สำหรับผู้ที่เคยชินกับการบินมานักต่อนัก อาจจะเคยได้ยินคำเตือนนี้มากันบ้าง แต่ถ้าไม่เคยได้ยิน ไม่เป็นไร วันนี้เรามารู้ไปพร้อม ๆ กัน
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Food & Wine ได้นำข่าวที่เคยตีพิมพ์ใน Travel + Leisure สองวันก่อนหน้า ได้ระบุว่า เครื่องดื่มที่เราไม่ควรสั่งดื่มบนเครื่องบินเลยก็คือ ชา กาแฟ และน้ำดื่มแบบที่ไม่เป็นขวด
แม้ว่าเราตื่นเช้ามาบนเครื่องแล้วอยากได้ตัวช่วยขนาดไหน
องค์กร EPA (Environmental Protection Agency) ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาและได้เปิดเผยข้อมูลในเว็บ Business Insider เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า เครื่องบิน 1 ลำในทุก ๆ 8 ลำ จะตกมาตรฐานคุณภาพน้ำที่ EPA ได้กำหนดไว้
เพราะว่า น้ำที่ใช้ชงชา กาแฟ รวมไปถึงน้ำดื่มในเวลาที่น้ำขวดบนเครื่องหมด ล้วนแต่มาจากก๊อกน้ำบนเครื่องบิน ซึ่งต่อมาจากถังเก็บน้ำรวมใต้ท้องเครื่องอีกที ซึ่งถูกคนขนส่งมาด้วยรถส่งน้ำของสนามบิน ซึ่งก็มาจากแทงค์เก็บน้ำของสนามบินอีกที การที่น้ำสะอาดถูกส่งต่อหลายทอด ทำให้มีโอกาสสูงที่จะปนเปื้อนเชื้อโรคระหว่างทาง โดยเฉพาะ E.Coli ที่เรารู้จักกันดี
นอกจากถังเก็บน้ำที่อาจจะล้างเพียงครั้งหรือสองครั้งต่อปีแล้ว น้ำร้อนบนเครื่องบินนั้น เดือดที่อุณหภูมิต่ำกว่าปรกติ เพราะฉะนั้น การสกัดสารออกจากกาแฟหรือชาจึงไม่ปรกติเหมือนบนพื้นดิน และนั่นเป็นสาเหตุที่เชื้อโรคบางตัวอาจจะยังไม่ตาย และกาแฟแก้วโปรดมีรสชาติผิดแปลกไป แม้ว่าบางสายการบินจะใช้เมล็ดกาแฟจากแบรนด์ดังก็ตาม
นายแพทย์ Cedric Spak ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ จากศูนย์การแพทย์ในมหาวิทยาลัย Baylor ได้แนะนำว่า ผู้ที่ติดเชื้อได้ง่าย ควรจะหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ทำบนเครื่องบิน รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการให้เด็กอ่อนดื่มน้ำเปล่าจากบนเครื่องบินด้วย
Business Insider ยังได้ทำการสัมภาษณ์องค์กรที่เกี่ยวข้องอีก อย่างเช่น The Association of Flight Attendants – CWA ซึ่งตัวแทนก็ได้ให้ข้อมูลว่า ในขณะที่ EPA มีกฏคร่าว ๆ วางไว้ให้ทางสายการบินปฏิบัติตามอย่างเช่น ความถี่ในการตรวจสอบคุณภาพน้ำ แต่ทาง CWA ก็เห็นว่า กฏนั้นยังบังคับใช้ไม่เข้มงวดและรัดกุมมากพอ
สายการบินในสหรัฐอเมริกา เช่น Southwest Airlines ได้ออกมายืนยันการรักษาคุณภาพน้ำที่ใช้บนเครื่องอย่างชัดเจน ในขณะที่ Delta Airlines และ American Airlines งดออกความเห็นในเรื่องนี้