงปี 2013 (ปัจจุบัน Exploratorium ย้ายไปอยู่ริมทะเลบริเวณท่าเรือ Pier 15-17)
การเดินทางไปยัง Palace of Fine Arts
Palace of Fine Arts อยู่ทางตอนเหนือของซานฟรานซิสโก โดยอยู่ไม่ไกลจากสะพานโกลเด้นเกตอันมีชื่อเสียง ถ้าเดินทางไปชมสะพานจากในตัวเมืองซานฟรานซิสโก จะต้องผ่านละแวกของ Palace of Fine Arts สามารถแวะมาชมได้ไม่ยาก เพราะตัว Palace อยู่เกือบติดถนนใหญ่ที่เป็นถนนสายหลักไปสะพานโกลเด้นเกตเลย (ถ้านั่งรถเมล์มาสามารถแวะระหว่างทางแล้วเดินมาได้ นิดเดียวเท่านั้น ลงป้ายตรงหน้า Palace of Fine Arts ได้เลย มีป้ายทั้งฝั่งขาไปและขากลับ)
พาชม Palace of Fine Arts
ทางเข้าของ Palace of Fine Arts หน้าตาดังภาพ จะเป็นด้านข้างของตัววิหาร ส่วนอาคารที่เห็นอยู่ด้านซ้ายมือเป็นโกดังจัดแสดงนิทรรศการ
ตัวอาคารสามารถเดินวนได้รอบๆ โดยวิหารจะอยู่ติดกับบึงน้ำ (ด้านขวามือในภาพ) มีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านแถวนั้นมาเดินเล่นนั่งเล่นกันเพียบ
หน้าตาของวิหารแบบชัดๆ ถึงแม้จะเป็นของที่สร้างขึ้นมาใหม่ แต่ก็ยังสวยงามน่าชม
บริเวณด้านใน จริงๆ ถือว่าตัววิหารไม่มีอะไรให้ชมดู เน้นถ่ายรูปอาคารสวยๆ และกินบรรยากาศมากกว่า ถ้าอากาศดี บรรยากาศจะดีมาก
หลังคาเพดานของโดม Palace of Fine Arts
ภายในโกดังที่ติดกับตัววิหาร มีนิทรรศการแนะนำประวัติความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ และงานนิทรรศการ Panama-Pacific International Exposition (PPIE) ที่ครบ 100 ปีพอดีในปีนี้ (งานจัดปี 1915)
แผนผังของการจัดงาน PPIE ในอดีต จะเห็นว่า Palace of Fine Arts เป็นแค่แลนด์มาร์คจุดหนึ่งของงาน PPIE เท่านั้น แต่ปัจจุบันก็เหลือเพียงอาคารนี้แห่งเดียวที่เหลือรอดมา
ภายในโกดังด้านหลังวิหาร ตอนนี้ใช้ประโยชน์หลายอย่าง เป็นทั้งคาเฟ่ ที่จัดแสดงนิทรรศการ และพื้นที่ให้เอกชนเช่าทำสำนักงานหรือเวิร์คช็อปต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมหรือเทคโนโลยี
จุดที่ถ่ายรูปสวยที่สุดของ Palace of Fine Arts ต้องเดินอ้อมมายังบึงน้ำฝั่งตรงข้าม เผอิญวันที่เราไปเยือน ฟ้าไม่ค่อยเปิดเท่าไร สภาพแสงเลยไม่สวยเท่าที่ควร
โดยสรุปคือ Palace of Fine Arts เป็นแหล่งท่องเที่ยวชิวๆ ที่เหมาะกับคนอยากเที่ยวเก็บรายละเอียด แวะมาดูบรรยากาศ เดินสำรวจ นั่งเล่นบนสนามหญ้า นำแซนด์วิชหรือขนมมาทานกันแบบสบายๆ แต่ถ้าหวังจะมาดูแหล่งท่องเที่ยวที่มีของให้ดูเยอะๆ อาจไม่ค่อยตรงกับแนวทางแบบนั้นสักเท่าไร