อูบุด (Ubud) เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ตรงตอนกลางของเกาะบาหลี ไม่ติดทะเล อยู่ท่ามกลางขุนเขาและแมกไม้ แต่มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะศูนย์กลางด้านศิลปะ-วัฒนธรรมของบาหลี เต็มไปด้วยหมู่บ้านงานศิลปะหัตถกรรมมากมาย รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของฝรั่งจำพวกช่างแสวงหาตัวตน (จะเรียกว่าพวกฝรั่งฮิปสเตอร์ก็พอได้)
ถ้าให้เทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทย อูบุดน่าจะคล้ายกับ “ปาย” ในฐานะเมืองท่องเที่ยวฮิปๆ กลางหุบเขา แต่ในแง่ความเจริญและคับคั่งน่าจะมากกว่าปาย และเน้นฝรั่งตะวันตกแนววัฒนธรรมเป็นหลัก
ประวัติของเมือง Ubud
เมือง Ubud เป็นเมืองเก่าแก่ของเกาะบาหลี อยู่ตรงนี้กันมานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 และเป็นชุมชนเล็กๆ ที่คงวัฒนธรรมฮินดูดั้งเดิมของตัวเองไว้ ปัจจุบันมีประชากรท้องถิ่นประมาณ 30,000 คน
Ubud มาโด่งดังในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเมื่อฝรั่งชื่อดังหลายๆ คน เริ่มมาค้นพบเสน่ห์ของเมืองเล็กๆ แห่งนี้ และพักอาศัยอยู่ที่นี่เพื่อออกงานเขียน งานเพลง ภาพวาด ทำให้ Ubud ค่อยๆ โด่งดังในฐานะเมืองด้านศิลปะมาตั้งแต่ราวปี 1900
โด่งดังด้วย Eat, Pray, Love
กระแสความดังครั้งล่าสุดของ Ubud มาจากหนังสือเรื่อง Eat, Pray, Love ของ Elizabeth Gilbert ที่ออกมาในปี 2006 หนังสือเรื่องนี้เล่าประวัติของผู้เขียนเองที่หย่ากับสามีตอนอายุ 32 แล้วเดินทางรอบโลกเพื่อตามหาสิ่งที่ขาดหายไป เธอเริ่มทริปจากอิตาลี ปรนเปรอความทุกข์ของตัวเองด้วยการกิน (Eat) จากนั้นโหยหาความสงบทางจิตใจด้วยการไปฝึกสมาธิที่อินเดีย (Pray) และปิดท้ายด้วยการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตทางโลกกับทางธรรมที่ Ubud และโชคชะตาพาให้เธอมาพบรักครั้งใหม่ที่นี่ (Love)
หนังสือเรื่อง Eat, Pray, Love ถูกทำเป็นหนังชื่อเดียวกันในปี 2010 โดยได้ดาราหญิงชื่อดัง Julia Roberts มาแสดงนำ หนังไม่ประสบความสำเร็จมากนักแต่ก็ช่วยกระจายชื่อเสียงของ Ubud ออกไปในวงกว้างยิ่งๆ ขึ้นไปอีก
เทรลเลอร์ภาพยนตร์ Eat Pray Love
ฉากเกาะบาหลีใน Eat Pray Love ช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวได้อย่างดีเยี่ยม
การมาเที่ยว Ubud ให้ครบเครื่องต้องมาฝังตัวอยู่ที่นี่หลายๆ วันและซึมซับบรรยากาศให้เต็มอิ่ม อย่างไรก็ตาม ทีมงาน 2Baht มีเวลาอยู่ที่นี่เพียงไม่กี่ชั่วโมง เก็บได้เฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญไม่กี่จุด แต่ก็อยากนำข้อมูลมาฝากกันเพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่อยากตามมาเที่ยวที่นี่ หรือเดินทางมาเพื่อแสวงหาตัวตนบางอย่างที่ยังขาดหายไป
เที่ยวกลางเมือง Ubud
Ubud เป็นเมืองเล็กๆ ที่เดินแป๊บเดียวก็ทั่วแล้ว กลางเมืองประกอบด้วยถนนสายหลักสองเส้นตัดกัน มีสถานที่สำคัญคือ “พระราชวัง Ubud” และ “ตลาด Ubud” พื้นที่โซนนี้เต็มไปด้วยโรงแรม ร้านอาหาร เกสต์เฮาส์ บาร์ ร้านขายของมากมายจับตลาดทัวริสต์ แต่พื้นที่รอบๆ นอกก็เป็นหมู่บ้านของคนท้องถิ่น สลับกับเกสต์เฮาส์เล็กๆ สำหรับคนที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบโลคัลด้วย ในบทความนี้จะสนใจเฉพาะกลางเมือง Ubud เท่านั้น
สี่แยกกลางเมือง Ubud เป็นจุดที่ตั้งของพระราชวัง Ubud (Ubud Palace) และตลาด Ubud (Ubud Market) ตามแผนที่ด้านล่าง
พระราชวัง Ubud
เริ่มกันที่พระราชวัง Ubud ก่อน เอาเข้าจริงแล้วพระราชวังของบาหลีหรืออินโดนีเซียไม่ค่อยมีอะไรมากนัก ขนาดไม่ใหญ่ อาจมีประตูหรือรูปปั้นแปลกๆ บ้างแต่ก็ไม่เยอะนัก จะมาหรือไม่มาก็ได้ แต่ในฐานะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางเมือง เดินทางผ่านง่าย และไม่เสียค่าเข้าชม ถ้ามาถึง Ubud แล้วก็ควรแวะเวียนมาดูสักหน่อย
