แซงมาโล (Saint-Malo) เมืองกำแพงริมทะเล ป้อมปราการแห่งมณฑล Brittany

2Baht.com พาเที่ยวเมืองแซงมาโล (Saint-Malo) หรือบางครั้งเขียนตัวย่อว่า St-Malo เมืองประวัติศาสตร์ริมทะเลทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีจุดเด่นการที่เป็นเมืองล้อมด้วยกำแพงสูง ป้อมปราการในอดีตที่เคยเป็นเมืองท่าสำคัญมาตั้งแต่ยุคกลาง และเคยเป็นศูนย์กลางของ “โจรสลัด” (cosairs) ที่บุกปล้นเรือต่างๆ ในช่องแคบอังกฤษด้วย

แซงมาโลอยู่ไม่ไกลนักจาก มงแซงมิเชล สิ่งมหัศจรรย์แห่งฝรั่งเศส สามารถจัดทริปให้อยู่ในวันเดียวกันได้

แผนที่ St. Malo
แผนที่แสดงที่ตั้งเมือง St. Malo บนแหลมมณฑล Brittany ที่ใกล้กับเกาะอังกฤษ

แซงมาโลตั้งอยู่ในมณฑลบริททานี (Brittany) ซึ่งเป็นแหลมใหญ่ที่ยื่นออกไปในทะเลฝรั่งเศส มณฑลนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยโรมัน ชื่อ Brittany ถูกชาวโรมันนำข้ามทะเลไปเรียกเกาะอังกฤษ (จนกลายเป็นคำว่า British ในปัจจุบัน) และการที่มณฑลนี้อยู่ใกล้กับเกาะอังกฤษ ในเวลาต่อมาจึงมีชาวอังกฤษย้ายมาอาศัยเป็นจำนวนมากด้วย

ประวัติของแซงมาโล

ในอดีต บริททานีเคยเป็นประเทศอิสระที่ตั้งอยู่ระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส และเคยเป็นสมรภูมิการต่อสู้ในสงครามระหว่างอังกฤษ-ฝรั่งเศสมาหลายครั้ง ก่อนจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศฝรั่งเศสจนมาถึงปัจจุบัน ชาวเมืองในอดีตมีคำขวัญว่า “พวกเราไม่ใช่ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส แต่เป็นคนแซงมาโล” (“neither French nor Breton, I am from St Malo”)

ชื่อเมืองแซงมาโล มาจากชื่อนักบุญ “เซนต์มาโล” (Saint Malo) จากเวลส์ที่มีชีวิตอยู่ระหว่าง ค.ศ. 520-621 และมาเสียชีวิตอยู่ในบริททานี เมืองแซงมาโลตั้งอยู่ริมปากแม่น้ำ Rance จึงมีด้านที่ติดแม่น้ำและด้านที่ติดทะเลภายนอก

เนื่องจากแซงมาโลเป็นเมืองท่าสำคัญริมทะเล จึงเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการคมนาคมมาตั้งแต่โบราณ ทั้งมีโจรสลัดที่คอยเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากเรือสินค้าของอังกฤษ และในสมัยล่าอาณานิคม Jacques Cartier ผู้ค้นพบประเทศแคนาดาก็มาจากเมืองแซงมาโลแห่งนี้

สถานที่ท่องเที่ยวในแซงมาโล

ปัจจุบันแซงมาโลกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของฝรั่งเศส และอาจมีนักท่องเที่ยวมาแวะเวียนระดับหลายหมื่นคนในช่วงฤดูร้อน จุดเด่นของแซงมาโลคือเป็นเมืองที่ถูกรายล้อมด้วย “กำแพง” ขนาดใหญ่ และนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเดินชมเมืองบนกำแพงได้ครบรอบเลย

Saint Malo
หน้าตาของกำแพงเมือง Saint-Malo มองมาจากด้านนอกเมือง

กำแพงเมืองบางส่วนยังถูกดัดแปลงมาทำเป็นโรงแรมแบบย้อนยุคด้วย เสียดายว่าไม่ได้ลองค้างคืนที่นี่

Saint Malo

หน้าตาของประตูเมือง Saint Malo ประตูแห่งนี้เรียกว่า Saint Vincent Gate (มีประตูอื่นอีกหลายแห่ง)

ประตูเมือง Saint Malo

บนกำแพงเมืองสามารถเดินขึ้นไปได้เลย แต่ห้ามนำสุนัขขึ้นนะ

Saint Malo Wall No Dog

บรรยากาศบนกำแพงเมืองเก่าของ Saint Malo เห็นชายหาดตอนน้ำลด จริงๆ กำแพงนี้ถูกทำลายไปมากตอนสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ก็บูรณะกลับมาดีดังเดิม

กำแพงเมือง Saint Malo

จากกำแพงเมือง เราจะมองเห็นป้อมปราการต่างๆ ที่อยู่ริมทะเล ตอนน้ำลดสามารถเดินเข้าไปได้เลย ป้อมในภาพชื่อ Fort National มีสภาพเป็นเกาะเวลาน้ำขึ้น ถูกสร้างเป็นป้อมเพื่อป้องกันการโจมตีของกองทัพอังกฤษ

Saint Malo

กำแพงเมืองของ Saint Malo ใหญ่ขนาดเอารถขึ้นไปวิ่งได้เลย และสามารถเดินได้ครบรอบ ดูป้อม หอ ปราสาทต่างๆ ได้ตามสะดวก น่าเสียดายว่าเรามีเวลาที่เมืองนี้ไม่เยอะ เลยเดินไม่ครบรอบ

