หลายคนคงได้ข่าว Shanghai Disneyland หรือ ดิสนีย์แลนด์เซี่ยงไฮ้ ที่พึ่งเปิดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาใช่ไหมคะ เค้าโปรโมทกันว่า ยิ่งใหญ่อลังการกว่าดิสนีย์แลนด์ที่อื่น เครื่องเล่นก็ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ปล่อยคลิปมายั่วกันมากมาย แต่บางคนก็ส่ายหัวทันทีเพราะไม่อยากต่อสู้กับคนจีน แค่เค้ามาบ้านเราก็ป่วนกันจะแย่ นี่จะไปเยือนเค้าถึงถิ่นเลยงี้!?!
พอดีเราต้องไปเซี่ยงไฮ้อยู่แล้วค่ะ กลัวเสียเที่ยวตกเทรนด์ เลยขอไปลองของซะหน่อยว่า ดิสนีย์แลนด์บนแผ่นดินแม่จะเป็นยังไง ยิ่งใหญ่อลังการอย่างที่เค้าว่ามั้ย? สุขภาพจิตของเราจะยังปกติดีอยู่มั้ย? พูดจีนไม่ได้แล้วจะเอาตัวรอดยังไง? ห้องน้ำล่ะ? สกปรก? คนจีน? แซงคิว? สารพัดคำถามและความไม่แน่ใจ โพสต์นี้เราจะมาเล่าให้ฟังค่ะ นี่จะเรียกว่ารีวิวพลีชีพได้มั้ยนะ 555
เริ่มจากค่าตั๋วและวิธีซื้อตั๋ว Disneyland เซี่ยงไฮ้
ช่วงที่เราไปเป็นช่วง Grand Opening คือช่วงวันที่ 16 มิถุนายน ถึง 31 สิงหาคม 2559 ค่ะ ในช่วงนี้สวนสนุกจะเปิดเวลา 9.00-21.00 ในวันจันทร์-วันพฤหัส และ 8.00-22.00 ในวันศุกร์-วันอาทิตย์ ค่าตั๋วก็จะแพงกว่าปกติด้วย ค่าตั๋วสำหรับ 1 วัน คนละ 499 หยวน (ผู้ใหญ่) และ 375 หยวน (เด็ก) ค่ะ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 2,700 บาทและ 2,000 บาทตามลำดับ
ส่วนหลังวันที่ 1 กันยายน 2559 เป็นต้นไป สวนสนุกจะเปิดเวลา 10.00-19.00 ในวันจันทร์-วันพฤหัส และ 9.00-21.00 ในวันศุกร์-วันอาทิตย์ ค่าตั๋ว 1 วันอยู่ที่คนละ 370 หยวน (ผู้ใหญ่) และ 280 หยวน (เด็ก) คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,000 บาทและ 1,500 บาท
การซื้อตั๋วมี 2 วิธี คือซื้อที่หน้าสวนสนุกกับซื้อออนไลน์ พวกเราเลือกซื้อออนไลน์ค่ะ สะดวกดี ไปถึงแล้วไม่ต้องไปรอคิวซื้อบัตรหน้าประตูอีก
การซื้อตั๋วก็ง่ายๆ ไปที่เว็บของ Shanghai Disneyland เลยจ้า กรอกข้อมูลนิดหน่อยไม่กี่ขั้นตอน เตรียมเลขที่พาสปอร์ตไว้กรอกข้อมูลด้วยน้า จ่ายตังค์เสร็จ เราก็จะได้ Confirmation Number มาค่ะ – แนะนำให้ Capture หน้าจอเก็บไว้ เอาไปแสดงเจ้าหน้าที่ตรงทางเข้าด้วยนะ
วิธีการเดินทางไปยัง Shanghai Disneyland
ในเว็บไซต์ Shanghai Disneyland มีข้อมูลการเดินทางให้อย่างละเอียดค่ะ สำหรับเรา..คนไทยที่พูดจีนได้ประโยคเดียว (ว่า “เหมยโหย่วเฉียน” = ไม่มีเงิน) ขอเลือกวิธีที่ไม่ซับซ้อนด้วยการนั่งรถไฟใต้ดิน Metro ละกัน
