นานทีปีหนมีโอกาสเดินทางด้วย Business Class และมีโอกาสใช้เลาจ์ตลอดการเดินทาง เลยมาเขียนรีวิวเก็บไว้สักหน่อย เผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ตามหาข้อมูลเหล่านี้ครับ
ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2017 ผมเดินทางไปยังนิวยอร์กด้วยสายการบิน Korean Air Lines (หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า KAL) ด้วยที่นั่งชั้นธุรกิจ (KAL จะเรียกว่า Prestige Class) ช่วงที่บินกลับจากนิวยอร์กมายังกรุงเทพ เลยได้สิทธิใช้เลาจ์ KAL Prestige Lounge ที่สนามบิน John F. Kennedy International Airport (JFK) ซึ่งเป็นสนามบินหลักของนิวยอร์กด้วย
ก่อนเดินทางก็ลองอ่านรีวิวที่อื่นๆ หาข้อมูลล่วงหน้า พบว่าฝรั่งด่ากันไว้เต็มเลย 555 (ส่วนใหญ่ฝรั่งมักด่าเลาจ์ที่ไม่มีอาหารร้อน กับมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เลือกจำกัด) แต่เนื่องจากเราไม่ได้ต้องการอะไรมาก มีเลาจ์ให้นั่งก็ดีถมเถแล้ว
บวกกับว่าไฟลท์ของเราเป็นไฟลท์ดึก และช่วงกลางวันเราก็ตระเวณเดินในนิวยอร์กมาตั้งแต่เช้า ถ้าจะลากยาวไปถึงกรุงเทพก็คือไม่ได้อาบน้ำเกือบ 2 วันเต็ม ดังนั้นความคาดหวังคงเป็นการไปอาบน้ำในเลาจ์มากกว่า
เลาจ์ Korean Air อยู่ตรงไหนในสนามบิน JFK
ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยครับ สายการบิน Korean Air จะใช้เทอร์มินัล 1 ของสนามบิน JFK เมื่อเราเช็คอินที่เคาเตอร์ และผ่านการตรวจความปลอดภัยของ TSA เรียบร้อยแล้ว (ชั้นธุรกิจจะได้คิวลัดของ TSA ด้วย โดยดูจากหางตั๋ว) เดินเข้ามาด้านใน ก็จะเจอป้าย KAL Lounge แทบจะทันที (เลาจ์อยู่ข้าง Gate 3 ซึ่งอยู่ติดกับทางเข้าเลย)
KAL Lounge อยู่ที่ชั้นสองของสนามบิน เลือกได้ว่าจะเดินขึ้นบันไดเอง หรือขึ้นลิฟต์ก็ได้ สายการบินพันธมิตรที่มาร่วมใช้เลาจน์แห่งนี้ได้คือ Aeroflot ของรัสเซีย และ Saudi ของซาอุดิอาระเบีย
เลาจ์แห่งนี้ยังรับบัตร Priority Pass ด้วย แต่อ่านจากในรีวิวของฝรั่งแล้ว คนที่ถือบัตร Priority Pass อาจถูกจำกัดช่วงเวลาในการใช้งานอยู่บ้างนะครับ
เลาจน์แห่งนี้จะมีทั้งฝั่งของ First Class (ซ้ายมือ) และ Prestige/Business Class (ขวามือ) ของเราเป็น Prestige ก็เดินเข้าไปฝั่งขวาครับ ยื่นบัตรขึ้นเครื่อง Boarding Pass ให้เจ้าหน้าที่ก็เดินเข้าไปได้ทันที
บรรยากาศภายในเลาจ์
บรรยากาศภายในเลาจ์ KAL ค่อนข้างเรียงเก้าอี้แออัดพอสมควร ผู้โดยสารนั่งติดๆ กัน โดยมีโต๊ะคั่นให้วางน้ำและอาหารนิดหน่อย เฟอร์นิเจอร์ก็มีเก่าบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่ารักษาความสะอาดได้ดีครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกที่คนยุคนี้ต้องการคือ “ปลั๊กไฟ” ที่นี่มีให้เยอะเลย เนื่องจากเป็นเลาจ์ในสหรัฐอเมริกา หัวปลั๊กไฟก็จะเป็นแบบแบน 2 ขาครับ ปลั๊กส่วนใหญ่ของบ้านเรา (ถ้าไม่ใช่ขากลม หรือ 3 ขา) ก็เสียบได้เลย
