การท่องเที่ยวเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ไม่ได้มีแค่การไปชมทะเลหมอกในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น แต่ยังมีมนต์เสน่ห์ในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม จะเป็นช่วงเวลา unseen เขาค้อ นั่นคือการล่องเรือที่แก่งบางระจัน ตำบลหนองแม่นา ชมแมงกะพรุนน้ำจืดแห่งเดียวในเมืองไทย ซึ่งมีเพียง 1 ใน 6 แห่งของโลกเท่านั้น
แก่งบางระจัน บ้านหนองแม่นา
ทีมงาน 2Baht มีโอกาสแวะมาเที่ยวเขาค้อในช่วงปลายมีนาคมพอดี จึงขอพาไปชม unseen ที่แก่งบางระจันสักหน่อยว่าจะเป็นอย่างไร หากมาในวันธรรมดาสามารถเอารถเข้ามาจอดใกล้กับท่าเรือที่จะไปล่องแก่งได้ค่ะ (ส่วนวันหยุดคงแล้วแต่ปริมาณนักท่องเที่ยว – แผนที่การเดินทางอยู่ด้านท้ายบทความนะคะ)
ที่โต๊ะลงทะเบียนจะมีแผ่นพับและคู่มือนำเที่ยวบ้านหนองแม่นา หยิบได้ตามสะดวก
ลำน้ำเข็กของแก่งบางระจัน มีทั้งหมด 3 ช่วง บริเวณท่าเรือที่เราลงมากันนี้เรียก แก่งบางระจัน หรือ แก่ง 1 ช่วงนี้น้ำในลำน้ำเข็กค่อนข้างแห้ง เลยไปได้ถึงแก่งที่ 2 เท่านั้น
พวกเรามากัน 3 คน เค้าคิดค่าบริการคนละ 200 บาท (ถ้าไปถึงแก่ง 3 – น้ำตกสงกรานต์ ราคาคนละ 350 บาทพร้อมอาหารกลางวันให้ แต่พอดีช่วงนี้น้ำแล้ง เรือไปต่อไม่ได้ จึงแวะมาได้แค่แก่ง 2 กันค่ะ)
ก่อนลงเรือทุกคนต้องสวมเสื้อชูชีพด้วย แม้จะเป็นการท่องเที่ยวชุมชนแต่ก็คำนึงถึงความปลอดภัยนะ
ด้านล่างคือท่าเรือที่เราจะลงไปล่องแก่งลำน้ำเข็กค่ะ บรรยากาศดี๊ดี อากาศร่มรื่น ไม่ค่อยร้อนมากเท่าไหร่
ฝีพายและไกด์ส่วนตัวของเราชื่อ คุณลุงเพ็ญ เป็นชาวบ้านหนองแม่นาโดยกำเนิด คุณลุงเล่าเรื่องสนุกๆ ให้ฟังตลอดการเดินทางเลย 🙂
บรรยากาศการล่องเรือแก่งบางระจัน เขาค้อ
เริ่มล่องเรือกันเลยดีกว่านะคะ พื้นที่ลำน้ำเข็กแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง พวกเราล่องลัดเลาะไปทางใต้ ไปยัง “แก่ง 2” ฝั่งซ้ายเป็น จ.เพชรบูรณ์ ส่วนฝั่งขวาเป็นจ.พิษณุโลก
น้ำที่นี่ค่อนข้างนิ่ง มีเศษดอกไม้หล่นเต็มผืนน้ำเลย ลุงเพ็ญบอกว่าดอกไม้นี้เอาไปดองเป็นอาหารได้ด้วย เป็นของที่หาทานยาก
ล่องไปแป้บเดียวจะเห็นผ้าผูกตรงต้นไม้ด้านหน้า แสดงบริเวณเขตอภัยทาน เนื่องจากมีสำนักสงฆ์อยู่ใกล้ๆ กัน
ช่วงหน้าร้อน ต้นไม้ต่างพากันออกดอก แบบต้นไม้ใหญ่ด้านขวามือนี้ ออกดอกสวยเต็มต้นเลย
สองฝั่งลำน้ำค่อนข้างเงียบสงบ จนบางครั้งได้ยินเสียงน้ำไหลเหมือนเสียงดนตรี เห็นแบบนี้ลุงเพ็ญบอกเราว่าบางจุดน้ำลึกเกือบ 8-9 เมตรเลยทีเดียว ส่วนสัตว์ป่าในนี้ก็มีหลากหลายนะคะ ไล่จากเบสิกๆ ก็มี กวาง (บางวันลงมาว่ายน้ำให้นักท่องเที่ยวชมกันด้วย) ช้างป่า กระทิง เสือ นกเงือก ก็ยังมีค่ะ
การล่องแก่งบางระจันเป็นการท่องเที่ยวแบบชุมชน คือ ชาวบ้านหนองแม่นารวมตัวกันจัดตั้งกันเองค่ะ ถ้าวันเยอะๆ ก็มีมากเกือบ 40 คน แต่ละวันชาวบ้านที่รับจ้างพายเรือก็จะมาเข้าคิว ใครมาแต่เช้าก็ได้ลูกค้าก่อน