ที่ช่องขายตั๋วอัตโนมัติในสถานี Metro เซี่ยงไฮ้ มีภาษาอังกฤษให้อยู่แล้ว เราแค่จิ้ม สถานี Disney Resort อยู่สุดสาย 11 กดจำนวนตั๋วที่ต้องการซื้อ ใส่เงิน ก็จะได้ตั๋ว Metro ออกมาแล้วครัชช สำหรับเส้นทางเดินรถ Metro นั้น แนะนำให้โหลดแอพชื่อว่า “Explore Shanghai Metro Map” ไว้ดูประกอบตอนวางแผนการเดินทางค่ะ
มาถึงทางเข้า Shanghai Disneyland
เมื่อมาถึงหน้าสวนสนุกแล้ว คนที่ยังไม่ซื้อตั๋วต้องไปซื้อที่บูธขายตั๋วก่อนนะ ส่วนคนที่ซื้อตั๋วออนไลน์มาแล้วก็ไปตรวจสัมภาระและต่อคิวเข้าสวนสนุกได้เลย ยื่นหน้าจอที่เราแคปภาพ Confirmation Number กับแสดงพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ เค้าจะพิมพ์ตั๋วให้เราตามจำนวน กับให้แผนที่บอกรายละเอียดเครื่องเล่นและตารางเวลาการแสดงต่าง ๆ มาด้วยค่ะ
ที่ด้านหลังของตั๋วจะมี QR code สำหรับแสกนเพื่อโหลด app ของสวนสนุก app นี้จะบอกเวลารอคิวของเครื่องเล่นแต่ละชนิดด้วยนะ ชนะเลิศมาก แต่วันที่เราไปเน็ตหมดพอดีค่ะ!! พยายามต่อ wifi ก็ต่อไม่ได้ พังๆๆ เดินไปดูคิวที่จอเอา ถึกกันได้อีกจ้าา
(ลิงก์ดาวน์โหลดแอพ Shanghai Disney Resort : iOS, Android)
นอกจากนี้ QR code ด้านหลังยังใช้แสกนเพื่อกดบัตร Fast Pass กับใช้เพื่อพิมพ์รูปภาพที่เค้าแอบถ่ายตอนเราเล่นเครื่องเล่นด้วยจ้า (แต่แพงมาก รูปเราตอนหน้าเหวอๆ ตกรูปละประมาณ 500 บาท)
บริหารเวลาด้วยบัตร Fast Pass
Shanghai Disneyland มีระบบที่เรียกว่า Fast Pass ซึ่งฟรี (เย้!) เป็นการกดคิวไว้ก่อน แล้วค่อยมาเล่นเมื่อถึงเวลา แต่ใช้ได้เฉพาะบางเครื่องเล่นเท่านั้นค่ะ ที่ซุ้ม Guest Services ของแต่ละโซน จะมีตู้กด Fast Pass และจอบอกเวลาที่ใช้ในการต่อคิวทั้งแบบธรรมดา (Stand by) กับแบบ Fast Pass ให้ค่ะ
มากดบัตร Fast Pass กัน
ด้วยวิธีนี้ ถ้าเราวางแผนดี ๆ จะประหยัดเวลาไปได้เยอะมากกกก เราจะสัมผัสได้ถึงรังสีอิจฉาริษยาจากสายตานับร้อยคู่ของคนจีนที่ต่อคิวเบียดเสียดในเลนปกติ สัมผัสวินาทีแห่งชัยชนะตอนที่เดินลัดเข้าไปเล่นเครื่องเล่นก่อนแบบสวยๆ หลังจากถูกคนจีนแซงคิวมาตลอด กร๊ากกกก
ภายในสวนสนุก Shanghai Disneyland มีอะไรบ้าง
