ก่อนอื่นอยากแนะนำให้ลองอ่าน ข้อมูลการเช่ารถสำหรับเที่ยวในไทย-เปรียบเทียบราคาบริษัทเช่ารถยนต์ กันดูก่อน ว่ามีกระบวนการเช่ารถ และการเลือกบริษัทเช่ารถนั้นควรคำนึงถึงเรื่องใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขการรับ-ส่งรถ การทำประกันแต่ละประเภท
ในบทความนี้ 2Baht.com ขออธิบายขั้นตอนการเช่ารถออนไลน์ผ่านเว็บจากบริษัทรถเช่ารายหนึ่งคือ Sixt Thailand ว่าทำกันอย่างไร
เหตุใดจึงเลือก Sixt Thailand
ขอแจ้งให้ทราบก่อนว่า รีวิวนี้ไม่ได้รับสปอนเซอร์แต่อย่างใด พอดีว่าทีมงาน 2Baht.com เคยใช้บริการ Sixt มาหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่ยังเป็น Master Car Rental อยู่ ซึ่งบริการโอเค มีสาขาตั้งอยู่ในสนามบินหลายแห่ง และมี 20 สาขาทั่วประเทศไทย ที่ผ่านมายังไม่เคยเจอรถที่มีปัญหา ราคาไม่แพง จึงยังไม่เคยลองเจ้าอื่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด (อันนี้ก็คล้ายกับการซื้อโทรศัพท์มือถือ แต่ละคนย่อมมีความชอบหรือประสบการณ์แตกต่างกัน รีวิวนี้จึงเป็นการมาเล่าประสบการณ์ที่ได้รับให้ฟังเท่านั้นจ้า)
ถ้าในอนาคตเรามีโอกาสได้ลองบริษัทรถเช่ารายอื่น ก็จะมาเขียนแบ่งปันประสบการณ์กันต่อไปค่ะ
เงื่อนไขการเช่ารถ Sixt Thailand
- ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล และอายุไม่ต่ำกว่า 23 ปี
- การจ่ายค่าเช่าไม่รับเป็นเงินสด รับเฉพาะบัตรเครดิตเท่านั้น และมีการมัดจำด้วยการกันวงเงินบัตรเครดิตเพื่อมัดจำตั้งแต่ตอนรับรถอีก 20,000 – 50,000 บาท แล้วแต่รุ่นรถ ดังนั้นหากใครวงเงินไม่ถึงควรโทรศัพท์แจ้ง Call Center ของบัตรเครดิตที่จะไปรูดเพื่อขอเพิ่มวงเงินชั่วคราว
ขั้นตอนการจองรถเช่า Sixt Thailand
1) ก่อนทำการจองรถ แนะนำให้ตรวจสอบตารางเที่ยวบินของเราก่อนว่า Flight ไปและกลับ วัน-เวลาใด เพื่อจะได้จองรถเช่าให้สอดคล้องกัน (อย่างทีเคยเขียนไปแล้วคือ บริการรถเช่ามักคิดเป็นวัน ดังนั้นควรเลือกเวลาคืนรถให้ใกล้เคียงกับเวลาเช่ารถ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มถ้ามีเศษเกินไม่กี่ชั่วโมง)
- ตัวอย่างในรูปนี้จะเป็น Flight Schedule ไปยังสนามบินปลายทาง จ.เชียงราย
- เดินทางถึงเชียงราย วันที่ 24 ม.ค. 58 เวลา 14.25 น. <– เวลารับรถอาจจะเกินกว่านี้อีก 10-15 นาที (14.25 – 14.40 น.) เผื่อรอรับกระเป๋าได้
- ขึ้นเครื่องกลับ กทม. วันที่ 27 ม.ค. 58 เวลา 14.55 น. <– เวลาคืนรถ อาจจะเร็วกว่านี้ได้อีก 1 ชั่วโมง (13.55 – 14.55 น.) เพราะอย่างไรก็ต้องมา Check-in ที่สนามบินก่อนเครื่องออกอยู่แล้ว
- ดังนั้นเราสามารถรับรถ วันที่ 24 ม.ค. 58 ~14.40น. และคืนรถ วันที่ 27 ม.ค. 58 ~13.55 น. ซึ่งจะนับวันเช่ารถได้ 3 วันพอดี