Saint Malo

แผนที่เมือง Saint Malo แสดงขอบกำแพง และอนุสาวรีย์ต่างๆ

แผนที่เมือง Saint Malo
แผนที่เมือง Saint Malo

หน้าตาของบ้านเมือง อาคารสถานที่ในแซงต์มาโล ยังคงเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมเอาไว้อย่างเต็มที่ ใครชอบตึกเก่าๆ เดินดูกันได้สบายเลย

บ้านเมืองในแซงต์มาโล

บ้านเมือง แซงต์มาโล

Saint Malo

นอกจากนี้ในเมืองก็ยังมีโบสถ์ (ตามแบบฉบับของเมืองในยุโรปทั่วไป)

Saint Malo Church

ย่านดาวน์ทาวน์ของเมือง จะอยู่ตรงกับถนนเส้นที่เดินมาจากประตูเมืองเลย สินค้าก็เหมือนดาวน์ทาวน์ของเมืองในยุโรปทั่วไป มีของกิน เสื้อผ้า ของที่ระลึกต่างๆ

Saint Malo Downtown

สัญลักษณ์ของ Saint Malo เป็นรูปสุนัขที่มีปลอกคอเป็นหนาม อันนี้ก็แปลกดี (เจอจากฝาท่อน้ำ)

Saint Malo Sign

แถบประตูเมืองยังมีคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟอีกมากมาย ช่วงหน้าร้อนตอนกลางวัน ฝรั่งนั่งกันตรึม (คนไทยนั่งในร่มจ้า)

Saint Malo Cafe

เรามีโอกาสทานอาหารเที่ยงที่เมืองแซงมาโล ร้านที่ได้กินชื่อ Cafe Le Chateaubriand ที่เป็นโรงแรมแบรนด์ Le Chateaubriand ด้วย (มีสาขาหลายแห่งในฝรั่งเศส) อยู่ใกล้กับประตูเมืองเลย หน้าตาดังภาพ

Le Chateaubriand St.Malo

โรงแรม Le Chateaubriand St. Malo แห่งนี้เป็นโรงแรมเก่าแบบดั้งเดิม นั่นคือด้านบนเป็นห้องพัก ด้านล่างเป็นภัตตาคารใหญ่ มีที่นั่งทั้งโซนด้านในและด้านนอก

Le Chateaubriand St. Malo

แน่นอนว่าด้านนอกฝรั่งนั่งกันเต็ม ด้านในว่าง คนไทยแบบเราย่อมนั่งข้างในอยู่แล้ว ร้านก็ตกแต่งสวยงามดี

Le Chateaubriand St. Malo

อาหารที่กินเป็นเมนูแบบ 3 courses เริ่มจากสลัดผักเรียกน้ำย่อยก่อน เบาๆ

Le Chateaubriand St. Malo

เมนดิชเป็นปลาแซลมอน ราดด้วยซอสแครอท มีไข่+มันฝรั่ง (ไม่รู้เรียกอะไร) มาให้ด้วย ปลาอร่อยใช้ได้ ซอสจืดไปหน่อย

Le Chateaubriand St. Malo

ทีมเรากลัวไม่อิ่มกัน แถม Saint Malo ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล (มันก็ต้องแบบนั้นสิ!) เลยสั่งหอยนางรมมาลองดู มีให้เลือกหลายเกรดหลายขนาด สั่งแบบกลางๆ จำราคาไม่ได้แล้ว พบว่าตัวเล็กไปหน่อยยังไม่สะใจนัก การกินหอยนางรมในฝรั่งเศสเขาจะให้น้ำจิ้มที่ทำจากน้ำส้มสายชูมาให้ แต่รสชาติจะไม่จัดนัก คิดถึงน้ำจิ้มซีฟู้ดบ้านเรา

Le Chateaubriand St. Malo

อีกจานที่สั่งมาเพิ่มคือหอยแมลงภู่อบไวน์ขาว ให้หอยมาอัดแน่นเต็มหม้อ แต่หอยก็ตัวเล็กเช่นกัน ต้องมีเวลาค่อยๆ กินไป อย่ารีบร้อน

Le Chateaubriand St. Malo

ปิดท้ายด้วยของหวานในคอร์สอาหารกลางวัน เป็นไอศกรีม 2 ลูก พร้อมแท่งน้ำตาลหวานเจี๊ยบจนกินไม่หมด

Le Chateaubriand St. Malo Ice Cream

เนื่องจากเมืองแห่งนี้เป็นเมืองโจรสลัดเก่า ด้านนอกเมืองเลยมีคนทำเรือโจรสลัดไว้ด้วย (จอดอยู่ในน้ำจริงๆ) อยากขึ้นไปดูบนเรือก็ได้แต่ต้องเสียตัง เลยได้แต่ถ่ายรูปจากด้านนอก

St. Malo Pirates Ship

แหล่งท่องเที่ยวในเมืองแซงมาโลยังมีอีกหลายจุด เช่น ประภาคารที่ยื่นไปในทะเล และนักท่องเที่ยวสามารถเดินบนกำแพงไปได้ถึงตัวประภาคารเลย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวรุ่นใหม่ๆ เช่น คาสิโน ตั้งอยู่นอกเมืองด้วย ถ้าใครชอบกิจกรรมเอาต์ดอร์ โดยเฉพาะเกี่ยวกับทะเล พวกพายเรือ นั่งเรือ ดำน้ำ มาที่ Saint Malo รับรองมีกิจกรรมลักษณะนี้มากมาย (ดูคลิปแนะนำของการท่องเที่ยว Saint Malo ประกอบ)

ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้จาก เว็บไซต์ Tourism Saint Malo (ข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ)