2baht.com เคยมีรีวิวร้าน Lung King Heen ห้องอาหารจีนกวางตุ้งแห่งแรกของโลกที่ได้ 3 ดาวมิชลิน ไปแล้ว แต่ในคราวนี้เราจะพาท่านผู้อ่านกลับไปชิมอาหารที่ร้านนี้อีกครั้ง แต่คราวนี้เป็น Executive Lunch Set (แปลเป็นไทยคือชุดอาหารเที่ยงสำหรับผู้บริหาร)
ข้อมูลของร้านอาหารและบรรยากาศร้าน
![หน้าทางเข้าร้าน Lung KIng Heen](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_114015-711x400.jpg)
ท่านผู้อ่านอาจจะทราบประวัติของ Lung King Heen ไปแล้วในรีวิวเก่า ร้านนี้ถือเป็นร้านอาหารที่แทบจะเป็นสถาบันอาหารจีนในฮ่องกง และโด่งดังมานานก่อนมีมิชลินไกด์ในฮ่องกงเสียอีก
ในปัจจุบัน Lung King Heen เป็นหนึ่งในห้องอาหารของโรงแรม Four Seasons Hong Kong ครับ (ในโรงแรมมีห้องอาหารอื่นๆ ที่ได้ดาวมิชลินเหมือนกัน เช่น Le Caprice ห้องอาหารฝรั่งเศส) ข้อมูลเบื้องต้นของร้านมีดังนี้
- เปิดบริการทุกวัน เวลา 12:00 น. – 14:30 น. (ช่วงเที่ยง), 18:00 น. – 22:30 น. (ช่วงค่ำ)
- หมายเลขโทรศัพท์ 3196 8880
- สถานีรถไฟฟ้า MTR ใกล้ที่สุด Hong Kong หรือ Central (แล้วแต่สาย) โดยให้เดินไปทาง IFC Mall จากนั้นเมื่อถึงภายใน IFC Mall ให้เดินไปฝั่งตึก IFC One เดินผ่านทางเชื่อมเข้าโรงแรม Four Seasons ครับ
- สำคัญมาก การมากินที่นี่ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้ากับทางโรงแรม เพราะโอกาสได้ที่นั่งแบบเดินเข้าไปทานเอง (walk-in) ยากมากถึงยากที่สุด
Lung King Heen มีอาหารชุดผู้บริหารเฉพาะมื้อกลางวัน ที่ราคา 520 ดอลลาร์ฮ่องกง ราคานี้ยังไม่รวมเครื่องดื่ม (ถ้าสั่งชาปกติคิดท่านละ 35 ดอลลาร์ฮ่องกง) และไม่รวมค่าบริการอีก 10% (รวมๆ แล้วประมาณ 620 ดอลลาร์ฮ่องกง) ซึ่งถือว่าราคาสูงเอาเรื่อง
เมนูอาหารชุดผู้บริหาร จะเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลา ผู้ที่ตามไปทานอาจได้อาหารไม่ตรงกับรีวิวนี้เลยก็ได้ (หากอยู่ในช่วงเปลี่ยนเมนู) ดังนั้นควรสอบถามกับทางร้านว่าในวันที่ตนเองไปนั้น มีเมนูอะไรบ้าง
![บรรยากาศภายในร้าน](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_120234-e1448847205533-711x400.jpg)
ห้องอาหาร Lung King Heen (จากนี้จะใช้ตัวย่อว่า LKH) ขึ้นชื่อเรื่องของการรอคิว ไม่ว่าจะเป็นคิวหน้าร้านและคิวสำรองที่นั่ง ควรสำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือนขึ้นไป เพื่อให้มั่นใจว่ามีที่นั่งแน่นอน
นอกจากนี้ ทางร้านจะสำรองที่นั่งที่เราจองไว้ตามวันและเวลาเพียง 15 นาที เท่านั้น ถ้าไปสายเกิน 15 นาที ที่นั่งหลุดทันที ดังนั้นควรไปตรงต่อเวลาด้วยนะครับ 🙂