เรือ 1 ลำจุนักท่องเที่ยวได้มากสุด 4 คน แต่จะมากหรือจะน้อย คนพายเรือก็ได้เที่ยวละ 200 บาทเท่ากัน ส่วนที่เหลือจะเก็บเข้ากองกลางเป็นค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเรือ และอื่นๆ (ใครถูกใจฝีพายท่านไหน หากพอมีกำลังทรัพย์ก็ช่วยทิปกันด้วยนะคะ)
ชมแมงกะพรุนน้ำจืด-ผีเสื้อป่า-หอยก้นตัด Unseen เขาค้อ ที่แก่ง 2
แป้บๆ ลุงเพ็ญก็บอกว่าด้านหน้าเป็นแก่ง 2 แล้ว ให้เริ่มมองน้ำดีๆ จะเห็นแมงกะพรุนน้ำจืด ขนาดประมาณเหรียญบาท ถ้าใหญ่หน่อยก็ขนาดประมาณเหรียญ 10 บาท สีขาวๆ ใสๆ ลอยรับแดดอยู่ใกล้ผิวน้ำ
ช่วงนี้เหมือนการประลองสายตากันเลย ว่าใครจะเห็นได้มากน้อยกว่ากัน แหล่งน้ำที่นี่ค่อนข้างใสนะ ส่วนสีน้ำตาลนั้นเป็นตะกอนใต้น้ำค่ะ
พวกเราแอบบ่นงึมงัมว่าถ่ายรูปยาก ลุงเพ็ญเลยจับแมงกระพรุนใส่ถังมาให้ถ่ายรูปกัน 4-5 ตัวค่ะ
แมงกะพรุนน้ำจืดจะชอบอากาศร้อน ยิ่งร้อนยิ่งโผล่มากันเยอะ แต่ด้วยว่ามันค่อนข้างบอบบาง ช่วงฤดูแมงกะพรุน ~ มีนาคม – พฤษภาคม ชาวบ้านหนองแม่นาจึงช่วยกันดูแลและกำชับไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ เพื่ออนุรักษ์แมงกะพรุน เพราะว่าบางคนทาโลชั่น ทาครีม ฉีดน้ำหอม อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำที่บอบบางเช่นนี้ได้
แมงกะพรุนน้ำจืดพบที่นี่ที่เดียวในประเทศไทย ตอนนี้ยังไม่มีคำอธิบายว่าทำไมจึงเกิดปรากฏการณ์นี้เฉพาะที่นี่ ในช่วงเวลาฤดูร้อนเท่านั้น
แอบส่องริมฝั่งข้างๆ ที่เรือจอด มีใครเห็นแมงกะพรุนน้ำจืดกันมั้ยคะ?
จากนั้นลุงเพ็ญก็ให้เราลงเรือเดินชมบรรยากาศฝูงผีเสื้อที่แก่ง 2 กันต่อ วันนี้คนน้อย มีแต่พวกเรากัน 3-4 คน
บนแก่ง 2 จะมีหลุมที่มีน้ำขัง ผีเสื้อก็มาเกาะกันตามหลุมต่างๆ เราแอบสังเกตเห็นลุงเพ็ญตักน้ำขึ้นมาราดหินโดยรอบ ด้วยความสงสัยจึงสอบถามได้ความว่าฝูงผีเสื้อป่ามาหาน้ำทาน คงเหมือนสัตว์ป่าแวะมากินดินโป่ง จึงพากันมุงรอบๆ หลุมเหล่านี้ (ฤดูกาลของผีเสื้อ ประมาณปลายตุลาคม-พฤษภาคม ยาวนานกว่าแมงกะพรุนเยอะเลย)
ลุงเพ็ญยังเสริมอีกด้วยว่าที่จริงแล้ว ผีเสื้อป่าชอบน้ำปูดอง ไม่ก็ของคาวๆ ก็จะยิ่งชอบ พากันมาเกาะตามโขดหินกันมากขึ้น ถ่ายรูปได้ง่ายกว่าเดิม (บางคนชอบอกชอบใจ ลงไปนอนถ่ายรูปกันเลยก็มี)
ใครจะมาล่องแก่งบางระจัน ลองเอาน้ำปูดองมาทดสอบกันดูนะคะ แล้วควรใส่เสื้อสีโทนอ่อนๆ ด้วย เพราะถ้าสีจัดเกินไป ผีเสื้อป่าอาจจะพากันบินหนีได้ค่ะ
ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่จู่ๆ อากาศก็เย็นพอดี ผีเสื้อและแมงกะพรุนเลยไม่มากเท่าที่ควร แต่ที่เห็นก็ถือว่าเยอะกว่าที่คิดแล้วนะ
กำลังรุมทานน้ำในแอ่งที่แห้งขอดกันอยู่
หนึ่งในพันธุ์ที่หายากสุดคือตัวนี้ สีดำ-ฟ้า หางยาวๆ ตอนลมแรงหางพริ้วสวยทีเดียว เหมือนว่าวเลย ลุงเพ็ญเรียกว่า ผีเสื้อพันธุ์หางมังกร
