แกรนด์แคนยอน (Grand Canyon) เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก คนส่วนใหญ่มักรับรู้ว่าการเดินทางไปยังแกรนด์แคนยอนต้องนั่งรถไปเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว แกรนด์แคนยอนนั่งรถไฟไปได้นะครับ (ถ้าไปเที่ยวแล้วใส่แท็ก #นั่งรถไฟไปแกรนด์แคนยอน คงเท่ซะไม่มี)
สหรัฐอเมริกามีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงข้ามประเทศ จากชิคาโกมายังแอลเอ ความยาว 3,645 กิโลเมตร (ความยาวและเส้นทางไล่เลี่ยกับ Route 66 ถนนสายประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา) บริหารงานโดยบริษัทรถไฟ Amtrak เป็นประจำอยู่แล้ว ทางรถไฟสายนี้เรียกว่า Southwest Chief ถ้าจะนั่งจากต้นทางมายังปลายทาง ต้องใช้เวลาทั้งหมด 42 ชั่วโมง หรือประมาณเกือบ 2 วัน! (รถมีออกทุกวัน วันละขบวน)
ส่วนทางรถไฟสายแกรนด์แคนยอนหรือชื่อเต็มๆ คือ Grand Canyon Railway ถือเป็นทางรถไฟสาขาของ Southwest Chef ที่วิ่งผ่านแกรนด์แคนยอนทางด้านทิศใต้ โดยจะมีจุดเปลี่ยนขบวนที่เมือง Williams ทางตอนใต้ของแกรนด์แคนยอน แล้วนั่งรถไฟขึ้นเหนือไปยัง Grand Canyon Village หมู่บ้านนักท่องเที่ยวเกือบติดหน้าผาแกรนด์แคนยอนเลย
บล็อกตอนนี้ไม่ได้พานั่งรถไฟไปแกรนด์แคนยอน (เพราะเราขับรถมา) แต่จะพาไปดูเมือง Williams ต้นทางของรถไฟสายแกรนด์แคนยอนกันสักหน่อยครับ
เมือง Williams เป็นเมืองขนาดไม่ใหญ่นักในรัฐแอริโซนา (Arizona) ที่ตั้งของแกรนด์แคนยอน มีประชากรแค่ประมาณ 3 พันกว่าคน แต่เมืองนี้มีความสำคัญต่อการเดินทางไปแกรนด์แคนยอนไม่น้อย เพราะเป็นเมืองที่อยู่ตรงทางแยกไปแกรนด์แคนยอนพอดี (ไม่ว่าจะมาด้วยรถยนต์หรือรถไฟ)
นักเดินทางจำนวนไม่น้อยจึงเลือกจะแวะพักที่เมือง Williams ก่อนเดินทางไปยังแกรนด์แคนยอนต่อไป เมืองนี้จะอยู่ห่างจากลาสเวกัสประมาณ 350 กิโลเมตร หรือขับรถประมาณ 4 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าเราออกจากลาสเวกัสตอนเช้า ก็จะได้เวลากินข้าวเที่ยงที่ Williams พอดี
ด้วยเหตุนี้ Williams จึงมีร้านอาหารและโรงแรมให้นอนพักมากพอสมควร (เมื่อเทียบกับขนาดเมือง) และบรรยากาศในเมืองยังคงไว้ซึ่งอาคารเก่าแก่ในยุคบุกเบิกตะวันตกของอเมริกาอยู่มาก ถนนสาย Route 66 ก็ผ่าใจกลางเมืองนี้ด้วยเช่นกัน
การเดินทางมายัง Williams ไม่มีอะไรยาก ขับมาตามถนน Interstate 40 ตามปกติ เจอป้ายชี้มา Williams ก็เลี้ยวเข้ามาเลย ถนน Route 66 จะตรงผ่ากลางเมืองเลย ทางรถไฟจะอยู่ฝั่งซ้ายมือของถนน ส่วนร้านอาหารและโรงแรมจะอยู่ทั้งสองข้างทาง
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองนี้ก็คือสถานีรถไฟนั่นแหละ (หาไม่ยากเพราะเมืองมันเล็กจริงๆ) เมื่อเข้ามายังเขตรถไฟก็จะเจอหัวรถจักร Grand Canyon จอดอยู่ดังภาพ
ตู้โดยสาร Grand Canyon ส่วนคำว่า Polar Express นั้นไม่ทราบว่าเกี่ยวอะไรด้วยแฮะ พวกนี้เป็นรถโชว์นะครับ จอดไว้เฉยๆ ไม่ได้ใช้งานจริง
ส่วนขบวนรถจริงจะออกจาก Williams ตอนเช้าไปยังแกรนด์แคนยอน (ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงนิดๆ) และวิ่งกลับมาที่ Williams ตอนเย็น