ที่นี่แบ่งเป็น 7 โซน (รวม Disney Town ข้างหน้าด้วย) เราขอใส่ภาพประกอบส่วนเครื่องเล่นนิดเดียวนะคะ เพราะเรามัวแต่เล่นเพลินจนลืมถ่ายอ่ะ ฮ่าๆๆ ไม่ใช่!!!! เราไม่อยากสปอยล์ให้เห็นตะหาก เครื่องเล่นทุกเครื่องยกเว้น Tron เราแทบไม่เคยเห็นภาพเลยค่ะ และก็ดีใจที่เป็นแบบนั้น มันเซอร์ไพรส์ดีอ่ะ อยากให้ทุกคนได้สัมผัสความรู้สึกเดียวกัน 555 แก้ตัวได้นางงามมากจ้าา ใครที่อยากเห็นรูปเครื่องเล่นครบๆ ไปที่เว็บของ Shanghai Disneyland ได้เลยค่า
มาเริ่มกันเลยดีกว่า~
Disney Town
โซนแรกก่อนเข้าสวนสนุก โซนนี้ไม่ต้องเสียตังค์ค่าเข้าค่ะ มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกมากมายให้ช้อป มี Lego land ด้วยนะ
Mickey Avenue
โซนนี้จะเป็นร้านขายของที่ระลึกกับร้านอาหารค่ะ แล้วก็จะมีส่วนที่ฉายหนังการ์ตูนสั้น ๆ ของมิกกี้เม้าส์ด้วย โซนละลายทรัพย์แบบนี้เราขอผ่านไปอย่างรวดเร็วค่ะ
Gardens of Imagination
เป็นบริเวณสวนหน้าปราสาท มีเครื่องเล่น 2 อันคือ Fantasia Carousel (ม้าหมุน) กับ Dumbo the Flying elephant (นั่งดัมโบ้บินหมุนๆ สไตล์ Octopus) 2 อันนี้เด็กน้อยมากกก บายจ่ะ ชั้นจะไม่เล่นให้เสียเวลา ให้เด็ก ๆ เค้าเล่นกันไปนะ อ้อ! มี Marvel Universe ด้วยค่ะ เป็นแนวจัดแสดงพร็อบในหนังให้ถ่ายรูปเล่นไรงี้ เบา ๆ โซนนี้ไม่มีให้กด Fast Pass ค่ะ
Adventure Isle
เริ่มตื่นตาตื่นใจแล้ว มีภูเขาจำลองมหึมา มีน้ำตกด้วย ธีมชนเผ่า Lion King, Tarzan กิจกรรมส่วนใหญ่เป็นสไตล์เดินป่า ผจญภัยตามฐานต่าง ๆ
เครื่องเล่นไฮไลท์ที่กด Fast Pass ได้สำหรับโซนนี้คือ Soaring Over the Horizon กับ Roaring Rapids ค่ะ แต่….วันที่เราไประบบ Fast Pass ของ Adventure Isle ปิดจ้าา กดไม่ได้ เสียเวลาต่อคิวนานมากค่ะ
Soaring Over the Horizon เรารอคิวเจ้านี่อยู่ประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะ!! ชั่วโมงครึ่งอ่ะทุกคนนน!! เฮ่นโหล้ววว นี่เท่ากับนั่งรถจาก กทม.ไปพัทยาเลยนะ! ทรมานสังขารสุด ๆ ฝรั่งข้างหลังเปิดเพลงแด๊นซ์กันเป็นเรื่องเป็นราวแล้วจ้ะ เจ้านี่เป็นเครื่องเล่นแนว 4D พาเราบินไปชมธรรมชาติและสิ่งก่อสร้างดัง ๆ ทั่วโลก มีทั้งขั้วโลก ทัชมาฮาล ป่าแอฟริกา และแน่นอนสุดคือ The Bund ภาพสวยค่ะ แต่ยังมี distortion แบบตึกหอไข่มุกเบี้ยวไปตามความโค้งของจออะไรแบบนี้ เราชอบที่ได้ลอยขึ้นไปสูง ๆ เหมือนนกบินดีอ้ะ ใครกลัวความสูงน่าจะมีหวิว ๆ บ้างเหมือนกัน ให้ 3 เต็ม 5 ละกันนะหัก 2 คะแนน เรื่องคิวยาวกับหอไข่มุกเบี้ยวค่า
Roaring Rapids เราไม่ได้เล่นอันนี้อ่าาา มันปิดเกือบทั้งวัน ช่วงที่เปิดก็คิวยาวแบบโหดร้ายมาก เจ้าเครื่องเล่นตัวนี้เท่าที่ดูข้างนอกก็เป็นแนวล่องแก่งนี่แหละค่ะ น่าจะหวือหวาพอสมควร น่าเล่นมากอ้ะ
