รีวิว สิงห์ปาร์ค (ไร่บุญรอด) จ.เชียงราย อาณาจักรไร่ชาแห่งตระกูลเบียร์สิงห์

อัพเดต : ข้อมูลเทศกาลบอลลูนนานาชาติที่สิงห์ปาร์ค วันที่ 14-18 ก.พ. 60

ทีมงาน 2Baht.com ได้มีโอกาสไปเยือน “ไร่บุญรอด” (Boonrawd Farm) ของตระกูลภิรมย์ภักดี เจ้าของเบียร์สิงห์ ที่ปรับปรุงโฉมใหม่เป็นครั้งแรก เคยไปสมัยยังเป็นทุ่งข้าวบาร์เล่ย์อยู่เลย ปัจจุบันใช้ชื่อใหม่ว่า “สิงห์ปาร์ค” (Singha Park)  เรียกได้ว่าออกแบบและจัดสรรอย่างเป็นธรรมชาติ สวยงามอย่างลงตัว อลังการ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่กำลังมาแรงของ จ.เชียงราย

ไร่บุญรอดแต่เดิมนั้นปลูกข้าวบาเล่ย์ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาทำการเกษตรที่หลากหลาย ทั้งไร่ชา สวนผลไม้ แปลงผัก รวมถึงเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสำหรับบุคคลภายนอก เช่น สวนสัตว์ เลนจักรยาน ถนนรอบไร่เข้ามาอีกเพียบ

ที่สำคัญคือออกแบบมาอย่างสวย แทบทุกอย่างคือมองไปมุมไหนก็สวยน่าถ่ายรูปไปหมด โค้งเว้าไปตามเนินสูง-ต่ำดูสวยงาม จึงเก็บข้อมูลและภาพบรรยากาศมาฝากกัน

แผนที่และวิธีการเดินทาง

ไร่บุญรอดตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.เมืองเชียงราย ห่างจากอำเภอเมืองไม่ไกลนัก และอยู่ไม่ไกลจากวัดร่องขุ่น แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของ จ.เชียงรายในปัจจุบัน ดูตำแหน่งจากแผนที่ด้านล่าง

การเดินทางจาก อ.เมืองเชียงราย ถ้ามาจากแม่สาย-แม่จัน หรือ สนามบินแม่ฟ้าหลวง ให้มาทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ (ถนนพหลโยธิน หรือ ทางหลวงหลายเลข 1) จากนั้นให้สังเกตุสามแยกวัดร่องขุ่น ให้เลี้ยวขวาเข้ามาตรงไปอีก 5 กม. จะเจอสามแยกให้เลี้ยวขวาแล้วตรงมาอีก 2 กม. จะเห็นสิงห์ปาร์คอยู่ทางซ้ายมือ (หน้าทางเข้าจะมีรูปปั้นสิงห์สีทองอร่าม ยืนเด่นเป็นสง่า รับรองไม่ขับรถเลยแน่ๆ จ้า)

พิกัด GPS : 19.852998,99.743374 (Google Maps)

เวลาเปิดทำการ : ไร่บุญรอด เปิดทุกวันเวลา 8.00 – 17.00 น. ส่วนร้านอาหารภูภิรมย์เปิด 11.00 – 22.00 น.

โทรศัพท์สอบถาม :  053-172-870, 091-576-0374 (ดูข้อมูลเพิ่มเติมจาก Facebook)

ไร่บุญรอดเปิดให้นำรถยนต์ภายนอกเข้าไปเพียงบางจุดเท่านั้น (ดูแผนที่ด้านล่างประกอบ) พื้นที่ชั้นในจำเป็นต้องนั่งรถบริการของไร่เข้าไปได้วิธีเดียว จุดที่เปิดให้คนภายนอกนำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปมีแค่จุดที่ 3 และจุดที่ 4 เท่านั้น

อธิบายแผนที่ไร่บุญรอด

เนื่องจาก อาณาจักรสิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย แห่งนี้กว้างใหญ่มาก มีเนื้อที่กว่า 8,000 ไร่ ถึงแม้จะเปิดให้คนนอกเข้าชมเพียงบางส่วน แต่ก็ยังกว้างอยู่ดี ทีม 2Baht จึงขออธิบายพื้นที่โดยรอบคร่าวๆ ก่อนนำชมไร่กัน โปรดดูแผนที่ด้านล่างประกอบคำบรรยาย

