นอกจากร้านอย่าง Yat Lok ซึ่งเป็นร้านขึ้นชื่อเรื่องห่านย่างในฮ่องกงแล้ว อีกหนึ่งร้านที่ไม่ควรพลาดสำหรับคอห่านย่าง และเป็นร้านใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในฮ่องกง คือ Kam’s Roast Goose
Kam’s Roast Goose เป็นอีกหนึ่งร้านที่ย่างห่านได้อร่อยถึงระดับติดดาวมิชลิน แต่มีราคาที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับคุณภาพ ดังนั้นคิวยาวแทบทุกวัน 2baht.com ขอพาท่านผู้อ่านไปรู้จักและชิมห่านย่างเจ้าดังที่มาแรงแซงทุกทางโค้งเจ้านี้ครับ
ที่มาของ Kam’s Roast Goose
Kam’s Roast Goose (จากนี้ไปจะย่อเป็น KRG เพื่อความสะดวกของผู้เขียน) ตั้งอยู่ในย่าน Wan Chai แถบ Causeway Bay ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2014 นี้เอง แต่กลับมาแรงแซงทุกทางโค้ง คนฮ่องกงและนักท่องเที่ยวต่างมารอคิวเพื่อทานห่านย่างของร้านนี้
ประวัติของ KRG แทบเหมือนกับละครดราม่าจีน หลังจากการเสียชีวิตของ Kinsen Kam เจ้าของร้านห่านย่างชื่อดังรุ่นที่สาม Yung Kee ทำให้ญาติพี่น้องแตกคอกันเอง ฝ่ายพี่คนโตได้กิจการเดิมไปครอบครอง ส่วนฝ่ายน้องชาย Ronald Kam Kwan-lai แยกออกมาทำร้าน KRG ในปี 2014 (การแตกคอช่วงนั้นเป็นข่าวดังมากที่ฮ่องกง ลองอ่านรายะเอียดเพิ่มเติมใน Coconuts Hong Kong)
ร้าน KRG ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วจากคนฮ่องกง ถึงขนาดหนังสือพิมพ์ South China Morning Post หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษชื่อดังของฮ่องกง ยกให้เป็นหนึ่งในร้านห่านย่างที่ “เนื้อนุ่มที่สุด” (อ้างอิง) แถมร้าน KRG ที่เป็นร้านสาขาที่แยกตัวออกมา กลับได้ดาวมิชลินในปี 2015 หลังเปิดร้านไม่นาน ขณะที่ร้านดั้งเดิมของตระกูลกลับไม่ได้ดาวเลย (อ้างอิง)
ข้อมูลของร้านและการเดินทาง
- เปิดบริการทุกวัน 11:30 น. – 21:30 น.
- หมายเลขโทรศัพท์ 5408 7740 หรือ 2520 1110
- สถานีรถไฟฟ้า MTR ที่ใกล้ที่สุด Wan Chai (สายสีน้ำเงิน Island Line) ใช้ทางออกหมายเลข A4 แล้วเดินไปตามถนน Hennessy Road ที่ตัดกับ Fleming Road ประมาณ 150 – 200 เมตร ร้านตั้งอยู่ฝั่งเดียวกับทางออก A4 (แผนที่)
คำแนะนำสำหรับคนที่ต้องการมาทานที่ร้านนี้ จงมาทานในเวลาที่คนทั่วไปไม่ค่อยมากัน เพราะคิวที่นี่ยาวมาก ทีมงาน 2Baht ไปยืนรอเป็นคนแรกของคิวตอน 10.30 น. พอหันมาอีกทีตอน 11.00 น. พบคนเริ่มมาต่อคิวแล้ว และอีก 10 นาทีให้หลัง ก็ได้ภาพคิวยาวเหยียดอย่างที่เห็นด้านบนครับ