Wi-Fi มีให้บริการในเลาจ์เช่นกัน
อาหาร-เครื่องดื่มสำหรับผู้ใช้บริการเลาจ์
อาหารและเครื่องดื่มในเลาจ์ก็ตามมาตรฐานเลาจ์สนามบินทั่วไป มีผลไม้สด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขนมจำพวกมันฝรั่งทอด-คุกกี้ ซีเรียล
บะหมี่สำเร็จรูป (เป็นมาม่าเกาหลีซะด้วย) ชากาแฟ เบเกอรี่อีกนิดหน่อย แต่ไม่มีอาหารร้อนให้นะครับ
เครื่องดื่มในตู้แช่ มีเบียร์ น้ำผลไม้กระป๋อง น้ำอัดลมกระป๋อง และน้ำเปล่าที่มาเป็นถ้วย อันนี้เป็นเอกลักษณ์ของเลาจ์ Korean เกือบทุกที่ ให้น้ำเปล่ามาเป็นถ้วยพลาสติกแบบนี้หมด รีวิวฝรั่งบางที่บอกว่ามันดูโลว์ไปหน่อย แต่เราก็รู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร แถมพกใส่กระเป๋าไปกินต่อได้ง่ายดีด้วย
โดยสรุปแล้ว ด้านอาหารการกินอาจไม่โดดเด่นอะไรมาก แต่ตัวเลือกก็ถือว่ามาตรฐาน มีเครื่องดื่ม อาหารรองท้อง ขนมให้เลือกในระดับหนึ่ง
บริการอาบน้ำภายในเลาจ์
สิ่งที่เราเตรียมตัวมาคือการไปอาบน้ำภายในเลาจ์ เพราะหลังจากเที่ยวมาตลอดทั้งวัน และต้องนอนบนเครื่องบินไปอีกสิบกว่าชั่วโมง ก็ขออาบน้ำกันสักหน่อยให้สบายตัว
ในเลาจ์มี shower room ให้สองห้อง วิธีการใช้ต้องไปแจ้งที่พนักงานต้อนรับด้านหน้าว่าต้องการใช้ shower room ซึ่งถ้ากรณีที่คนเยอะ เราจะต้องต่อคิว ก็ให้ลงชื่อไว้แล้วนั่งรอพนักงานมาตะโกนเรียกเอา
เมื่อถึงคิวของเราแล้ว แม่บ้านของเลาจ์จะพาเราเข้าไปห้องน้ำ พร้อมอธิบายวิธีการใช้งานคร่าวๆ
สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้คือ ผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าผม สบู่แชมพู แปรงสีฟัน-ยาสีฟัน
พื้นที่อาบน้ำก็ถือว่าสะอาดสะอ้านดีมาก (คาดว่าทำความสะอาดทุกครั้งหลังมีคนใช้งานเสร็จ เพราะพื้นแห้งมาก) มีน้ำร้อนให้ ในพื้นที่ห้องน้ำยังมีส้วมให้ด้วย เผื่อใครทำธุระก็ให้เสร็จไปในรอบเดียว ข้อเสียคงเป็นว่าในห้องน้ำค่อนข้างมืดไปสักหน่อย
ตามมารยาทแล้วเราไม่ควรใช้ห้องน้ำนานเกินไป เพราะมีคนต่อคิวอยู่เสมอ (ในห้องน้ำติดป้ายว่าไม่ควรเกิน 15 นาที) เมื่อทำความสะอาดร่างกายเสร็จแล้ว ก็โยนผ้าเช็ดตัวไว้ในถาดใต้ซิงก์ แล้วเก็บของให้เรียบร้อย เมื่อออกจากห้องน้ำแล้ว (ประตูจะปิดอัตโนมัติ) ก็เดินไปแจ้งที่รีเซปชั่นว่าเราใช้งานเสร็จแล้ว
โดยสรุปแล้ว เลาจ์ Korean Air ที่สนามบิน JFK นิวยอร์ก ถือว่าใช้งานได้ตามมาตรฐาน มีอาหาร ห้องอาบน้ำ ปลั๊กไฟ Wi-Fi ฯลฯ แม้ว่าเลาจ์อาจไม่หรูหรามาก และอาหารน้อยไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นข้อเสียอะไรมากมายนัก