ตัวสถานี Williams จะเป็นอาคารแบบดั้งเดิม คลาสสิค
ภายในสถานีก็มีห้องขายตั๋วที่ยังเป็นไม้อยู่ บรรยากาศคลาสสิคเข้าไปอีก
ภายในสถานียังมีร้านขายของที่ระลึกด้วย ใหญ่โตทีเดียว สินค้ามากมาย ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับ Grand Canyon นั่นแล
อีกฝั่งของสถานี เป็นร้านอาหารและโรงแรมแบบดั้งเดิม เผอิญว่าช่วงที่ไปยังไม่เปิดบริการ
นอกสถานีมีร้านกาแฟเล็กๆ และเป็นผับของโรงแรมด้วยด้วย ชื่อว่า Java Crossing
ชมสถานีรถไฟพอหอมปากหอมคอแล้วก็ไปกินข้าวกันดีกว่า ร้านที่เราดูจากคะแนนรีวิวแล้วดีงาม ชื่อว่าร้าน Grand Canyon Coffee and Cafe อยู่หน้าสถานีเลย จอดรถได้หน้าร้าน (เว็บไซต์ของทางร้าน) เปิดบริการทุกวัน 6 โมงเช้าถึงบ่าย 3 ถ้าเป็นวันศุกร์และเสาร์ เปิดถึง 3 ทุ่มด้วย
อาหารของร้านนี้เป็นอาหารฝรั่ง อเมริกันกึ่งเม็กซิกัน และขายกาแฟด้วยตามธรรมเนียมของร้านอาหารในอเมริกา นอกจากนี้ยังมีอาหารจีนด้วย
อาหารมีหลากหลาย ทั้งอาหารเช้าพวกไข่ออมเล็ต เบคอน แพนเค้ก มัฟฟิน ไปจนถึงสลัด แฮมเบอร์เกอร์ แซนด์วิช และอาหารเม็กซิกันอย่างเบอริโตส
เราลองสั่งแซนด์วิชมาชิมดู จานนี้ชื่อ Mountain Man (7.75 ดอลลาร์) เป็นแซนด์วิซเนื้อ แซมด้วยหัวหอมและเชดด้าชีส เสิร์ฟมาคู่กับมันฝรั่งทอด (french fries)
กินแล้วเรายกนิ้วให้มันฝรั่งทอดร้านนี้อร่อยที่สุดในทริปเลยทีเดียว เป็นมันชิ้นค่อนข้างใหญ่ติดเปลือกมาด้วยนิดหน่อย แต่ทอดกรอบขึ้นมาร้อนๆ และปรุงด้วยเครื่องเทศนิดหน่อย อร่อยสุดๆ ชนิดว่าอร่อยกว่าร้านฟาสต์ฟู้ดเชนทั้งหมดที่กิน
ส่วนตัวแซนด์วิชนั้นเอาขนมปังไปทอดกับเนยก่อน ปรุงรสนิดๆ (คาดว่าเป็นเนยกระเทียม) แล้วค่อยมาโปะกับเนื้ออีกที ให้มา 2 ชิ้นใหญ่กินกันจุใจมาก เนื้อก็นุ่มไม่เหนียว รสชาติดีมาก
อีกจานที่สั่งชื่อ Canyon Burrito (8.50 ดอลลาร์) เป็นเบอริโตหรืออาหารเม็กซิกันแบบที่ห่อแป้ง แต่ปรับสูตรให้เป็นอเมริกันมากขึ้น เพราะไส้ในจะไม่ใช่ถั่วและธัญพืชแบบเม็กซิกัน แต่เป็นอาหารเช้าแบบอเมริกันแทน ประกอบด้วยไข่คน (scramble egg) มันฝรั่ง หัวหอม พริกหยวก เนื้อหมู ชีสเยิ้มๆ แล้วราดหน้ามาด้วยซอสออกแนวๆ ผงกะหรี่นิดๆ เสิร์ฟมาคู่กับซอสซัลซ่ารสค่อนข้างเผ็ด
ผ่าไส้ในให้ดู อัดแน่นมากๆ คือให้เยอะมากจนกินแทบไม่หมด
รสชาติถือว่าเป็นเบอริโตที่อร่อยมาก ซอสราดหน้าก็ช่วยให้มีรสมีชาติมากขึ้น แต่เนื่องจากขนาดมันใหญ่มาก แถมอาหารค่อนข้างเป็นแนวเลี่ยนๆ นิดๆ เลยยกให้จานแซนด์วิซอร่อยกว่าหนึ่งขั้น
โดยสรุปแล้ว ร้าน Grand Canyon Coffee and Cafe ถือเป็นร้านอาหารในเมือง Williams ที่ห้ามพลาดถ้าหากคิดจะแวะมากินข้าวที่ร้านนี้ แต่อาหารของทางร้านจะออกช้าสักหน่อย และต้องเตือนว่าให้ปริมาณเยอะมากเมื่อเทียบกับขนาดปกติของคนไทย (ถ้ากินเหลือ ขอกล่องพลาสติกใส่ไปกินต่อภายภาคหน้าได้)
กินเสร็จแล้วเราก็เดินทางออกจาก Williams เพื่อมุ่งสู่จุดหมายปลายทางคือแกรนด์แคนยอน โดยใช้เวลาขับรถอีกประมาณ 1 ชั่วโมง (ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร) ซึ่งก็จะเล่าต่อไปในตอนหน้า