มีโอกาสไป business trip ที่สิงคโปร์รอบล่าสุด ทางเจ้าภาพจัดให้นอน โรงแรมแพนแปซิฟิก Pan Pacific ใกล้กับอ่าว Marina Bay เลยมารีวิวให้ดูกันครับ
รู้จักโรงแรมเครือ Pan Pacific
บริษัท Pan Pacific Hotels and Resorts เป็าเจ้าของโรงแรมแบรนด์ Pan Pacific และ Parkroyal ที่มีสาขาประมาณ 30 แห่งทั่วโลก ถือเป็นเชนโรงแรมไซส์เล็กหน่อย เน้นเฉพาะภูมิภาคเอเชียและอเมริกาเหนือ
เดิมทีโรงแรมเครือ Pan Pacific ริเริ่มโดยกลุ่มบริษัทโตคิว (Tokyu) ของญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันขายให้บริษัท UOL ของสิงคโปร์แล้ว เรียกได้ว่าปัจจุบัน Pan Pacific ถือเป็นโรงแรมสัญชาติสิงคโปร์ได้เต็มปาก
ในบ้านเรามี Pan Pacific มาเปิดหนึ่งแห่ง แต่เป็น Serviced Apartment ชื่อ Pan Pacific Serviced Suites Bangkok ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ ส่วนโรงแรมที่มาพักในสิงคโปร์รอบนี้คือ Pan Pacific Singapore ถือเป็นโรงแรมเรือธงที่เป็นสัญลักษณ์อันดับหนึ่งของเครือนี้เลย
ทำเลที่ตั้ง
ที่ตั้งของโรงแรมก็ถือว่าอยู่ใน Prime Location ชนิดว่าดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว นั่นคืออยู่ริมอ่าว Marina Bay แลนด์มาร์คสำคัญของประเทศสิงคโปร์ โดยจะอยู่ใกล้กับโรงละคร Esplanade ที่เป็นรูปทุเรียน (ห่างไปเพียงข้ามถนน 2 ที) และอยู่ติดกับศูนย์ประชุม Suntec City ซึ่งคนที่มาทำธุรกิจหรืองานสัมมนาในสิงคโปร์ ก็มีโอกาสสูงมากอยู่แล้วที่งานจะจัด Suntec ดังนั้นถ้าได้นอน Pan Pacific ก็จะถือว่าสะดวกมากๆ
ตึกติดกับโรงแรมยังมีห้าง Marina Square หาของกินของใช้ได้ไม่ยาก (เรามีโอกาสกิน Wee Nam Kee หนึ่งในข้าวมันไก่สิงคโปร์เจ้าดัง ก็อยู่ในห้างนี้) ส่วนจะเดินไปยังชิงช้าสวรรค์ Singapore Flyer ก็อยู่ไม่ไกลนัก ถือว่าเป็นโรงแรมที่ทำเลดีเป็นอันดับต้นๆ เลย (ช่วงแข่งรถ F1 ถือเป็น prime location ที่ห้องพักราคาแพงมาก เพราะถนนแถบนี้ใช้แข่งรถ)
ภาพด้านล่างนี้ถ่ายจากหลังคาดาดฟ้าของ Esplanade จะเห็น Singapore Flyer อยู่ด้านขวามือ ส่วนโรงแรม Pan Pacific คือตึกซ้ายมือสุด ใกล้ๆ กันก็มีโรงแรม Mandarin Oriental อยู่ด้วย
สถาปัตยกรรม
โรงแรมแห่งนี้มีความสูงถึง 38 ชั้น ถือเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในโซน Marina Square โดยชั้นบนสุดคือชั้น 38 เป็นคลับเฮาส์ที่ชื่อว่า Pacific Club เห็นวิวอ่าว Marina Bay แบบเต็มตา ต้องขึ้นลิฟต์จากด้านนอกอาคารขึ้นไป
ตัวอาคารเป็นรูปสามเหลี่ยม มีปล่องตรงกลางทะลุตลอด ห้องพักแขกจะกระจายตัวกันอยู่แต่ละด้านของสามเหลี่ยม ทุกห้องเห็นวิวด้านนอกอาคารหมด (เห็นฝั่งไหนก็อีกเรื่องนึง)
ถ้าอยู่ด้านล่างตรงล็อบบี้ จะทะลุเห็นเพดานเลย โรงแรมเลยยิ่งดูสูงมาก
มองจากด้านบนลงไปข้างลง
มองไปที่ฝั่งอื่นๆ ของสามเหลี่ยม เป็นโรงแรมที่ดูอวกาศดีใช้ได้เลย
บริเวณล็อบบี้ตรงกลางก็ตกแต่งเป็นโดมล้อมรอบที่นั่งเอาไว้ ถ้าลงลิฟต์มาจะเห็นล็อบบี้ดูสวยงามดีมาก
ภายในห้องพัก