Treasure Cove
รักมากค่ะโซนนี้ เป็นธีมโจรสลัด แน่นอนว่าตัวชูโรงของโซนก็คือ Pirates of the Caribbean นั่นเองงงงงงง กิจกรรมก็จะมีนั่งเรือแคนู ลงเรือโจรสลัด โซนนี้ไม่มีเครื่องเล่นให้กด Fast Pass จ้ะ
เครื่องเล่นไฮไลท์คือ Pirates of the Caribbean – Battle for the Sunken Treasure ค่ะ เป็นเครื่องเล่นแนว 4D พาเรานั่งเรือผจญภัยไปกับการต่อสู้ของเรือ Black Pearl กับ Flying Dutchman คือมันดีมากกกกก พีคสุดด ภาพสวย แสงสีเสียงมาเต็ม เจอน้ำกระเซ็นเบา ๆ แบบได้ฟีล เราให้เต็ม 5 เลย อยากเล่นอีกกกกกกก รักกกกกก
และถ้ายังอินกับ Pirates of the Caribbean อยู่ แนะนำให้ลองชม Eye of the Storm – Captain Jack’s Stunt Spectacular ต่อเลยค่ะ เป็นโชว์ Stunt ผ่านเรื่องราวของแก๊งกัปตันแจ็ค เนื้อเรื่องแต่งขึ้นใหม่ไม่มีในหนัง (เดาเอาหน่ะ ฟังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ แหะๆ) แต่ก็รักษาคาแร็คเตอร์ของ Pirates of the Caribbean ไว้ได้ครบถ้วน เราบังเอิญได้เข้าไปดูเพราะเวลาลงตัวพอดี ฟังไม่รู้เรื่องแต่ก็สนุกดีนะ ฉากสวย เทคนิคดี ตื่นตาตื่นใจมาก ให้ 4 เต็ม 5 ค่ะ
Fantasy Land
โซนนี้เป็นที่ตั้งของปราสาทดิสนีย์ (มีชื่อว่า “Enchanted Storybook Castle”) นั่นเองค่ะ มีอะไรให้เล่นเยอะเลยย
Once Upon a Time Adventure เป็นการผจญภัยในปราสาทดิสนีย์นั่นเอง เราจะเดินขึ้นไปตามบันไดวนเพื่อพบเรื่องราวของสโนไวท์ ผ่านจอภาพแบบ 3 มิติ ภาพสวยดีค่ะ ปราสาทที่นี่ใหญ่โตมีที่ให้เราเดินเล่นเยอะดี ให้ 4 เต็ม 5 ละกัน บริเวณด้านล่างมีห้องให้เด็ก ๆ แต่งตัวเป็นเจ้าหญิง พร้อมทั้งถ่ายภาพกับเจ้าหญิงดิสนีย์ด้วยค่ะ
Alice in Wonderland Maze เป็นทางเดินในเขาวงกตเพื่อไปเจอตัวละครของ Alice in Wonderland เขาวงกตนี่เด็กน้อยมากกก เดินเหม่อ ๆ ยังผ่านไปได้ ผ่านเขาวงกตมาก็จะเจอกับโต๊ะปาร์ตี้น้ำชามุ้งมิ้ง น่ารักดีค่ะ มีลูกเล่นให้ถ่ายรูปเยอะดี เราให้ 3 เต็ม 5 ถ้าไม่ได้ชอบ Alice in Wonderland เป็นพิเศษก็ข้ามได้เลย ไม่ถือว่าพลาดอะไรไปค่ะ
Seven Dwarfs Mine Train นั่งรถไฟเข้าเหมืองกับคนแคระทั้ง 7 เครื่องเล่นนี้เป็นไฮไลท์ของ Fantasy Land เลยค่ะ กด Fast Pass ได้ ดูเหมือนจะแบ๊ว แต่จริง ๆ ไม่ขนาดนั้น เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดได้เหมือนกันนะ อันนี้ให้ 4 เต็ม 5 ค่ะ