• บริเวณทางเข้า หรือ รูปปั้นสิงห์สีทองที่เป็นสัญลักษณ์ ในรูปคือเครื่องหมายถูกสีเขียว
• ประชาสัมพันธ์ : จุดลงทะเบียนฟาร์มทัวร์ มีที่จอดรถข้างๆ บริเวณใกล้เคียงจะมีร้านขายของฝาก ร้านชา กาแฟ และห้องน้ำ
• จุดแวะที่ 1 ฟักทองยักษ์ (เฉพาะรถราง) : ถ้ามาช่วงหน้าหนาวจะมีเนินทุ่งดอกคอสมอสสวยๆ ให้ถ่ายรูป พร้อมรถม้าเก่าๆ และฟักทองยักษ์
• จุดแวะที่ 2 คอกยีราฟ ม้าลาย (เฉพาะรถราง) : แวะให้อาหารยีราฟ ม้าลาย ได้ที่จุดนี้
• จุดแวะที่ 3 ศูนย์กีฬาและสันทนาการ หรือ บ้านแดง :  มีบริการเช่าจักรยาน และลงทะเบียนเพื่อโรยตัวโหนไร่ชา หรือที่เรียกว่า Zip Line
• จุดแวะที่ 4 ร้านอาหารภูภิรมย์ : ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยจุดหนึ่งในไร่ และยังสามารถเดินไปชมจุดชมวิวไร่ชา 360 องศา มีมุมบ่อน้ำ 100 ไร่ สวยๆ เป็นฉากหลัง

หมายเหตุ จุดที่ 1, 2 สงวนเฉพาะรถรางเท่านั้น ส่วนจุดที่ 3, 4 สามารถนำรถยนต์เข้าได้ ตามเส้นทางสีน้ำเงินในแผนที่ด้านล่าง

กิจกรรมฟาร์มทัวร์ (นั่งรถรางพาชมไร่บุญรอด)

กิจกรรมที่มีตลอดทุกวัน ทั้งปี ไม่เว้นวันหยุด ลงทะเบียนวันต่อวัน ตั้งแต่ 1 พ.ย. 58 คิดค่าบริการ 50 บาท (ยกเว้นเด็กที่ส่วนสูงไม่เกิน 110 ซม.) พร้อมเริ่มระบบ Shuttle Bus ในการนำเที่ยวโดยนักท่องเที่ยวจะได้รับบัตรผ่าน พร้อมคูปองแลกน้ำดื่มตราสิงห์และเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว อย่างละ 1 ใบ เริ่มตั้งแต่ 8.00 น. การเดินรถจะมี 2 แบบแล้วแต่วันที่เข้าชม

แบบที่ 1 วันจันทร์ – ศุกร์ เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์

• ให้บริการแบบรถทัวร์ทัศนาจร (ขึ้นรถคันไหนไปกับรถคันนั้นตลอด แวะจอดตามจุดต่างๆ ก็กลับมาขึ้นรถคันเดิม)
• เวลาเดินรถ 8.30 – 16.00 น. รถออกทุก 30 นาที ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง/รอบ

แบบที่ 2 วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

• ให้บริการแบบ Shuttle Bus (เหมือนรถเมล์ หรือ รถรางงานพืชสวนโลก จ.เชียงใหม่ คือให้เราแวะลงตามจุดจอดกลางทาง เมื่อเราชมจนพอใจก็รอขึ้นรถบัสคันถัดๆ ไป)
• เวลาเดินรถ 8.15 – 16.15 น. รถออกทุก 15 นาที จนถึงเวลา 16.15 น.
• หลัง 16.15 น. จะนำรถเปล่าเข้าไปรับนักท่องเที่ยวที่ยังอยู่ภายในไร่เพื่อกลับออกมาเท่านั้น