พวกเราถ่ายรูปผีเสื้อกันอีกสักหน่อย ลุงเพ็ญเอาสัตว์โลก unseen มาให้ชมกันอีก เรียกว่า “หอยก้นตัด” เป็นหอยที่มีตำนานเล่าขานของชาวบ้านแถบนี้ ว่ากันว่า 2 ตายายอยู่ด้วยกัน วันนึงตาออกไปข้างนอก ยายก็ไปเก็บหอยเตรียมมาทำอาหาร ตัดปลายก้นหอยไว้รอตา ตาไปเจอเม่นก็กินเม่นจนอิ่ม กลับมาบ้านยายเลยงอน เอาหอยที่ตัดก้นแล้วไปทิ้งในแม่น้ำ กลายเป็นหอยก้นตัด หรือ หอยตูดตัด ที่อยู่ในมือนี้แหละค่ะ ก้นหอยจะด้วนๆ โดยกำเนิดไม่ได้มีใครไปตัดอะไรเค้าเลย
เรื่องเล่าขานของแมงกะพรุนน้ำจืด และการอนุรักษ์ของชาวบ้าน
เที่ยวกันพอสังเขปแล้วจึงล่องเรือกลับกัน ขากลับอากาศเริ่มร้อนขึ้น แมงกะพรุนจึงลอยมาอาบแดดให้เราเห็นหลายสิบตัวเลย เยอะกว่าขามาอีก
ว่ากันว่าแถบนี้เมื่อก่อนเคยเป็นทะเล ต่อมาภูมิประเทศเปลี่ยนไป แมงกะพรุนทะเลเลยกลายเป็นแมงกะพรุนน้ำจืด แต่กระนั้นแมงกะพรุนก็อาศัยได้แค่ตรงแก่ง 2 ที่เดียว ลุงเพ็ญยังเสริมอีกว่า เคยมีนักวิจัยจับแมงกะพรุนพร้อมน้ำละแวกเดียวกันนี้ไปศึกษาในตู้ทดลอง อยู่ได้ไม่นานก็ตาย เค้าต้องอยู่ตามธรรมชาติของเค้า ดังนั้นชาวบ้านจึงต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
ขากลับจะมีล่องเรือผ่านสำนักสงฆ์หนองแม่นา ในโปรแกรมสามารถแวะขึ้นฝั่งไปให้อาหารปลาที่วังมัจฉาได้นะคะ แต่พอดีเรารีบกลับจึงไม่ได้แวะ
ป่าไม้ที่เห็นอุดมสมบูรณ์เพราะว่าชาวบ้านหนองแม่นาช่วยกันอนุรักษ์ แม้แต่ต้นไม้ที่ล้ม เจ้าหน้าที่อุทยานหรือชาวบ้านก็ไม่เอาออกมากัน ปล่อยไว้ตามธรรมชาติแบบนั้น ลุงเพ็ญพูดแบบเข้าใจง่ายๆ แต่ลึกซึ้งว่า ถ้ามีคนขอเอาออกมาสักต้น คนอื่นๆ เค้าก็จะเอาออกมากันหมด ไม่เหลืออะไรพอดี… ฟังแล้วรู้สึกอิ่มใจกับแนวคิดอนุรักษ์ของชาวบ้านที่นี่จังเลย 🙂
และแล้วไม่นานเรือก็กลับมาที่แก่ง 1 อีกครั้ง แม้จะเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมง แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เราได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติจริงๆ ค่ะ
ข้อมูลและแผนที่การเดินทาง
- นั่งเรือล่องน้ำเข็กไปกลับ แก่งบางระจัน-แก่ง 2 : หากมา 4 คนขึ้นไปคนละ 200 บาท / ต่ำกว่าเหมาจ่าย 800 บาท
- มีทุกวันในช่วงปลายตุลาคม – พฤษภาคม เวลา~ 9.00-16.00 น.
- เบอร์โทรศัพท์ติดต่อสอบถาม กลุ่มชุมชนคนรักษ์ป่าตำบลหนองแม่นา : 087-889-3855
แผนที่และการเดินทาง
ผู้สนใจสามารถเดินทางมาล่องแก่งบางระจัน ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ได้ตามแผนที่ด้านล่าง
หรือดูจากพิกัดใน Google Maps
แผ่นพับโปรแกรมนำเที่ยวแก่งบางระจัน หนองแม่นา เขาค้อ (ณ มีนาคม 2559)
นอกจากโปรแกรมที่เราเที่ยวแล้ว (กิจกรรมที่ 1 ในแผ่นพับ) ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมเลยทีเดียว รายละเอียดดูได้จากแผ่นพับด้านล่าง
การท่องเที่ยวหนองแม่นา ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวแปลกใหม่ ใครที่มาเขาค้อแล้วเบื่อแนวๆ ทะเลหมอก ก็ขับรถเลยมาอีกนิด มาล่องแก่งบางระจัน ชมธรรมชาติลำน้ำกันได้ ป่าที่นี่สมบูรณ์มาก ถ้ามาช่วงคนน้อยก็เงียบสงบ ได้บรรยากาศไปอีกแบบเลยล่ะ
เที่ยวกันให้สนุกนะคะ 🙂