Peter Pan’s Flight เจ้านี่กด Fast Pass ได้เหมือนกัน เค้าจะให้เรานั่งเรือเหาะ ไปตามฉากต่าง ๆ ในการ์ตูนเรื่อง Peter Pan ฉากทำได้สวย น่ารักมากค่ะ ไม่มีอะไรหวือหวา แบ๊ว ๆ เอาใจเด็กค่ะ ให้ 4 เต็ม 5
The Many Adventures of Winnie the Pooh เจ้านี่ก็กด Fast Pass ได้ โซนนี้กดได้ตั้ง 3 เครื่องแหน่ะ แต่มันแบ๊วเหมือน Peter Pan เลยขอข้ามไปดีกว่า
พอๆๆๆ สายแบ๊วนี่ไม่ใช่ทางเราเลยอ่ะ ไปหาอะไรสนุก ๆ เล่นที่ Tomorrow Land กันดีกว่า
Tomorrow Land
ความรู้สึกเหมือนยังสร้างไม่เสร็จ จะต้องมีอะไรเจ๋ง ๆ มาเพิ่มในโซนนี้อีกแน่นอนค่ะ อย่างน้อยที่กำลังจะเปิดเร็ว ๆ นี้ก็จะมี TRON Realm Chevrolet Digital Challenge หนึ่งอย่างแล้วหล่ะ
Star Wars Launch Bay สำหรับสาวก Star Wars ต้องไม่พลาดที่นี่ค่ะ เราว่ามันคล้าย Marvel Universe คือสร้างมาเพื่อเอาใจเหล่า Fanboys โดยเฉพาะ มีร้านขายของที่ระลึก โชว์พร็อบจากหนัง เราสามารถเข้าไปถ่ายรูปกับฉาก Cockpit ของยาน Millennium Falcon ได้ด้วย ซึ่ง..เราว่ามันยังไม่ค่อยสวยอ่ะ ฮ่าๆ
แต่ๆๆๆๆๆ ที่พีคเหนือสิ่งอื่นใด คือเราจะได้ถ่ายรูปแบบ exclusive กับท่าน Darth Vader ค่าาาคู๊นนน!! มองไปอีกฝั่งก็จะเจอเจ้า R2D2 มายืนรอถ่ายรูปกับแฟนๆ ด้วย บอกเลยว่าแฟนคลับฟินแน่ๆ หวังว่าในอนาคตจะมีเครื่องเล่นเจ๋งๆ มาลงในโซนนี้อีกนะคะ May the force be with you!!
Buzz Lightyear Planet Rescue เจ้านี่มี Fast Pass จ้า เราจะได้นั่งยานอวกาศ (ที่วิ่งไปตามราง) มีปืนให้ยิงเป้าเพื่อเก็บคะแนน พอออกมาจะมีรูปพวกเราหน้ามัน ๆ พยายามยิงอะไรซักอย่าง พร้อมแต้มที่ยิงได้โชว์ให้ดูด้วยค่ะ ใครอยากพิมพ์เก็บเป็นที่ระลึกก็แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อแสกน QR code ด้านหลังตั๋วเรา แล้วนำบัตรที่ได้ไปจ่ายตังค์เพื่อรับรูปค่ะ
Jet Packs เจ้านี่ไม่มี Fast Pass ค่ะ คนต่อคิวกันเยอะทีเดียว แต่เราเห็นมันเหมือนกับ Dumbo the Flying elephant ซึ่งก็เครื่องเล่นสไตล์ Octopus นี่เอง เลยไม่เล่นดีกว่า
TRON Lightcycle Power Run เรามาดิสนีย์แลนด์เพื่อสิ่งนี้!!!!!! กรี๊ดตั้งแต่เห็นคลิปที่เค้าแชร์กันแล้วค่ะ อยากเล่นมากกก เจ้าเครื่องนี้เรากด Fast Pass ตอนเที่ยง แต่ได้คิวเล่นตอน 5 โมงเย็นแหน่ะ อะไรจะฮอตฮิตปานนั้น ก่อนเข้าไปเล่นต้องฝากสัมภาระไว้ก่อนนะ เค้ามีล็อกเกอร์ไว้ให้ฝากค่ะ มีตู้ล็อกเกอร์แบบดิจิตอล กับแบบธรรมดา เราเลือกธรรมดาก็พออ่ะ หยอดเหรียญ 1 หยวนก็เป็นอันเรียบร้อย