เมื่อไปถึงแล้วแจ้งชื่อ เจ้าหน้าที่จะนำเราไปนั่งที่โต๊ะและนำเมนูออกมาให้เราเลือกครับ ต้องชมว่าเจ้าหน้าที่ว่าบริการดีมาก แถมหมั่นสังเกตลูกค้าด้วย (ผู้เขียนถนัดมือซ้าย เจ้าหน้าที่ถามว่าต้องการย้ายอุปกรณ์มาด้านซ้ายหรือไม่ ผมบอกว่าไม่เป็นไร)
อาหารภายในชุด
หลังจากที่เราเลือกสั่งอาหารชุดผู้บริหารไปแล้ว ใช้เวลาสักพักหนึ่งเจ้าหน้าที่จะจัดเตรียมน้ำจิ้มต่างๆ มาให้ ก่อนจะเริ่มจานแรกด้วยติ่มซำแบบนึ่งที่มาพร้อมกันสองอย่าง คือ ฝั่นโก๋ไส้ทะเล กับ ฮะเก๋า
![ฝั่นโก๋ไส้ทะเลและฮะเก๋า](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_121854-e1448847650960-711x400.jpg)
เริ่มจากตัวฝั่นโก๋ก่อน ต้องบอกว่าแป้งบางถึงบางมากแต่ยังคงความเหนียวสู้ฟัน และอัดไส้ทะเลมาเต็มที่ เมื่อกัดเข้าไปมีทั้งผัก เห็ด และเครื่องทะเลอย่างเช่น กุ้ง หน่อไม้ฝรั่ง แห้ว เห็นหอม อย่างไรก็ตาม กลิ่นของคื่นช่ายก้านเล็กที่ใส่มาภายในและถูกจิ้มไว้ด้านนอก ทำให้ความเป็นทะเลของติ่มซำลูกนี้หายไปเยอะมาก เวลาทานอาจสัมผัสความเป็นทะเลได้ไม่มากเท่าที่ควรจะเป็น ซึ่งก็น่าเสียดายอยู่บ้าง
![ฮะเก๋าที่แป้งบางสะใจ](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_121955-e1448848019983-711x400.jpg)
ต่อมาเป็น ฮะเก๋า ทำออกมาได้พอดิบพอดีมากๆ ทั้งเค็มและเด้ง รวมถึงรักษาความสดของอาหารทะเลได้เต็มที่ ตัวแป้งก็บางเฉียบ ถือเป็นหนึ่งในอาหารแนะนำของร้านเลย สิ่งที่ขอตั้งข้อสังเกตเอาไว้คือคราวนี้ฮะเก๋าไม่ได้ใส่เห็ดหอมเอาไว้ (แบบที่มาชิมครั้งที่แล้ว) แต่ก็ไม่ได้ลดทอนสาระสำคัญไปครับ
![ซาลาเปาอบไส้หมูแดง](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_122515-711x400.jpg)
จานต่อไปอาจเป็นของโปรดใครหลายคน ซึ่งก็คือ ซาลาเปาไส้หมูแดงอบ ซึ่งของร้านนี่ใช้สูตรต่างจากร้าน Tim Ho Wan ค่อนข้างมาก คือไม่ติดหวาน เนื้อแป้งร่วนไม่แข็ง (ออกแนวขนม pastry เสียมากกว่า) รวมถึงลักษณะภายนอกก็แตกต่างออกไป
![ด้านในของซาลาเปาไส้หมูแดงอบ](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_122753-711x400.jpg)
เรื่องรสชาติของซาลาเปา ต้องบอกว่าของร้าน Lung King Heen ให้รสชาติที่พอเหมาะระหว่างความหวานและความเค็ม ลงตัวอย่างมาก ความหวานค่อนข้างกลม ไม่แหลม อีกทั้งไม่มีกลิ่นของเนยมาการีนที่รุนแรงจนเกินไป จานนี้สอบผ่านอย่างไม่ต้องสงสัยครับ
![ซุปปลากับถั่งลิสง](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_123801-711x400.jpg)