2) เข้าเว็บ Sixt Thailand เพื่อจองรถในวันที่ต้องการ
- เลือกสาขาที่รับและคืนรถให้ตรงกับสนามบินปลายทาง ในที่นี้คือ “Chiang Rai Airport”
- เนื่องจากเวลาที่ให้เลือกเป็นสล็อตละครึ่งชั่วโมง ( hr:00, hr:30 น.) เราจึงเลือกวันเวลารับและคืนรถตามภาพด้านล่าง โดยขยับเวลาส่งคืนรถให้พอดี 3 วัน
- จากนั้นกดปุ่ม “Continue”
คำแนะนำ
- เว็บนี้รับจองรถล่วงหน้า 2 วันก่อนเดินทางเป็นอย่างน้อย
- ควรกดจองล่วงหน้าประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ค่าเช่าที่ค่อนข้างถูก (ยิ่งจองใกล้วันเดินทาง ราคาจะยิ่งเพิ่ม) หากมั่นใจว่าจะเดินทางก็ควรจองเลยทันที
3) ระบบจะแสดงราคาค่าเช่าของรถแต่ละรุ่นให้ หากสงสัยว่ารถแต่ละรุ่นเป็นอย่างไร ลองโทรถามพนักงาน Sixt แต่ละสาขาได้ ซึ่งทาง 2Baht.com ได้เลือกดังนี่้
- รถ Toyota Altis รุ่น 1,600 CC ให้เหมาะกับการขับรถเที่ยวเชียงราย ซึ่งจะมีบางจุดที่ต้องขับรถขึ้นดอย
- เพิ่มความปลอดภัยโดยเลือกรุ่นที่มีถุงลมนิรภัยและเบรค ABS
- ราคาของรถรุ่นนี้จะถูกหน่อย เพราะว่าเป็นโมเดลรถรุ่นก่อนหน้า (อยากรู้ว่ารถที่จะเช่าอายุกี่ปี ลองโทรสอบถามพนักงานประจำสาขาจะให้คำตอบได้ดีที่สุดจ้า)
4) กดเลือกประกันภัยเพิ่มเติม และอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม (สำหรับ Sixt Thailand นั้น เราไปแจ้งที่สาขาในวันรับรถก็ได้ ยังเรตเท่าเดิมอยู่) เมื่อเลือกเรียบร้อยแล้ว กด “Pay upon arrival” หรือ ไปชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ณ สาขาในวันที่รับรถ
ประกันภัย (ดูภาพด้านล่างประกอบ) ที่รวมมาอยู่แล้วกับค่าเช่ารถ คือประกันภัยพื้นฐาน (ข้อ 2.1-2.3 ในภาพด้านล่าง) ส่วนประกันที่มีให้ซื้อเพิ่มเติมคือข้อ 2.4, 2.5 ในภาพ
อธิบายคำศัพท์เฉพาะของประกันภัยรถเช่าดังนี้
- Extra Collision Damage Waiver (ECDW) บางครั้งเรียก No Deduct เป็นประกันภัยเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงของผู้เช่าในการแบกภาระค่ารับผิดชอบเพิ่มเติมเมื่อเกิดอุบัติเหตุในกรณีที่ไม่มีคู่กรณี จ่ายเพิ่ม ราคาวันละ 200 บ.
- Personal Accident Insurance (PAI) หรือ การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งคุ้มครองเฉพาะบุคคลที่อยู่ภายในรถเช่า จ่ายเพิ่มอีก ราคาวันละ 100 บ.
การจะจ่ายประกันภัยเพิ่มเติมหรือไม่คงขึ้นกับแนวทางของแต่ละคน ถ้ามั่นใจว่าขับรถดีไม่มีชน และอยากประหยัดก็ไม่ต้องซื้อเพิ่ม แต่ถ้าต้องการความสบายใจ 100% ว่ามีเหตุอะไรไม่ต้องชดเชยค่าเสียหายแน่นอน ก็ซื้อประกัน ECDW เพิ่มได้ตามต้องการ
อุปกรณ์เสริม จะมีให้เลือก 2 ชนิด
- Navigation system หรืออุปกรณ์นำทาง (ข้อนี้ถ้าใครถนัดใช้จากสมาร์ทโฟนอยู่แล้วก็อาจจะไม่ต้องเช่าเพิ่มก็ได้) วันละ 300 บ.