เครื่องนี้จำลองการขี่ Light Cycle ในหนังเรื่อง TRON ค่ะ จะมีกิมมิคของหนังตลอดทางที่เดินไปขึ้นเครื่องเล่น คือได้ฟีลมากก ล้ำมาก เจ้าเครื่องนี้แค่ออกตัวก็กรี๊ดแล้ว เร็วสุด ๆ มันคือรถไฟเหาะตีลังกาที่เร็วมาก ๆ และมาในรูปของมอเตอร์ไซค์ค่ะ
ให้เต็ม 5 เลยยยย รักกกกก สมกับที่ตัดสินใจมาค่ะ ฟินมากกกกกกกก~
คลิปตัวอย่างเครื่องเล่น Tron เผื่อนึกภาพตามไม่ออก
พาเหรด
รีวิว Disneyland แล้วไม่พูดถึงพาเหรดคงไม่ได้ พาเหรดที่นี่มี 2 เวลาคือช่วงเที่ยงกับบ่าย 3 ครึ่งค่ะ เจ้าหญิงดิสนีย์จะมาไม่ครบทุกคน ถ้าอยากเก็บให้ครบต้องรอชม Golden Fairytale Fanfare ซึ่งจะเป็นการแสดงของเจ้าหญิงดิสนีย์ มีที่ลานหน้าปราสาทค่ะ (เช็คเวลาจาก Times Guide ได้เลยย)
ส่วนตอนเย็นที่ Shanghai Disneyland ไม่มีพาเหรดเหมือน Disneyland ที่อื่น แต่จะมีการแสดงแสงสีเสียงแทนในชื่อว่า Ignite the Dream – A Nighttime Spectacular of Magic and Light จะมีทั้งจุดพลุ ยิงแสงเลเซอร์ และฉายภาพการ์ตูนดิสนีย์ขึ้นบนตัวปราสาทค่ะ พีคสุดน่าจะ Frozen ร้องเพลงตามกันงุ๊งงิ๊ง ส่วน Star Wars ก็ไม่น้อยหน้า เป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวที่มีภาพขึ้นปราสาท มีฉากยานระเบิดด้วย อะไรจะปานนั้น ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วต้องใช้ให้คุ้มสินะ..
คลิปตัวอย่าง Ignite the Dream ที่คนอื่นเขาถ่ายไว้
How to Survive เทคนิคการเอาชีวิตรอดจากคนจีนในดีสนีย์แลนด์
เล่าเรื่องเครื่องเล่นไปหมดแล้ว ทีนี้ขออธิบายเทคนิคการเอาตัวรอดจากมวลมหาคนจีนในดิสนีย์แลนด์กันหน่อยค่ะ
ภาษา การแสดงทั้งหมดใช้ภาษาจีนล้วนจ้า ส่วน Staff ทุกคนที่เราเจอสื่อสารภาษาอังกฤษได้ค่ะ แต่ด้วยเบ้าหน้าเอเชียอย่างพวกเราอาจจะต้องบอกเค้านิดนึง ไม่งั้นอาจจะเจอเค้ารัวจีนใส่แบบตั้งตัวไม่ทัน คนจีนสมัยใหม่ส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษกันได้ค่ะ เราเจอคนนึงน่ารักมาก พานั่งรถเมล์ แถมยังกดซื้อตั๋ว Metro ให้ด้วย
อาหาร ราคาตั้งแต่ 40 หยวน (ฮ็อทด็อก) จนถึง 100++ หยวน เราว่าแพง แต่ก็สมราคาค่ะ ใครอยากประหยัดก็ซื้อขนมปังจากข้างนอกเข้าไปได้นะ
เครื่องดื่ม เหมือนแต่ละโซนก็จะมีเมนูต่างกันไปด้วยนะ ราคาแก้วละประมาณ 20 หยวน ในส่วนของน้ำเปล่านั้น ที่หน้าห้องน้ำจะมีให้เติมน้ำดื่มฟรีค่ะ มีขวดน้ำขวดเดียวก็อยู่ได้ทั้งวันละจ้า