ตัวร้านถือว่ามีขนาดเล็กมาก แต่แต่งอย่างดี ดูหรูหรา พอเป็นร้านดังและที่นั่งมีน้อย เราอาจต้องนั่งรวมกับคนอื่นๆ ในร้านนะครับ 🙂 ทางร้านขอให้ทุกคนที่จะมาทานต้องมาพร้อมกันนะครับ มาไม่ครบจะไม่ให้เข้า (ดูป้ายประกอบด้านล่าง)
รีวิวอาหารของ Kam’s Roast Goose
งวดนี้เราสั่งสองอย่าง ได้แก่ ข้าวหน้าห่านย่าง (48 ดอลลาร์ฮ่องกง) และ หมูกรอบ (72 ดอลลาร์ฮ่องกง) ใช้เวลาพอไม่นาน อาหารก็มาถึงบนโต๊ะ
เริ่มต้นกันที่จานแรกคือ ข้าวหน้าห่านย่าง เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยหวานและผักคะน้า สิ่งแรกที่เห็นคือให้เนื้อห่านมาชิ้นหนา จนแทบกลบข้าวได้เลย คะน้าที่ต้มมานุ่มกำลังดี แต่ยังสู้ฟันอยู่ เรียกว่าเคี้ยวง่าย ไม่แข็งและเหนียวจนเกินไป น้ำจิ้มถือว่าทั่วไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ส่วนข้าวถือว่าอร่อยมากกว่าข้าวทั่วไป หอมกำจายอย่างมาก
เนื้อห่านของร้าน KRG มีความต่างไปจากเนื้อห่านของ Yat Lok ตรงที่กลิ่นและรสชาติ ละม้ายคล้ายกับเนื้อหมูแดงมากกว่า ดังนั้น ใครชอบทานหมูแดงต้องชอบห่านของที่นี่แน่นอน มีทั้งความหวานและความเค็มที่ทำออกมาได้พอดีอย่างลงตัวจนน่าทึ่ง เนื้อห่านนุ่มนวลและชุ่มฉ่ำตามคำร่ำลือ แม้จะเป็นเนื้อส่วนอกก็ตาม เรียกว่าสมบูรณ์แบบไปอีกสไตล์หนึ่งเลยทีเดียว
ห่านที่นี่สับมาพร้อมกระดูกแบบเดียวกับ Yat Lok ใครไม่ชอบเผชิญหน้ากับกระดูก ต้องทำใจล่วงหน้านะครับ
อีกจานหนึ่งที่สั่งมาคือ หมูกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสมัสตาร์ด ถือเป็นอีกจานหนึ่งที่ทำออกมาได้น่าสนใจ หมูกรอบร้านนี้ต่างจากออกไปจากร้าน Lei Garden ตรงที่หนังหนากว่า กรอบสะใจมากกว่า รวมถึงกรอบมีมิติมากกว่าด้วย แต่สำคัญที่สุดคือรสชาติกลับไปตกอยู่ที่เนื้อแทน (ตัวหนังหมูกรอบอย่างเดียว แต่ไม่มีรสชาติ) ตัวเนื้อมีรสค่อนข้างเค็ม (แนะนำให้ทานพร้อมข้าวจะดีกว่า) เครื่องเทศจัดจ้าน เป็นหมูกรอบอีกสไตล์หนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันครับ (โดยส่วนตัวให้ KRG อร่อยกว่าที่ Lei Garden)
หมูกรอบของที่นี่มีกลิ่นของโป้ยกั๊ก (star anice ที่เป็นหนึ่งในเครื่องพะโล้) ค่อนข้างชัด แบบเดียวกับห่านย่าง ทำให้ความหอมของหมูกรอบที่ออกมาต่างไปจากร้านอื่น
สรุป
KRG ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าสนใจ ราคานี้ไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับร้านระดับหนึ่งดาวมิชลิน แถมร้านดั้งเดิม (Ying Kee) ยังคิดราคาแพงกว่านี้มาก
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวเมื่อไปร้านนี้คือ ต้องรอคิวนานสักนิดหนึง คำแนะนำก็คงหนีไม่พ้นที่ว่า ให้ไปก่อนเวลา หรือไม่ก็หลังเวลาคนเยอะครับ