จานต่อมาเป็น ซุปปลากับถั่วลิสง ทำออกมาได้ดีมาก มีการใช้เนื้อเป็ดร่วมด้วยทำให้ไม่มีกลิ่นคาวปลามาก ส่วนเรื่องรสชาติมีความเค็มแบบเกลือทะเลแฝงอยู่ จานนี้ถือว่าทานได้เรื่อยๆ และให้รสชาติที่กลมกล่อมครับ (ในห้องอาหารแอร์ค่อนข้างเย็น ได้จานนี้ช่วยให้อบอุ่นได้มากอยู่)
![ซุปปลากับถั่วลิสง](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_123841-711x400.jpg)
ต่อไปเป็น รวมชุดของย่าง ซึ่งประกอบไปด้วย หมูแดง, เป็ดย่างซีอิ้ว และ แมงกระพรุนย่าง ครับ ทั้งสามอย่างนี้ถูกจัดเข้ามาเป็นชุดแล้วเสิร์ฟในถาดเล็กๆ น่าทานไปอีกแบบ
![ชุดอาหารย่าง](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_125529-711x400.jpg)
เริ่มต้นที่ หมูแดง ก่อน หมูแดงที่ให้มาถือว่าดีมากและนุ่มนวลมาก มีความลงตัวทั้งความมันและความนุ่มนวลของเนื้อ ส่วนรสชาติไม่ต่างจากในซาลาเปาอบแต่อย่างไร ที่น่าทึ่งคือการเคลือบน้ำผึ้งของตัวหมูแดง ทำให้หมูแดงนี้ปรุงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เทียบแล้วหมูแดงบ้านเรายังห่างไกลอยู่มากโขเลยทีเดียว (ยกเว้นบางเจ้าอย่าง กุ๊ก ฝ้า หยู่น ที่อาจพอสูสี)
![หมูแดงย่าง](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_125524-711x400.jpg)
เป็ดย่างซีอิ้ว เป็นอาหารอีกอย่างที่สร้างความโดดเด่นได้เป็นอย่างดี รสชาติของตัวเป็ดออกมาชัดเจนแล้วชูขึ้นด้วยซีอิ้วที่ใช้ประกอบ จะมีติดนิดเดียวตรงที่รสชาติค่อนข้างเค็ม และเป็นลักษณะที่เค็มโดดออกมาชัดมาก (ตอนทานนึกถึงข้าวสวยร้อนๆ สักจาน) เวลาทานอาจต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วย
![เป็ดย่างซีอิ้ว](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_125533-711x400.jpg)
ของชิ้นสุดท้ายก็คือ แมงกระพรุนย่าง โดยส่วนตัวแล้วถือว่าเฉยๆ ในเชิงรสชาติ แต่ในเชิงของการเล่นกับสัมผัสแล้วถือว่าดีมาก ตัวแมงกระพรุ่นทั้งเด้งทั้งกรุบกรอบ อีกทั้งยังสอดแฝงกลิ่นไหม้นิดๆ มาด้วย ส่วนรสชาติออกทั้งหวานทั้งเค็ม (เหมือนเอาสองอย่างแรกมาสรุปในตอนท้าย) มาคู่กันแบบลงตัว
![แมงกระพรุนย่าง](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_125537-711x400.jpg)
จานต่อไปเป็น เนื้อผัดผัก เป็นเนื้อผัดกับซอสมาพร้อมกับสารพัดผักและเห็ด จานนี้ติดโทนไปค่อนข้างเค็ม เนื้อที่ให้มาถือว่านุ่มนวลมาก แฝงความเผ็ดเครื่องเทศมานิดๆ จานนี้ถือว่าเยี่ยมยอดมากๆ ครับ
![เนื้อผัดผัก](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_131241-711x400.jpg)