ความสะอาด ในสวนสนุกมีพนักงานทำความสะอาดเยอะมากกกกก เค้าคงทำการบ้านมาแล้วหล่ะ อะไรตกนิดนึงคือมาเก็บแบบเร็วมาก แต่ๆๆ มันจะมีบางโซนที่เค้าไปเก็บไม่ได้ เช่น บริเวณรอคิวเครื่องเล่น ประเภทที่รอกันนาน ๆ ก็จะเห็นขยะกองกันไปเรื่อยค่ะ
ห้องน้ำ กลัวกันใช่มั้ยล่ะ!!! 555 ตอนแรกเก๊าก็กัววว >< ห้องน้ำมีให้เข้าเหลือเฟือเลยค่ะ มีพนักงานคอยดูแลตลอด สะอาดมาก พยายามเข้าโซนที่มันหลืบ ๆ หน่อยก็จะยิ่งสะอาดเข้าไปอีก หายห่วงค่า
คนจีน ทำใจซะเถอะกับการโดนแซงคิว ไม่มีเครื่องเล่นไหนเลยที่เราไม่โดน ขนาดคิว Fast Pass ยังเนียนแทรกเราไปจนได้ เราพยายามต่อสู้แล้วแต่ก็พ่ายแพ้ไปด้วยกำแพงภาษาค่ะ แนะนำว่าให้ปล่อยวางเถอะ ทำได้แค่นี้จริง ๆ หงุดหงิดแล้วจะเที่ยวไม่สนุกเลยค่ะเพราะจะเจอแบบนี้ทั้งวัน 5555
อย่างที่เรารู้ๆ กัน บ้านเค้าคนเยอะ เค้าต้องเร็วและแย่งชิง เราก็ต้องสตรองสู้ค่ะ จะมามัวต๊ะต่อนยอนอยู่คือไม่ได้อ้ะ และด้วยความที่เค้าแย่ง ๆ กันตอนสวนสนุกจะปิดเค้าก็จะแย่งกันกลับเดี๋ยวนั้นเลยหล่ะ ถ้าไม่พร้อมจะสู้กับคนจีน แนะนำให้เดินเล่นรออีกซักครึ่งชั่วโมง รับรองว่าจะได้กลับด้วยสภาพจิตใจที่ดีกว่าเยอะ
แต่ถึงจะโดนคนจีนทำร้ายจิตใจมาตลอดทั้งวัน (กระซิก) แต่เราก็เจอคนจีนน่ารักๆ เยอะมากค่ะ หลายคนพร้อมช่วยเหลือแม้จะสื่อสารกันไม่ได้ บางคนก็เอือมความประพฤติเพื่อนร่วมชาติอยู่เหมือนกัน บางคนพอรู้ว่าเราเป็นคนไทยก็เกื้อกูลเรามากเพราะเค้าก็เคยมาเที่ยวบ้านเรา สุดท้ายที่นี่ก็มีทั้งคนหลากหลายประเภทปะปนกันไปเหมือนคนประเทศอื่นๆ นั่นแหละ (เหมือนบ้านเราแหละค่ะคู๊นนน)
ยาวมากโพสนี้ 555 โดยสรุป Shanghai Disneyland ได้มาตรฐานดิสนีย์แลนด์ค่ะ ปราสาทก็ได้ชื่อว่าใหญ่โตกว่าชาวบ้าน แต่เนื่องจากเราไปตอนช่วง Grand Opening เลยเจอว่าเครื่องเล่นบางเครื่องเสียระหว่างวัน ระบบก็ยังมีรวน ๆ อยู่บ้าง ความน่ารักของ Staff ยังมุ้งมิ้งเอ็นเตอร์เทนสู้ที่อื่นไม่ได้ (เค้าคงเหนื่อยมากอ่ะ) แต่ถามอะไรก็ยินดีช่วยเหลือเต็มที่ค่ะ
สำหรับเครื่องเล่น ล้ำดีค่ะ TRON หรือเครื่องเล่นแนว 4D บางเครื่องล้ำกว่าดิสนีย์แลนด์ที่อื่น แต่ยังมีเครื่องเล่นไม่เยอะเมื่อเทียบกับพื้นที่ เราว่ายังขยายได้อีกเยอะ รออีกซัก 10 ปี ว่าจะไปใหม่ ฮ่าๆ ใครที่สนใจและเป็นแฟนดิสนีย์ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง!!
ไว้เจอกันทริปหน้าค่า
คลิปเบื้องหลังการก่อสร้าง Disneyland Shanghai
https://www.youtube.com/watch?v=CJ_5XxamMiU