เริ่มจากไปลงทะเบียนที่จุดประชาสัมพันธ์กันก่อน (อยู่ข้างที่จอดรถด้านหน้าสิงห์ปาร์ค) เจ้าหน้าที่จะขอชื่อเราพร้อมจำนวนคณะที่มาด้วยกันว่ามีกี่คน พร้อมบอกรอบรถให้กับเรา จากนั้นก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปกับพี่สิงห์ หรือ แปลงดอกไม้หน้าทางเข้ารอก็ได้ ถึงเวลาค่อยกลับมาขึ้นรถ (จุดที่ขึ้นรถก็อยู่ตรงเชือกสีฟ้าที่กั้นแหละค่ะ)

คำอธิบายของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับระบบรถนำเที่ยวภายในไร่บุญรอด

หน้าตาของรถนำเที่ยวภายในไร่บุญรอด-สิงห์ปาร์ค

แปลงดอกไม้ด้านหน้าไร่ (เปลี่ยนตามฤดูกาล) ให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปเล่น

สิงห์ยักษ์สีทอง สะท้อนแดดดูทองอร่าม สัญลักษณ์ของไร่บุญรอด รวมถึงบริษัทแม่ สิงห์คอร์ป และเบียร์สิงห์ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ถือเป็นจุดถ่ายรูปสำคัญที่คนมาเที่ยวไร่ทุกคนต้องมาถ่ายเป็นที่ระลึกเก็บไว้

เมื่อถึงเวลาก็กลับไปขึ้นรถรางที่ประชาสัมพันธ์จุดเดิม เจ้าหน้าที่จะประกาศเรียกตามชื่อที่ลงทะเบียนไว้ ก็ไปยืนรอตรงช่องผ้ากั้นสีฟ้า ยืนรอ 2 แถว / 1 ช่อง รวมได้ 6 แถว (โดยปกติ 1 คณะ จะให้นั่งรวมด้วยกัน 1 แถว ถือว่าจัดระเบียบได้ดีเลยทีเดียว)

รถรางแต่ละคันจะใช้เวลาทัวร์รอบไร่ประมาณ 1 ชั่วโมง แวะจอดให้ถ่ายรูป 2 จุดๆ ละประมาณ 10 นาที มีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายและแนะนำจุดชมวิวสองข้างทางตลอด

เริ่มแรกรถผ่านทุ่งดอกคอสมอสหน้าไร่บุญรอด ทุ่งข้าวบาร์เลย์สีเขียวอ่อนกำลังสวย สวนพุทราพันธุ์ซื่อหมี่จากไต้หวัน (เสียดายที่เรามากันปลายเดือนมกราคม เพิ่งหมดกิจกรรมเก็บพุทราสดๆ จากไร่ไปหมาดๆ เอง แต่ไกด์แจ้งว่าสามารถไปซื้อได้ที่โซนร้านค้าของฝากด้านหน้าทางเข้า)

จุดจอดที่ 1 ฟักทองแฟนซียักษ์ (เฉพาะรถราง)

ตรงเนินด้านหลังที่เพิ่งถูกไถกลบเป็นดินโล่งเตียนนั้นก่อนหน้านี้จะมีทุ่งดอกคอสมอส เสียดายมาช้าไปหน่อย เลยไม่ทันได้ชมความงามในจุดนี้กันอย่างเต็มที่ จุดนี้จะมีรถม้าเก่าคลาสสิคและฟักทองแฟนซียักษ์ให้ถ่ายรูปได้หลายมุม จุดนี้ให้พักถ่ายรูปได้ 10 นาที

จากนั้นรถรางจะพาเราผ่านไร่ชาอู่หลง แปลงราสเบอร์รี่ แปลงพืชผักเมืองหนาว อย่างเช่น คะน้าใบหยิก ก่อนที่จะกลับรถแล้วพาไปแวะจุดที่ 2 กันต่อ

จุดจอดที่ 2 ให้อาหารยีราฟ ม้าลาย และชมวัววาตูซี (เฉพาะรถราง)

