ทุกครั้งที่มาเชียงใหม่ คากิจะชอบมาที่ร้านกาแฟ Ristr8to (ริสเทรตโต้) ค่ะ คากิรู้จักร้านนี้ครั้งแรกจากรายการ “เทยเที่ยวไทย” ช่วงพ่อครัวแซ่บ (หลายคนคงชอบดูเหมือนกันใช่มั้ยคะ?) ซึ่งสมัยนั้นก็นานมาแล้ว เพราะตอนที่ คุณต๋อง เจ้าของร้านออกรายการ เพิ่งจะเป็นตอนที่ 5 เอง แต่มาตอนนี้ยาวนานมาถึงตอนที่สองร้อยกว่าแล้ว
โดยหลังจากที่คากิดูรายการไม่นานนัก ก็มีโอกาสได้แวะมาที่ร้านนี้ โดยตั้งใจจะมาสั่งลาเต้ เพราะตอนนั้นขึ้นชื่อกันว่าที่นี่ทำลาเต้อาร์ตสวย แถมยังรีเควสลายได้อีกด้วย เนื่องจากเจ้าของร้านนี้มีดีกรีลาเต้อาร์ต อันดับ 6 ของโลกในรายการ World Latte Art Championship ปี 2011
แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป การกลับมากินกาแฟที่ร้าน Ristr8to ก็เปลี่ยนไปจากเดิม เพราะไฮไลท์ของ Ristr8to ไม่ได้อยู่ที่ลาเต้อาร์ตอย่างเดียวเท่านั้น แต่ Ristr8to ได้กลายเป็น ห้องแล็บกาแฟ ที่นำเทคนิค เมล็ดกาแฟ และเหล้ามาสร้างสีสันในการกินกาแฟรูปแบบใหม่ๆ ขึ้นมา ซึ่งครั้งนี้ คากิเลยจะมาแนะนำเมนู ค็อกเทลกาแฟ ของที่นี่กันค่ะ
สำหรับ 2 เมนู ผสมแอลกอฮอล์ ที่คากิลอง ได้แก่
- Brazilian Godfather มอคค่าเย็น ผสมเบอร์เบิน วิสกี้ (Bourbon)
- Mexican Latte ลาเต้ร้อนผสมกับเหล้าคาลัว (Khalua) และ Creme de cacao
ถ้าถามตัวคากิแล้ว ส่วนตัวชอบเมนูเย็นมากกว่า ซึ่งเมนูเย็นที่นี่จะไม่ได้ใส่น้ำแข็งเยอะ แต่จะใส่น้ำแข็งก้อนเล็กๆ แค่ให้เย็นนิดๆ ไม่ใช่ดื่มทีแล้วเสียวไปทั้งหัว แค่ให้รู้สึกเย็นเบาๆ ชื่นใจดับร้อน แถมพอเทียบแล้ว รสชาติวิสกี้ในเมนูเย็นจะได้รสมากกว่าเมนูร้อน
คากิขอเตือนก่อนค่ะว่าถ้ามาเสิร์ฟ ต้องถ่ายรูปไวหน่อย ไม่งั้นฟองแฟบลง จะพลาดของดีเข้าได้ เพราะไฮไลท์ก็คือตอนจิบฟองนุ่มๆ นี่แหละ ที่ฟองนุ่มปาก มีรสกาแฟเบลนด์เข้ากับรสวิสกี้อ่อนๆ โอ้โห นุ่มฟินมาก
ซึ่งนอกจาก 2 เมนูนี้แล้ว อีกหนึ่ง เมนู Signature ที่ไม่ได้ผสมแอลกฮอล์ที่คากิชอบมาก ถึงขั้นสั่งเบิ้ลเพิ่มอีกแก้ว แถมวันต่อมา ก็สั่งอีกแก้ว ก็คือ Nikki Macchiatto ผสมบัตเตอร์สก๊อต รสนุ่มๆ ออกหวานๆ แบบคาราเมล
ที่มาที่ไปของสัญลักษณ์ “หัวกะโหลก”
สำหรับใครที่สังเกต จะเห็นว่าที่ร้าน Ristr8to จะมีสัญลักษณ์หนึ่งที่เห็นบ่อย นั่นก็คือ แก้วรูปหัวกะโหลก ที่เพิ่มเข้ามาจากครั้งแรกๆ ที่คากิมา คากิก็เลยลองถามพนักงานที่ร้าน ว่าทำไมถึงเป็นแก้วหัวกะโหลก ได้ความว่า เนื่องจากคุณต๋อง เจ้าของร้านได้เพิ่มเมนู Cocktail ที่มีส่วนผสมของเหล้าวิสกี้ต่างๆ เข้ามาใหม่ ทีนี้ก็อยากสื่อสารให้ได้กลิ่นอายดุๆ ดิบๆ เข้มๆ หน่อย ก็เลยนำหัวกะโหลก รวมทั้งแก้วหัวกะโหลกมาใช้ โดยเฉพาะกับเมนูที่มีส่วนผสมของเหล้าวิสกี้ค่ะ
แถมคุณต๋องก็ยังเก็บดีเทลในการตั้งชื่อเมนูและคำบรรยายที่ล้อไปกับโทนดุๆ ของหัวกะโหลกอีกด้วย เช่น เมนูลาเต้ Signature ของที่ร้าน ใช้ชื่อว่า Satan Latte (ซาตานลาเต้) หรือบรรยายเมนูเย็น Nikki Macchiatto ว่าเป็น “one of the best summer killer drink” ดุพอมั้ยคะ?
ส่วนบรรยากาศของร้าน Ristr8to เป็นแบบ open air ค่ะ นั่งสบายไม่ค่อยร้อน เพราะมีลมเข้ามาในร้านตลอด จริงๆ เป็น open air ก็ดีไปอย่าง เพราะตอนที่กินเมนูเย็นที่นี่ จะรู้สึกชื่นใจ กำลังดีมากเลย
สำหรับรีวิวนี้ คากิขอจบเท่านี้ละกันค่ะ ใครมีแพลนไปเชียงใหม่ ก็อย่าลืมไปลองเมนู Cocktail ของทางร้านดูนะคะ เพราะรสชาติแต่ละเมนูที่นี่มีเอกลักษณ์มาก จนไม่น่าเชื่อว่ากาแฟจะมีลูกเล่นและดูสนุกสร้างสีสันได้มากขนาดนี้ ^^
ใครที่ไปถึงร้าน Ristr8to แล้ว อย่าลืมพลิกด้านหลังเมนูกันต่อ เพราะที่นี่ได้ทิ้งลายแทงร้านกาแฟอื่นๆ ในเชียงใหม่อีกค่ะ เป็นความน่ารักๆ ของคนที่นี่ มาที่ร้านตัวเองแล้ว ก็อยากแนะนำร้านเพื่อนๆ ด้วย
ที่ตั้งของร้าน Ristr8to Lab สาขา 2
- ตรงเข้าซอยนิมมานฯ 3 จนเจอสี่แยกให้เลี้ยวขวา ร้านจะตั้งอยู่ใกล้กับหัวมุมสี่แยก
- เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 19.00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
- เบอร์โทรศัพท์ 053 215 278
- Facebook Ristr8to Lab