รูปแบบของพระราชวัง Ubud ก็คล้ายๆ กับวัดในบาหลีอื่นๆ คือเต็มไปด้วยประตู ศาลา และรูปปั้นรูปเคารพ
ตลาด Ubud
สิ่งที่โดนใจคนไทยมากกว่าคงเป็นตลาด Ubud (Ubud Market) ที่อยู่ห่างไปเพียงข้ามฝั่งถนน ที่นี่มีขายทุกอย่าง ทั้งของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว ยันตลาดสดสำหรับคนท้องถิ่น
ตลาดฝั่งนักท่องเที่ยวจะดูโอ่โถงกว่า อาคารหลักเป็นอาคารสองชั้น เดินทะลุถึงกันได้หมด มีประมาณ 3-4 ตึก
ภายในตึกก็เต็มไปด้วยสินค้าสำหรับทัวริสต์ เสื้อผ้า หัตถกรรมแฮนด์เมด ของที่ระลึก
ถ้าเดินทะลุตลาดเข้ามาด้านหลัง จะเป็นโซนของงานศิลปะ ภาพเขียนกองเรียงราย (ภาพส่วนใหญ่ก็เซ็ตเดียวๆ กันหมด)
ของแปลกหน่อยที่เจอในทริปนี้ “ปลัดขิก บาหลี”
อย่างที่เคยเขียนไปในตอนก่อนๆ ว่า บาหลีมีประเพณีบูชากระทงดอกไม้ เราจะเห็นกระทงลักษณะนี้เต็มไปหมด ส่วนใหญ่จะวางพื้น
แม่ค้าขายกระทง จับกลุ่มตลาดแม่ค้าด้วยกันก็มีไม่น้อยเลย มีกระทรงสารพัดชนิดให้บริการ ซื้อไปตั้งเอาฤกษ์เอาชัย
ด้านซ้ายมือของตลาดหลัก จะเป็นตลาดสดสำหรับคนท้องถิ่น เดินเข้าไปได้ทางนี้ (จะเห็นแม่ค้าเอาของเทินหัวกันเป็นเรื่องปกติ)
ตลาดสดบาหลีน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน (แถมยังดู “ดิบ” กว่า “สด” กว่า เดินสนุกกว่า) มีขายทุกอย่าง ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์
เครื่องแกง เครื่องปรุง สมุนไพร ของแห้งบาหลี มียาหม่องตราเสือด้วย
หอมกระเทียม วัสดุปรุงอาหาร
บรรยากาศในตลาดสดของ Ubud
สังเกตว่าทุกแผงจะมีศาลบูชาสีทอง ไม่ทราบเหมือนกันว่าคืออะไร
ร้านขายผลไม้บาหลี หั่นแยกชิ้นแล้ว แพ็กใส่ถุงพลาสติก พร้อมขายทันที
สินค้ามากมาย ของกินของใช้ เดินสนุกเลย
ใจกลางเมือง Ubud
พื้นที่ใจกลางเมือง Ubud บนถนนเส้นหลัก เต็มไปด้วยความเจริญ อารมณ์จะคล้ายกับเดินแถว ถ.นิมมานเหมินทร์ หรือกลางเมืองเชียงใหม่
เต็มไปด้วยภัตตาคาร คลับ เกสต์เฮาส์ สำหรับชาวต่างชาติ
นานๆ ทีจะเจออาคารของท้องถิ่นมาแทรกบ้างประปราย อย่างในภาพเป็นแบงค์ของบาหลี
อาหารเด่น Ubud – เป็ดพิโรธ Dirty Duck
อาหารเลื่องชื่อของ Ubud คือ “เป็ดพิโรธ” หรือภาษาอังกฤษเรียก Dirty Duck (ภาษาถิ่นเรียก Bebek Bengil) เทียบกับอาหารไทยง่ายๆ คือ “เป็ดร่อน” หรือเป็ดอบแบบกรอบๆ นั่นเอง
ร้านที่เราไปกินมี 2 ชั้น โฆษณาว่าเป็นร้านที่นั่งชมดูทุ่งนาของ Ubud ด้วย ซึ่งก็มีนาจริงๆ แต่เป็นทุ่งนาที่เริ่มโดนบ้านเศรษฐีล้อมไว้แล้ว อีกไม่นานคงหมดไป (ฮา)
ร้านแต่งสวยทีเดียว เน้นบรรยากาศแบบใหม่ มีบ่อบัวอยู่ตรงกลางด้วย
บรรยากาศภายในร้าน
หน้าตาของเป็ดอบ Dirty Duck มาเป็นเซ็ต มีเป็ดหนึ่งตัว ข้าว ซุบ ผักเครื่องเคียง และผลไม้
รสชาติของเป็ดบาหลี ต้องบอกว่าเป็ดบ้านเราอร่อยกว่ากันเยอะ เป็ดบาหลีตัวเล็ก รสชาติไม่เด่นมาก แต่กินเอาบรรยากาศท้องถิ่นก็โอเค
กล่าวโดยสรุปแล้ว เรามีเวลาใน Ubud ไม่มาก คงไม่สามารถถ่ายทอดบรรยากาศของ Ubud ได้อย่างเต็มที่ แต่คิดว่าข้อมูลเท่าที่มีน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนอยากมาเที่ยว Ubud บ้าง
แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของ Ubud ที่คนนิยมไปกัน ได้แก่
- Goa Gajah วัดในถ้ำที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9
- Monkey Forest ป่าลิงศักดิ์สิทธิ์ ของคู่บ้านคู่เมือง Ubud
- Gunung Kawi หลุมศพของกษัตริย์โบราณ
รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้จาก Wikitravel หรือ Lonely Planet