จุดนี้เป็นที่สนใจของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา สามารถซื้ออาหารที่ซุ้มข้างๆ ไปป้อนได้ด้วยนะ แต่ไกด์สาวของเราบอกว่าให้ระวังม้าลายหน่อย เพราะว่าตาฝ้าฟาง แต่ฟันแหลมคม จุดนี้ก็ให้พัก 10 นาทีเช่นกัน

โซนสารพัดสัตว์ของไร่บุญรอด อยู่ติดกับแปลงปลูกผักแปลงใหญ่ มีเทือกเขาเป็นทิวอยู่เบื้องหลัง

ก่อนรถรางจะกลับไปยังจุดเริ่มต้น จะผ่านโรงอบใบชาของสิงห์ปาร์ค ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัทจากญี่ปุ่น

จุดที่ 3 ศูนย์กีฬาและสันทนาการ หรือ บ้านแดง (นำรถยนต์เข้ามาจอดได้)

โซนนี้จะมีให้เช่าจักรยาน ลงทะเบียนเพื่อโรยตัวโหนไร่ชา (Zip Line) และยังเคยเป็นที่จัดงาน Farm Festival ช่วงปลาย พฤศจิกายนของทุกๆ ปีอีกด้วย

ด้านหลังบ้านแดงยังมีลานให้ตั้งแคมป์ด้วยนะ

สำหรับคนที่อยากมาขี่จักรยานเที่ยวโดยไม่พึ่งรถของทางไร่ สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามายังจุดที่ 3 ได้โดยตรง แล้วมาเช่าจักรยานที่นี่ได้เลย มีจักรยานแบบ 2 ที่นั่ง (Tendum Bike) ให้เลือกด้วยสำหรับคนที่มาเป็นคู่

อัตราค่าบริการเช่าจักรยานและแผนที่

ค่าเช่าจักรยาน 2 ที่นั่ง	ค่าเช่าจักรยานเสือภูเขา
1 ชั่วโมง 150 บาท 2 ชั่วโมง 200 บาท 6 ชั่วโมง หรือ 1 วัน 400 บาท	1 ชั่วโมง 100 บาท 3 ชั่วโมง หรือ 1/2 วัน 250 บาท 6 ชั่วโมง หรือ 1 วัน 400 บาท

นอกจากนี้ผู้ที่นำจักรยานมาเอง สามารถเข้าไปปั่นได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

แผนที่เส้นทางการปั่นจักรยานรอบสิงห์พาร์ค

หน้าตาของจักรยานสองที่นั่ง พร้อมที่นั่งพิเศษ

ไร่บุญรอดออกแบบมาเพื่อการขี่จักรยานโดยเฉพาะ มีเส้นทาง Bike Lane แยกจากถนนปกติเกือบทุกจุด ขี่ได้สบายไม่ต้องกลัวรถ ยิ่งถ้าอากาศดีๆ ยิ่งสนุก

ตัวอย่าง Bike Lane ของไร่บุญรอดที่แยกจากถนนปกติ ขี่เลียบตามไร่ชา บึงน้ำ มีวิวเป็นเทือกเขาด้านหลัง

อัตราค่าบริการโหนตัวไร่ชา หรือ Zip Line

นอกจากกิจกรรมขี่จักรยานแล้ว ในจุดที่สามยังมีกิจกรรมอื่นๆ คือโหนตัวหรือ Zip Line ให้เล่นด้วย

กิจกรรม Zip Line มีทั้งหมด 4 ฐาน ราคาท่านละ 800 บาท สามารถมาจองคิวเล่น และใส่ชุดอุปกรณ์ที่บ้านแดง (ครบ 6 คนถึงออก 1 รอบ) โดยต้องขึ้นรถเข้าไปที่ไร่ชาแปลงที่ 2 ซึ่งอยู่ด้านในไร่ (อ้างอิงจาก facebook Singha Park)

จุดที่ 4 จุดชมวิวไร่ชา 360 องศา และร้านอาหารภูภิรมย์ (นำรถยนต์เข้ามาจอดได้)