ห้องพักที่ได้อยู่ชั้น 19 สูงพอสมควร ภายในห้องกว้างขวาง แต่โรงแรมนี้ไม่มีระเบียง โดยมีกระจกบานใหญ่แทน พร้อมกับม่าน 2 ชั้นคือม่านแบบบาง เอาไว้กันแสงแต่มองทะลุได้บ้าง กับม่านหนาเตอะที่ปิดกั้นทุกอย่าง การควบคุมม่านต้องใช้รีโมทที่แปะไว้ตรงข้างๆ เสา (ไม่ค่อยเคยเจอเท่าไร ลองเล่นก็แปลกๆ สนุกดี)
วิวของห้องที่ได้พัก หันเข้าหาศูนย์ประชุม Suntec และโรงแรม Marina Mandarin ที่อยู่ติดกัน ที่เห็นตึกสูงๆ ไกลๆ นั่นคือ Raffles City และ Swissotel the Stampford (น่าเสียดายว่าไม่ได้นอนฝั่งที่เห็น Marina Bay ซึ่งเป็นฝั่งที่เห็นการแข่งรถ F1 Night Race ด้วย)
ขนาดห้องโอ่โถงพอสมควร จุดเด่นที่สำคัญคงเป็น “ห้องน้ำ” แบบกระจกโปร่งใสกันสุดๆ (เขามีม่านให้ปิดนะครับ) ถือเป็นเอกลักษณ์อีกประการหนึ่งของโรงแรมแห่งนี้
โต๊ะทำงาน พร้อมโทรศัพท์ ปลั๊กไฟ โคมไฟ สายแลน (แต่ในห้องก็มี WiFi ให้อยู่แล้ว) เก้าอี้เป็นยี่ห้อดัง Herman Miller นั่งสบายมาก… จนอยากได้ไปใช้ที่บ้านเลยทีเดียว
ข้างเตียงมีอุปกรณ์ควบคุมไฟในห้อง โทรศัพท์ และนิตยสาร ปลั๊กไฟของโรงแรมนี้เป็นแบบกึ่งๆ Universal คือรองรับปลั๊กแบบขาแบนของบ้านเราด้วย ไม่ต้องใช้หัวแปลง
โซนห้องน้ำออกแบบมาอย่างดี ฝั่งซ้ายมือจะเป็นที่วางกระเป๋าพร้อมตู้เซฟ ด้านหน้าคืออ่างล้างหน้า ประตูกระจกที่เห็นด้านซ้ายคือห้องส้วม ส่วนฝั่งขวามือที่ตกขอบภาพไปคือห้องอาบน้ำ
อย่างที่เขียนไปแล้วว่าห้องอาบน้ำใสแจ๋วเห็นไปถึง Suntec เลย ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่อย่างมาก (ยังดีที่ไปคนเดียว) น้ำอุ่นสบายดี ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ คงไม่ต้องพูดถึง ครบครันระดับโรงแรม 5 ดาวอยู่แล้ว
ในห้องไม่มีอ่างอาบน้ำ แต่ในห้องมีปูนโบกทำเป็นม้านั่ง ให้นั่งอาบน้ำได้
สิ่งอำนวยความสะดวกอีกอย่างในห้องที่น่าประทับใจคือ ตู้ใต้ทีวี ที่แปลงร่างได้ยังกะ Transformer สามารถเปิดปีกตู้ออกมาได้สองข้าง เป็นตู้สำหรับใส่พวกอุปกรณ์ขัดรองเท้าข้างหนึ่ง และอีกข้างเป็นพวกแก้วน้ำกินชากาแฟ ใต้ทีวียังมีปลั๊กและพอร์ตจำนวนมากให้เชื่อมต่อกับทีวีได้ด้วย
อาหารเช้า
อาหารเช้า จะให้บริการที่ภัตตาคารชื่อ Edge อยู่ที่ชั้น 3 ของโรงแรม ซึ่งเป็นห้องอาหารที่ใหญ่มาก (รับแขกได้ 300 คน) มีของกินให้เยอะมาก (เผอิญตอนเย็น เจ้าภาพพามาเลี้ยงที่ห้องอาหารเดียวกัน เลยรู้สึกว่ายิ่งอลังการกว่าอาหารเช้าอีก)
อาหารเช้าก็เป็นแบบ continental ทั่วไป สลัด ขนมปัง ไส้กรอก เบคอน ผลไม้ ของหวาน ที่เพิ่มเข้ามาหน่อยก็พวกอาหารท้องถิ่นตามแบบฉบับโรงแรมโซนสิงคโปร์-มาเลเซีย เช่น นาสิเลมัก แซมบัล
กิมมิคที่น่าสนใจเล็กๆ ของอาหารเช้าที่ Edge คือเนื่องจากห้องอาหารมันใหญ่มาก แขกมักเดินเลือกอาหารกันนาน ถ้าแขกมาคนเดียว พนักงานเสิร์ฟก็ไม่รู้ว่าควรเก็บจานดีหรือเปล่า บนทุกโต๊ะเลยมีแผ่นไม้วางเอาไว้ด้วย เพื่อให้แขกใช้แจ้งบริกรได้ว่า “ยังกินอยู่นะ” หรือ “กินเสร็จแล้ว เก็บได้เลย”
โดยสรุปแล้ว ถือว่า Pan Pacific Hotel เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่น่าประทับใจในสิงคโปร์ ทั้งทำเล ความหรูหรา ความอลังการ ถ้ามีโอกาสได้มานอนอีก (และที่สำคัญคือมีเจ้าภาพจ่ายค่าโรงแรมให้) ก็อยากมานอนซ้ำเลยล่ะ
ข้อมูลโรงแรม
- เว็บไซต์ของโรงแรม
- จองห้องพัก
- การเดินทาง: ใกล้สถานี MRT Promenade