จานต่อไปเรียกว่าน่าผิดหวังมากที่สุดในมื้อนี้ คือ บะหมี่เกี้ยวกุ้ง ถึงแม้ว่าจะทำออกมาได้ดีพอควร แต่เมื่อเทียบกับบะหมี่ร้านดังอย่าง Mak’s Noodle หรือ Ho Hung Kee ยังถือว่าห่างชั้นอยู่มาก
ปัญหาอยู่ที่ตัวเส้นที่ลวกมาสุกจริง แต่สุกในระดับที่เสียความเป็น al dente ไป (เคี้ยวไม่มัน) น้ำซุปถือว่าอ่อนรสชาติ ติดไปทางจืด สิ่งเดียวที่ทำให้โดดเด่นคือตัวเกี๊ยวที่ใช้วัตถุดิบเดียวกับฮะเก๋า ถ้าเป็นไปได้ก็ขอแนะนำให้ข้ามจานนี้ไปครับ (ในเซ็ตมีข้าวผัดให้เลือกด้วย แต่คราวนี้เลือกบะหมี่แทน)
![บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_131356-711x400.jpg)
![เส้นบะหมี่](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_131426-e1448852107413-711x400.jpg)
ปิดท้ายกันที่ของหวานสองชนิด จานแรกเป็น ซุปไพน์นัท (หรือซุปถั่วต้นสน) ส่วนอีกจานเป็น shortbread และ วุ้นดอกหอมหมื่นลี้และเม็ดเก๋ากี๊
![ซุปไพน์นัท](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_132633-711x400.jpg)
ซุปไพน์นัท (เรียกภาษาบ้านๆ คือซุปเมล็ดต้นสน) เป็นซุปที่ค่อนข้างข้น ได้สัมผัสของไพน์นัทอย่างเต็มที่ หวานกำลังพอดีไม่แหลมจนเกินไปนัก ตัวซุปยังใส่เมล็ดวุ้นสีดำ (สีเหมือนถั่วดำ) ให้มาเคี้ยวเล่นเพลินๆ ด้วย ถือว่าให้มิติด้านสัมผัสที่ครบเครื่อง ไม่ใช่มีแต่ซุปอย่างเดียว
![shortbread และวุ้นดอกหอมหมื่นลี้และเม็ดเก๋ากี๊](http://2baht.com/wp-content/uploads/2015/11/20151116_132636-711x400.jpg)
ปิดท้ายกันที่จานเล็ก ซึ่งมี shortbread ที่ทำจากมันหมูและวอลนัท ทำมาได้กรอบ เคี้ยวอร่อย รสหวานกำลังพอดีไม่รุนแรงมาก ส่วน วุ้นดอกหอมหมื่นลี้และเม็ดเก๋ากี๊ ทำออกมาได้ดีอย่างน่าทึ่ง ถ้าให้เทียบกับจานเดียวกันของ Tim Ho Wan อยู่ในระดับที่พอๆ กันครับผม ยกเว้นว่าที่ Tim Ho Wan จะติดหวานกว่าเล็กน้อยครับ
สรุปรีวิว
ถือว่าอาหารชุดผู้บริหารตอนมื้อเที่ยงของที่นี่ทำออกมาได้ดีมาก มีคุณภาพ และการบริการก็ดีมากเกินความคาดหมาย สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือยังคงรักษาคุณภาพของอาหารเอาไว้ได้อย่างดี ฝีมือไม่ตกจากที่เคยไปกินคราวก่อน
ข้อด้อยคือการเสิร์ฟอาหาร เพราะคราวนี้ LKH ออกอาหารได้ช้าถึงช้ามาก (ผิดกับครั้งที่แล้ว) การชิมครั้งนี้ใช้ระยะเวลาทานนานถึง 1.30 ชั่วโมง (ไปตั้งแต่ 12:00 น. ออกมาจากห้องอาหาร 13:30 น.) ต้องทำใจกันสักนิดว่าต้องทานกันนานหน่อยนะครับ
เรื่องที่ต้องควรคำนึงคือการสำรองที่นั่งล่วงหน้า โดยเฉพาะในหน้าเทศกาลที่จองกันเต็มข้ามปีไปแล้วในบางช่วง รวมไปถึงราคาที่สูงมาก ถ้านานๆ ทานทีอาจจะพอไหวครับผม