บริเวณจุดชมวิวไร่ชา 360 องศา จะเป็นระเบียงยื่นเข้าไปในไร่ชาขั้นบันได เห็นวิวไร่ชาพานอรามา 360 องศารอบทิศทาง นอกจากนี้ รอบๆ จุดชมวิวยังปลูกต้นเหลืองเชียงราย ซึ่งตอนที่ไปยังไม่บานเต็มที่ ถ้าได้มาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ดอกจะสีเหลืองสวยงามมาก (Link)

ตัวอย่างไร่ชาขั้นบันไดของจุดชมวิวไร่บุญรอด

ต้นเหลืองเชียงราย พร้อมแปลงดอกคอสมอส

ร้านอาหารภูภิรมย์ (ตั้งชื่อตามพระยาภิรมย์ภักดี ต้นตระกูลเบียร์สิงห์) มี 2 อาคาร อาคารแรกไว้สำหรับการเหมาจัดเลี้ยง

อาคารหลักเป็นภัตตาคารสำหรับให้บริการลูกค้าทั่วไป เสียดายว่าไปเที่ยวไร่กันแต่เช้า ร้านอาหารภูภิรมย์ยังไม่ทันเปิด เลยไม่ได้ลองชิม แต่ดูจากบรรยากาศแล้ว ถ้ามาตอนเย็นๆ น่าจะสวย บรรยากาศดี (ร้านอาหารภูภิรมย์เปิดเวลา 11.00 – 22.00 น.)

บริเวณเนินของภูภิรมย์ถือเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดของไร่บุญรอด เพราะอยู่บนเนิน มีไร่ชาเขียวเข้มรอบทิศทาง แถมยังมีบึงน้ำขนาดใหญ่ หรือเรียกว่า “บึง 100 ไร่” เป็นตัวช่วยเสริมบรรยากาศด้วย

ชิมชาและซื้อของฝาก

ก่อนกลับแวะช้อปปิ้งซื้อของฝากได้ที่บริเวณประชาสัมพันธ์ จะมีร้านชา กาแฟ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเครือบุญรอดบริวเวอรี

เริ่มจากร้านชาก่อน เป็นอาคารที่อยู่ฝั่งซ้ายมือ (อีกด้านคือประชาสัมพันธ์) หน้าตาออกแบบสวยงามมาก

บรรยากาศภายในออกแบบแนว modern แต่ก็อบอุ่น ตกแต่งด้วยไม้ มีเครื่องประดับวางบนชั้นมากมาย

ผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญของไร่บุญรอดในปัจจุบันคือ “ชาอู่หลง” ซึ่งร้านนี้เป็นจุดชิมชาให้ได้ลองว่าชาของไร่บุญรอดคุณภาพดีแค่ไหน

น้องพนักงานชงชา หน้าตาน่ารัก > <

ชาอู่หลงเบอร์ 12 ผลิตจากโรงอบใบชาในไร่เลย สามารถชิมและซื้อกลับบ้านได้ในราคาแพคละ 120 บาท โดยซื้อได้จากร้านค้าของไร่ที่อยู่ติดกัน

นอกจากชาร้อนชงแบบจีนแล้ว ข้างๆ กันยังมี “ชาไข่มุก” ของไร่บุญรอด ที่ใช้ชาอู่หลงนี่แหละเป็นวัตถุดิบ ขายแก้วละ 50 บาท มีให้เลือก 3 รสคือ อู่หลงปกติ, บาร์เลย์, เอิร์ลเกรย์ เสียดายว่าไม่ได้ลองชิม

ร้านกาแฟของไร่บุญรอด อยู่ตรงข้ามกับร้านชา อยู่ฝั่งขวามือ มีกาแฟร้อนเย็นบริการ ราคาก็ถือว่าไม่แพงมากเมื่อเทียบกับกาแฟขึ้นห้างอื่นๆ คือกาแฟเย็นแก้วละ 65-80 บาท

เมนูกาแฟและเครื่องดื่ม มีน้ำผลไม้ด้วย

เค้กก็มีให้เลือกสำหรับคนที่อยากได้อาหารหนักท้อง

ชิมกาแฟ กับน้ำเสาวรส (passion fruit) เปรี้ยวสะใจดี แต่แอบแพงไปนิด 45 บาท

บรรยากาศร้านกาแฟน่านั่งมากๆ แต่งร้านสวยมาก

อาคารตรงกลางเป็นร้านขายของที่ระลึก ส่วนใหญ่ก็เป็นผลิตภัณฑ์ของไร่บุญรอดเอง เช่น ชาอู่หลง (พระเอกของงานนี้) น้ำองุ่น น้ำเสาวรสใส่ขวดพร้อมดื่ม เป็นต้น