- Child Seat สำหรับเด็กอายุ 1-4 ปี วันละ 400 บ. /ที่นั่ง เพื่อความปลอดภัยของบุตรหลาน
5) บันทึกข้อมูลผู้ขับขี่ ข้อมูลผู้จองสำหรับให้ Sixt ติดต่อกลับ และข้อมูลเที่ยวบินที่เราจะเดินทางไปยังสนามบินที่จะเช่ารถ
- หน้านี้เรายังไม่ต้องใส่ข้อมูลบัตรเครดิต หรือ ที่อยู่ก็ได้ (ไปแจ้งหน้างานได้ เพราะในเว็บนี้ไม่รองรับการจ่ายขณะเช่า อย่างไรก็ต้องไปจ่ายที่สาขารถเช่า หรือเรียกว่า “Pay upon arrival” อยู่แล้ว)
- ควรแจ้งรายละเอียดของเที่ยวบิน เพื่อที่ให้สาขารถเช่าสามารถ Tracking ได้ว่าเที่ยวบินเราล่าช้าหรือไม่
- ควรทบทวน ข้อมูลการจอง และเงื่อนไขการเช่ารถอย่างละเอียด ตรวจสอบจำนวนเงินทั้งหมดให้ครบถ้วน แล้วค่อยกดปุ่ม “Request vehicle”
5) จากนั้นจะแสดงหน้าจอสุดท้าย เป็นการยืนยันข้อมูลการจองรถ Sixt ที่เราได้เช่าไว้ ทั้งนี้จะมีการแจ้งให้เตรียมเอกสารประกอบการจองไปแสดงในวันจริง ดังนี้
- บัตรเครดิต โดยเมื่อถึงวันรับรถ เจ้าหน้าที่จะรูด 2 รายการ ได้แก่ การจ่ายค่าเช่าทั้งหมด และ การมัดจำวงเงินบัตรเครดิต (รถเล็ก 20,000 บ. ส่วนรถรุ่น Premium จะกันไว้ 50,000 บ. – สำหรับ Altis รุ่นนี้กันไว้ 20,000 บ. ค่ะ) การมัดจำนี้จะไม่หักเงินจริงๆ แต่จะกันวงเงินบางส่วนในบัตรเครดิตของเราไว้ ถ้าวันที่คืนรถมีค่าเสียหาย ก็จะหักเงินจากค่ามัดจำส่วนนี้ แต่ถ้าขับดีปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ค่ามัดจำตรงนี้จะยกเลิกเองอัตโนมัติ ระบบรถเช่าทั่วโลกมัดจำกันแบบนี้
- ใบขับขี่ของผู้ที่จะขับรถเช่า
- บัตรประชาชน หรือ Passport
6) จากนั้นจะมีการส่ง e-mail ยืนยันการจองให้เรา ตาม Contact details ที่ได้ให้ไว้
ข้อมูลติดต่อเพิ่มเติม
- Call Center 1798 หรือ facebook
- เบอร์โทรศัพท์ติดต่อของ Sixt แต่ละสาขา
เทคนิค-คำแนะนำ
- ก่อนเดินทางประมาณ 3-5 วัน จะมีพนักงานจากสาขา Sixt โทรมาเพื่อยืนยันการเช่ารถจากเราอีกครั้ง หากไม่มีเจ้าหน้าที่โทรมายืนยัน ก็ควรโทรไปถามเพื่อคอนเฟิร์มและป้องกันปัญหาการตกหล่น เดี๋ยวไม่มีรถให้เช่าจะเที่ยวไม่สนุกจ้า (อ้างอิงจาก pantip)
- ยืนยันกับเจ้าหน้าที่เรื่องเอกสารประกอบ และวงเงินบัตรเครดิตสำหรับมัดจำด้วย
- หากวงเงินบัตรเครดิตสำหรับใช้มัดจำไม่พอ ควรรีบโทรแจ้ง Call Center ของบัตรเครดิตที่ใช้เพื่อขอเพิ่มวงเงินชั่วคราว
- ควรพิมพ์ใบยืนยันการจองที่ได้รับจาก e-mail ติดตัวไปในวันที่รับรถด้วย
- อย่ากดจองกันเล่นๆ นะ เห็นใจผู้ประกอบการและคนที่เค้าต้องการใช้รถกันจริงๆ ด้วย เอาให้มั่นใจว่าจะเช่ารถแน่ๆ แล้วค่อยจองดีกว่า
หากใครต้องการดูตารางเปรียบเทียบเงื่อนไข และราคาเช่ารถของบริษัทเช่ารถเจ้าอื่น แนะนำให้อ่านบทความนี้ดูได้ค่ะ