ใครคอแห้งกระหายน้ำก็ไม่ต้องกังวล เพราะคุณกำลังอยู่ในไร่ของเจ้าพ่อเครื่องดื่มรายใหญ่ของไทย! แบรนด์อะไรที่เครือสิงห์ทำขาย มีขายที่นี่หมด แม้แต่เครื่องดื่มชูกำลัง “ซันโว”

ถ้าจะเอากันจริงๆ ก็มีเบียร์ให้บริการ ทั้งลีโอและสิงห์ สองเบียร์หลักของกลุ่มธุรกิจ

ปฏิทินกิจกรรมและดอกไม้บานช่วงฤดูหนาว

ในช่วงฤดูหนาว ไร่บุญรอดยังมีกิจกรรมเพิ่มเติมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ดังนี้

กิจกรรมเก็บผลไม้สดๆ จากไร่

• เดือนมกราคม พุทราซื่อหมี่พันธุ์ดีจากไต้หวันที่ตัดต่อกิ่งจากต้นพันธุ์พื้นเมืองเพื่อให้ทนต่อโรคและแมลง (ตะกร้าละ 100 บาท)
• เดือนกุมภาพันธ์ สตรอเบอร์รี่พันธุ์ 80 พันธุ์เดียวกับอ่างขาง

ชมดอกไม้สวยๆ

• เดือนปลายพฤศจิกายน – ต้นเดือนมกราคม ทุ่งดอกคอสมอส (ดาวกระจายสีชมพู) ปอเทืองสีเหลือง
• ปลายเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม ต้นเหลืองเชียงราย (ลองจินตนาการว่าเอาดอกชมพูพันธุ์ทิพย์เปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีเหลืองสดๆ น่ะใช่เลย)

เทศกาลบอลลูนนานาชาติปี 2560 (Singhapark Chiangrai International Balloon Fiesta 2017)

• จัดระหว่างวันที่ 14-18 ก.พ. 60 และสิงห์ปาร์คยังเปิดให้บริการทุกจุดตามปกติ
• การจัดคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง 5 วัน เข้าชมฟรี
  • 14 ก.พ. อะตอม ชนกันต์/สงกรานต์ The Voice/Lipta
  • 15 ก.พ. บุรินทร์/ เต็ม+แหนม+อิงค์/แสตมป์
  • 16 ก.พ. ฮิวโก้/วงพอส/LomoSonic
  • 17 ก.พ. Playground/ Seasons Five+ฟิล์ม บงกช/วงมายด์/ฟักกลิ้ง ฮีโร่ + Ponr
  • 18 ก.พ. jetset’er /Zeal/ Silly Fools+แดกซ์

คำแนะนำสำหรับผู้สนใจมาเที่ยวไร่บุญรอด

• เนื่องจากรถรางหรือทัวร์ฟาร์มนั้นเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ถ้าได้มาเที่ยวเชียงรายหลายๆ วันอยากจะแนะนำให้มาวันธรรมดาช่วงเช้าๆ ลงทะเบียนไม่เกิน 8.15 น. จะดีกว่า เพราะไม่ต้องเสียเวลารอคิว และหากมาในช่วงวันหยุดหรือเทศกาลถ้ามาหลัง 11.00 น.โอกาสที่จะไม่ได้คิวนั่งรถรางจะมีสูงมาก
• หากคิวเต็ม สามารถนำรถยนต์เข้าไปได้ 2 จุด คือ ศูนย์กีฬาและสันทนาการ และร้านอาหารภูภิรมย์ ตามแผนที่ด้านบนเลยจ้า

คุณสามารถอ่านบทความสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายเพิ่มเติม หรือ ติดตามเราที่ facebook เพจ “2baht.com” ได้อีกหนึ่งช่องทางนะคะ